ย้อนรอย15ปีมัสยิดกรือเซะร้องรัฐพัฒนาพื้นที่รับนักท่องเที่ยวทั่วโลก
ปัตตานี-ย้อนรอย 15ปี มัสยิดกรือเซะชาวบ้านเรียกร้องให้รัฐเข้ามาพัฒนาพื้นที่เพื่อรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
ปัตตานี-ย้อนรอย 15ปี มัสยิดกรือเซะะชาวบ้านเรียกร้องให้รัฐเข้ามาพัฒนาพื้นที่เพื่อรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
ในโอกาสครบรอบ15ปีเหตุการณ์ความไม่สงบที่มัสยิดกรือเซะม.3 บ้านกรือเซะ ต.ตันหยงลุโล๊ะ จ.ปัตตานี ทำมีผู้เสียชีวิตที่มัสยิตกรือเซะมากถึง 34 ศพ
บรรยากาศทั่วไปที่มัสยิดแห่งนี้ยังมีนักท่องเที่ยวทั่วสารทิศทั้งในประเทศและต่างประเทศไม่ขาดสาย โดยเฉพาะชาวมาเลเซียนิยมเดินทางมาเยี่ยมชมมัสยิดกรือเซะในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ โดยส่วนใหญ่จะใช้รถโดยสารบัสขนาดใหญ่และมินิบัส
นอกจากนี้ ยังมีกรุ๊ปที่มากับรถจักรยานยนต์เป็นกลุ่ม 9-10คัน พักข้างคืนที่จังหวัดปัตตานี
นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย รัฐปีนัง กล่าวว่า วันนี้ได้พาคณะเขามากับรถจักรยานยนต์ 9 คัน เข้าชายแดน จ.สงขลา แล้วมาพักที่จังหวัดยะลาที่ศูนย์ดะวะห์ในพื้นที่จังหวัดยะลา แล้วจะพักข้างที่ปัตตานีอีกคืน ก่อนคณะจะขับขี่รถจักรยานยนต์กลับประเทศมาเลเซีย บางคนในคณะพึ่งมาเป็นครั้งแรก บางรายได้เข้ามาบ่อย รู้สึกดีมากกับบรรยากาศในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด หลังจากพื้นที่มักมีเหตุความไม่สงบขึ้นบ่อยครั้ง แต่สำหรับนักท่องเที่ยวแล้วรู้สึกอบอุ่นดี ปลอดภัยดี แล้วคนที่นี่มีอัธยาศัยดี
นอกจากนั้นยังมีนักท่องเที่ยวจากในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และที่มาจากต่างจังหวัดทั้งมุสลิมและที่ไม่ใช่มุสลิมต่างก็แวะเยี่ยมชมโบราณสถานมัสยิดกรือเซะแห่งนี้มาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้บางครั้งบางโอกาสสถานที่เหมือนไม่เพียงพอในการรองรับแขกผู้มาเยือน โดยเฉพาะในเรื่องห้องน้ำ ห้องสุขา โดยมีห้องน้ำแยกชายหญิง ชายจำนวน3ห้อง หญิงจำนวน2ห้อง จึงมีไม่เพียงพอที่จะรองรับนักท่องเที่ยว
ส่วนระบบน้ำประปาของมัสยิดยังไม่เรียบร้อยหลังจากที่บ่อน้ำบาดาลของมัสยิดได้รับความเสียหายมาเกือบปี แต่ยังไม่ได้ดำเนินการแก้ไข ปัจจุบันทางมัสยิดได้ใช้ดูดน้ำจากบ่อน้ำตื้นแทนแต่ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะดูดน้ำได้สักพักน้ำก็แห้ง จึงใช้เวลาดูดนานกว่าปกติ เพื่อดึงน้ำเติมในระบบประปาของมัสยิดไว้บริการนักท่องเที่ยว
ด้านนายมะรอนิง ลาเตะ ประธานชมรมรักษ์กรือเซะ กล่าวว่าอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาพัฒนามัสยิดกรือเซะและพื้นที่โดยรอบให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่มาจากทั่วโลก เพราะปัจจุบันสภาพแวดล้อมของมัสยิดเหลือพื้นที่เพียง2ไร่ จึงไม่เพียงพอสำหรับที่จะรองรับนักท่องที่มากันอย่างเนื่องแน่น จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาดูดำเนินการแก้ไขเพราะตามกฎหมายแล้วมัสยิดมีพื้นที่ตามที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อปี พศ.2526ในเนื้อที่10ไร่2งานเศษ แต่ปัจจุบันถูกจำกัดให้พื้นที่มัสยิดกรือเซะเหลือเพียงแค่ 2 ไร่ ทำให้การแก้ไขปัญหาและการพัฒนาจึงทำได้ยาก
นอกจากนั้นการพัฒนามัสยิดกรือเซะและพื้นที่โดยรอบนั้นนอกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงแล้ว อยากให้เปิดโอกาสให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุด เพื่อให้เกิดความร่วมมือจากคนในชุมชนและประชาชนทั่วไปอันนำสู่ความสงบสุขอย่างยั่งยืนต่อไป


