posttoday

"สัณหพจน์"เห็นต่างกมธ.คมนาคมวุฒิฯหนุนขุด"คลองไทย"เชื่อมีผลดีมากกว่าเสีย

19 กรกฎาคม 2563

ส.ส.พลังประชารัฐโต้กรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภาค้านขุด"คลองไทย" ติงขอให้เปิดใจศึกษาข้อมูลร่วมกันก่อนต้าน เชื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนมากกว่าผลเสีย

เมื่อวันที่ 19 ก.ค.นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการขุดคลองไทย และการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เปิดเผยว่า จากข้อขัดแย้ง ของ พล.ร.อ.พัลลภ ตมิศานนท์ กรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา ถึงเรื่องการก่อสร้าง “คลองไทย” ซึ่งไม่คุ้มค่ากับการลงทุน มีผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงผลกระทบต่อความมั่นคง ทำให้หสูญเสียอำนาจอธิปไตยเหนือคลองไทยนั้น ตนไม่เห็นด้วย หากจะหาข้อหักล้างกับเหตุผลดังกล่าว ตนเชื่อว่า คลองไทย จะเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนประเทศ และเศรษฐกิจของประเทศได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ เรื่องของการความคุ้มค่าในการลงทุน ตามที่ พล.ร.อ.พัลลภ ระบุว่า ใช้เงินลงทุนกว่า 2.26 ล้านล้านบาท แต่มีรายได้จากการเก็บค่าธรรมเนียมเรือผ่าน ที่จะมีเรือผ่านประมาณ 30 – 40 ลำ รวมรายได้จากเกาะเทียมจะได้ผลตอบแทนภายในต่ำมาก คือ IRR 3-4% โดยมีระยะเวลาคืนทุนมากกว่า 50 ปี ทำให้เกิดการขาดทุนมหาศาลนั้นก็ ต้องชี้แจงว่า จำนวนเรือ 30-40 ลำนั้นเป็นจำนวนที่คิดเอาเอง หากนับปัจจุบันเรือสินค้าที่ใช้บริการผ่านช่องแคบต่างๆ ทั้งช่องแคบมะละกา สิงคโปร์ ลอมบอค และซุนด้า มีไม่ต่ำกว่าวันละ 2,500 ลำ หากคิดว่ามีเรือส่วนหนึ่งหันมาใช้บริการผ่านคลองไทยแค่เพียง 10%

"สัณหพจน์"เห็นต่างกมธ.คมนาคมวุฒิฯหนุนขุด"คลองไทย"เชื่อมีผลดีมากกว่าเสีย

ทั้งนี้ มีข้อได้เปรียบคือ คลองไทยสามารถรองรับการขนส่งสินค้าของเรือทุกประเภทโดยไม่จำกัดความลึกของน้ำ ดังนั้นจึงมีโอกาสที่เรือสินค้าจะมาใช้บริการคลองไทยมากกว่า 30-40 ลำ แน่นอน หากสามารถร่นระยะเวลาและต้นทุนในการเดินทางให้กับเรือเหล่านั้นได้โดยคลองไทยในอนาคตนั้นมีโอกาสที่จะสร้างมูลค่ารวมต่อปีได้ใกล้เคียงกับคลองคีล ของประเทศเยอรมนี คือประมาณ 29 พันล้านยูโร หรือประมาณ 9 แสนล้านบาทต่อปี

สำหรับ เรื่องของระบบนิเวศ ก่อนที่จะถึงขั้นตอนของการสร้างคลองไทยจะต้องมีการทำรายงานศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดีก่อนอยู่ดี ส่วนที่ พล.ร.อ.พัลลภ เป็นห่วงว่า สัตว์น้ำจะว่ายข้ามถิ่น ไปทำลายสายพันธุ์อื่นได้ถือเป็นการละเมิดสัญญาความหลากหลายทางชีวภาพ ทำให้ต่างชาติคว่ำบาตรไทย เรื่องดังกล่าวตนขอให้มองถึงการสร้างคลองสุเอช ที่ทำให้ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและทะเลแดง ที่ห่างกันกว่า 7,000 กม. ขณะที่คลองไทย เป็นการเชื่อมต่อทะเลอ่าวไทยและอันดามัน หากมีการทำลายสายพันธุ์ก็คงเกิดขึ้นเป็น 100 ปีมาแล้ว เพราะทะเลทั้ง 2 ฝั่งเชื่อมต่อกันทางช่องแคบมะละกาที่ระยะทางแค่ 700 กม.เท่านั้น ดังนั้นเรื่องดังกล่าวจึงไม่น่าเป็นส่วนที่จะทำให้ต่างชาติคว่ำบาตรคลองไทย

นายสัณหพจน์  กล่าวถึงข้อห่วงใยด้านเรื่องของความมั่นคงว่า เป็นข้อถกเถียงกันมานานนับ 10 ปี สิ่งที่ พล.ร.อ.พัลลภ กังวลว่า เราจะสูญเสียอำนาจอธิปไตยเหนือคลองไทยนั้น ขออธิบายว่า คลองไทยไม่ได้มีความสำคัญในแง่ยุทธศาสตร์ขนาดนั้น เพราะนอกจากคลองไทยแล้วยังมีเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างมหาสมุทรอินเดียและทะเลจีนใต้ให้เลือกอีก 5 ช่องทางคือ มะละกา ซุนด้า ลอมบอค ติมอร์ และออสเตรเลีย ซึ่งมหาอำนาจไม่มีความจำเป็นต้องเข้ามาควบคุมคลองไทยเลย ไม่เหมือนกับคลองขุดอื่น เช่น คลองสุเอช หรือคอลงปานามา ที่เป็นจุดการเชื่อมต่อเพียงแห่งเดียวของพื้นที่ยุทธศาสตร์ในส่วนนั้น จึงอยากให้ พล.ร.อ.พัลลภ เปิดใจให้กว้าง เพื่อรับฟังข้อมูลใหม่ที่คณะกรรมการฯ กำลังศึกษา และหาทางออกร่วมกันในทุกฝ่าย ซึ่งจะต้องมีการทบทวนข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วนที่สุด เพื่อคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนอย่างสูงสุด