สปสช.อนุมัติเพิ่ม "ยากดฮอร์โมน" 2 รายการในสิทธิบัตรทอง
บอร์ด สปสช.อนุมัติเพิ่มยากดฮอร์โมน 2 รายการบรรจุในสิทธิประโยชน์บัตรทองเริ่มปี 62 เพื่อช่วยรักษาภาวะเป็นหนุ่มสาวก่อนวัย
บอร์ด สปสช.อนุมัติเพิ่มยากดฮอร์โมน 2 รายการบรรจุในสิทธิประโยชน์บัตรทองเริ่มปี 62 เพื่อช่วยรักษาภาวะเป็นหนุ่มสาวก่อนวัย
เมื่อวันที่ 5 พ.ย. นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการ สปสช.ที่มี ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.กระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน มีมติเห็นชอบเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์ยาลูโปรเรลิน 11.25 mg inj. และยาทริปโทเรลิน 11.25 mg inj. เพื่อเป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2562 เป็นต้นไป ตามที่คณะอนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนเสนอ
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ยาลูโปรเรลิน และยาทริปโทเรลินเป็นยารักษาภาวะเป็นหนุ่มสาวก่อนวัยในรายที่พัฒนาการของโรคเร็ว หากไม่รักษาจะเติบโตเร็ว ทำให้มีผลต่อร่างกายคือ โตเร็วและหยุดเติบโตก่อนวัย ทำให้ความสูงสุดท้ายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นประมาณ 5-10 เซนติเมตร ส่วนผลต่อจิตใจ คือ เด็กมีร่างกายเป็นสาวแต่จิตใจเป็นเด็ก จึงอาจมีโอกาสถูกล่วงละเมิดทางเพศและถูกข่มขืนกระทำชำเราหรือตั้งครรภ์ตั้งแต่วัยเด็ก
ทั้งนี้ยาทั้ง 2 รายการ มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยไม่แตกต่างกัน เป็นยาฉีดให้กับผู้ป่วยทุก 3 เดือนต่อเข็ม และผลจากการต่อรองราคา ได้ราคาต่ำสุดที่ 7,383 บาท/เข็ม เมื่อเปรียบเทียบกับยาลูโปรเรลิน 3.75 mg ราคาอยู่ที่ 4,889 บาท/เข็ม แต่ผู้ป่วยต้องได้รับการฉีดทุกเดือน รวม 3 เดือน เป็นราคาเกือบ 15,000 บาท เป็นค่ารักษาที่สูงกว่าเมื่อเปรียเทียบกับยาใหม่ โดยยา 2 รายการตามสิทธิประโยชน์ใหม่นี้ จะใช้กับผู้ป่วยกรณีที่เป็นเด็กหญิงอายุไม่เกิน 11 ปี และเด็กชายไม่เกิน 12 ปี และให้หยุดยาเมื่อกระดูกอายุเด็กหญิงอายุน้อยกว่า 13 ปี และเด็กชายอายุกระดูกน้อยกว่า 14 ปี
ทั้งนี้สถานการณ์ผู้ป่วยภาวะหนุ่มสาวก่อนวันอันควร มีประมาณ 435 ราย เป็นผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง 400 ราย และสิทธิสวัสดิการข้าราชการ 35 ราย โดยมูลค่าการใช้ยาในสิทธิบัตรทอง กรณียาลูโปรเรลินและยาทริปโทเรลิน เมื่อคิดเป็นมูลค่าจะอยู่ที่ 29,532 บาทต่อคนต่อปี หรือเป็นมูลค่ารวม 11,812,800 บาท ขณะที่ยาเดิมโดยมูลค่าการใช้ยาอยู่ที่ 58,668 บาทต่อคนต่อปี หรือ 23,467,200 บาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่สูงกว่ามาก
“สิทธิประโยชน์ยาลูโปรเรลิน 11.25 mg inj. และยาทริปโทเรลิน 11.25 mg inj. จะลดค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วยภาวะหนุ่มสาวก่อนวันอันควรจากเดิมมาก ทำให้ประหยัดงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ถึง 11,654,400 บาท โดยสิทธิประโยชน์ยาใหม่นี้จะเริ่มปีงบประมาณ 2562 เป็นต้นไป ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อระบบและประชาชน”
นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า ส่วนข้อเสนอที่ให้ยกเลิกยาลูโปรเรลิน 3.75 mg ออกจากบัญชียาหลักแห่งชาตินั้น ที่ประชุมมอบให้ สปสช.ประสานคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติให้ทบทวน เพื่อให้มีทางเลือกในการรักษาเพิ่มจากกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถทนผลข้างเคียงจากยาใหม่ได้


