"ทิปโก้" แจงกรณีสาวพบสิ่งแปลกปลอมในกล่องน้ำผลไม้

ทิปโก้ ยืนยันทุกขั้นตอนการผลิตมีมาตรฐานกำจัดเชื้อรา เตรียมตรวจสอบกล่องที่มีปัญหา

กรณีมีผู้โพสต์คลิปวิดีโอลงในเฟซบุ๊ก ขณะกำลังดื่มน้ำผลไม้ยี่ห้อ" ทิปโก้" เมื่อรินน้ำออกมาใส่แก้วกลับพบวัตถุแปลกปลอมสีเทา จึงผ่ากล่องน้ำผลไม้นั้นออกมาเพื่อพิสูจน์ ก่อนพบวัตถุบางอย่างอยู่ในกล่อง แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นสิ่งใด

ล่าสุด ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ทิปโก้ เอฟแอนด์บี จำกัด ออกมาชี้แจงกรณี ความว่า ตามที่มีผู้บริโภคเผยแพร่กรณีพบสิ่งแปลกปลอมลักษณะเป็นก้อนและแผ่นสีเทาดำในน้ำผลไม้ของบริษัท เมื่อวันที่ 26 ก.ย.2561 ทางเฟซบุ๊ก โดยได้เผยแพร่เรื่องดังกล่าวอย่าแพร่หลายนั้น

บริษัทได้ทราบเรื่องแล้ว และได้ส่งเจ้าหน้าที่ประสานกับลูกค้าทันที เนื่องจากบริษัทให้ความสำคัญสูงสุดต่อคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า รวมถึงสุขภาพและประโยชน์ของผู้บริโภค

อย่างไรก็ดีบริษัทกำลังอยู่ระหว่างติดต่อนำกล่องน้ำผลไม้ดังกล่าวมาตรวจสอบ พร้อมกันนี้ได้ตรวจสอบตัวอย่างสินค้าในล็อตการผลิตเดียวกันกับที่บริษัทเก็บไว้และที่วางขายในร้านค้าเดียวกัน เพื่อตรวจสอบคุณภาพ พบว่าสินค้าเป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพของบริษัท ไม่พบข้อผิดพลาดหรือสิ่งแปลกปลอมใดๆ

บริษัทขอเรียนว่า มีขั้นตอนการผลิตที่สามารถกำจัดเชื้อราในอาหารอย่างมีมาตรฐานทั้งสิ้น 6 ขั้นตอน ทั้งการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ในน้ำผลไม้ ที่อุณหภูมิ 100-150 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที การฆ่าเชื้อบนภาชนะบรรจุ การปิดผนึกภาชนะบรรจุทันทีด้วยเครื่องบรรจุอัตโนมัติ การควบคุมอุณหภูมิในการผลิต ความแข็งแรงของกล่องบรรจุสินค้า การรั่วของกล่องหลังการผลิต และการตรวจสอบสินค้าหลังการผลิต รวมถึงการจัดเก็บและจัดส่งที่ได้มาตรฐาน จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัย และคุณภาพของสินค้า

ทั้งนี้เชื้อราที่พบในกล่องผลิตภัณฑ์ของลูกค้า อาจเกิดจากการที่กล่องบรรจุมีรอยรั่ว อากาศภายนอกและเชื้อราในบรรยากาศสามารถเข้าไปภายในกล่อง และเจริญเติบโตบนผิวหน้าของน้ำผลไม้ รอยรั่วส่วนใหญ่อาจเกิดได้จากการที่กล่องสินค้าได้รับการกระแทก หรือกดทับระหว่างการขนส่งหรือการจัดเรียง ณ จุดเก็บหรือจุดขาย อย่างไรก็ดีบริษัท จะรับสินค้ากลับมาตรวจอบเพื่อสรุปหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

บริษัทขอเรียนย้ำว่า เราให้ความสำคัญสูงสุดต่อคุณภาพ และความปลอดภัยของสินค้า เช่นเดียวกับสุขภาพของผู้บริโภค และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสินค้า และกระบวนการทำงานในทุกด้าน เพื่อนำเสนอสินค้าที่เปี่ยมด้วยคุณค่า คุณภาพ และประโยชน์ต่อผู้บริโภคต่อไป