posttoday

เขื่อนวชิราลงกรณปรับการระบายน้ำเพิ่ม-ลุ่มน้ำแควน้อยทรงตัว

04 กันยายน 2561

กาญจนบุรี-เขื่อนวชิราลงกรณปรับการระบายน้ำเพิ่มอีก5ล้านลบ.ม./วัน เป็น58ล้านลบ.ม./วัน ลุ่มน้ำแควน้อยระดับน้ำทรงตัวมีพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งบางแห่งได้รับผลกระทบ

กาญจนบุรี-เขื่อนวชิราลงกรณปรับการระบายน้ำเพิ่มอีก5ล้านลบ.ม./วัน เป็น58ล้านลบ.ม./วัน ลุ่มน้ำแควน้อยระดับน้ำทรงตัวมีพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งบางแห่งได้รับผลกระทบ

เขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเดิม 53 ล้านลบ.ม./วัน เป็น 58ล้านลบ.ม./วัน ซึ่งเป็นวันแรกของการปรับเพิ่มการระบายน้ำไปจนถึงวันที่ 10ก.ย.61 ซึ่งปริมาณน้ำที่ระบายเพิ่มขึ้นยังไม่เกินความจุของลำน้ำแควน้อย อำเภอทองผาภูมิ และ อำเภอเมืองกาญจนบุรี แต่อาจมีพื้นที่ลุ่มต่ำ ริมแม่น้ำบางแห่งได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่เอ่อสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ50ซม.

เมื่อเวลา 09.00 น.เจ้าหน้าที่กองเดินเครื่องเขื่อนวชิราลงกรณได้กดปุ่มเพื่อยกบานประตูระบายน้ำสปิลเวย์ (Spillway) ซึ่งมีจำนวน 2 บาน ขึ้นอีกบานละประมาณ 25 เซนติเมตรจากเดิมยกไว้ที่ 50 เซนติเมตร รวมเป็น75เซนติเมตรซึ่งทำให้ปริมาณน้ำที่ไหลออกมาจากประตูระบายน้ำอยู่ที่เฉลี่ยบานละ7.5ล้านลบ.ม. รวม 2 บาน 15 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ตามที่ได้กำหนดไว้ ขณะเดียวกันก็จะระบายน้ำผ่านช่องทางปกติวันละ 43 ล้านลบ.ม.รวมเป็น 58 ล้านลบ.ม.โดยมีเจ้าหน้าที่กองบำรุงรักษา คอยให้ความช่วยเหลือในกรณีเครื่องมีปัญหา

ขณะที่พื้นที่ท้ายเขื่อนในลุ่มน้ำแควน้อย (บางส่วนของ อ.ทองผาภูมิ – อ.ไทรโยค – อ.เมืองกาญจนบุรี) โดยภาพรวมล่าสุดระดับน้ำยังคงทรงตัว ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 หมู่ที่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรีซึ่งเป็นพื้นที่สวนสาธารณะ และพักผ่อนของชาวทองผาภูมิ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำเสี่ยงภัยและรับมวลน้ำเป็นพื้นที่แรกโดยก่อนหน้านี้ได้ถูกปริมาณน้ำในแม่น้ำแควน้อยเอ่อล้นเข้าท่วมสูงกว่า 1 เมตรซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ห่างจากหน้าเขื่อนฯ ประมาณ 5 กิโลเมตร โดยมวลน้ำจะเคลื่อนตัวมาถึงจุดดังกล่าวจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

ทั้งนี้ในส่วนของระยะทางและระยะเวลาการเดินทางของน้ำที่ไหลจากเขื่อนวชิราลงกรณไปตามลำน้ำแควน้อยไปจนถึงอำเภอเมืองกาญจนบุรี ซึ่งมีสถานีโทรมาตร กฟผ. 4 สถานี รวมระยะทางประมาณ 251.3 กม. และมีระยะทางถึงเขื่อนแม่กลอง อ.ท่าม่วง 264.2 กม. ดังนี้ TD 15 วัดใหม่ดงสัก ต.ลิ่นถิ่น อ.ทองผาภูมิ มีระยะทางทางน้ำ 57.6 กม. โดยมวลน้ำก้อนแรกจะใช้ระยะเวลาการเดินทางประมาณ 8 ชม. และระดับน้ำจะขึ้นสูงสุดจะใช้เวลา 23 ชม. TD 12 วัดวังโพธิการาม อ.ไทรโยค มีระยะทางทางน้ำ 148.7 กม. จากเขื่อน และห่างจากสถานีวัดใหม่ดงสัก 91.13 กม. โดยมวลน้ำก้อนแรกจะใช้ระยะเวลาการเดินทางประมาณ 20 ชม. และระดับน้ำจะขึ้นสูงสุดจะใช้เวลา 41 ชม.

TD 10 ท่าน้ำบ้านแก่งหลวง ต.เกาะสำโรง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี มีระยะทางทางน้ำ 233.6 กม. จากเขื่อน และห่างจากสถานีวัดวังโพธิการาม 84.89 กม. โดยมวลน้ำก้อนแรกจะใช้ระยะเวลาการเดินทางประมาณ 42 ชม. และระดับน้ำจะขึ้นสูงสุดจะใช้เวลา 72 ชม. TD 04 ท่าน้ำวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) อ.เมือง จ.กาญจนบุรี มีระยะทางประมาณ 251.3 กม. จากเขื่อน และห่างจากสถานีท่าน้ำบ้านแก่งหลวง 17.73 กม. แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ราบ ส่งผลให้ระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นไม่มีความแตกต่างมากนัก ซึ่งจากการคำนวณจะใช้เวลาประมาณ 3 วัน มวลน้ำก้อนแรกจะไปถึงตัวเมืองกาญจนบุรี

ล่าสุดที่สถานีวัดระดับน้ำของกรมชลประทาน ที่สถานี K.10 บ้านลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี พบว่า ระดับน้ำอยู่ที่ 9.37 เมตร ซึ่งต่ำกว่าตลิ่ง - 93 เซนติเมตร (ระดับตลิ่งอยู่ที่ 10.30 ม.) แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังพื้นที่ อ.ไทรโยค เป็นพิเศษ เนื่องจากลำน้ำแคบ และคดเคี้ยว รวมทั้งมีสิ่งกีดขวางทางน้ำหลายจุด จึงทำให้การไหลของน้ำไม่สะดวก ซึ่งพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำตามแนวตลิ่ง โดยส่วนใหญ่เป็นแพพัก และรีสอร์ท

สำหรับน้ำตกไทรโยคใหญ่ ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค หมู่ 7 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดกาญจนบุรี ระดับน้ำในแม่น้ำแควน้อยสูงจากปกติกว่า 4 เมตร ทำให้น้ำเอ่อเกือบท่วมถึงฐานหินใหญ่ของน้ำตกไทรโยคใหญ่ เหลืออีกแค่ 80 ซม. จะท่วมมิดฐานหินชั้นแรก

ส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ซึ่งมีความจุอ่าง 8,860 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่ระดับ 155 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) โดยข้อมูล ณ วันที่ 4 กันยายน 2561 เวลา 07.00 น. มีปริมาณน้ำในเขื่อน 8,381 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 95% มากกว่าเกณฑ์ควบคุม (URC) 2.14 ม. โดยวานนี้ (3 ก.ย.61) มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ 53.23 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ระดับ 153.71 ม.รทก. เพิ่มขึ้นจากวันที่ 2 กันยายน 2651 (153.71 ม.รทก.) 0.00 ม.รทก. และได้มีการระบายน้ำออกตามแผนการระบายน้ำ 52.28 ล้านลูกบาศก์เมตร (รวมระบายน้ำผ่านสปิลเวย์ 10.65 ล้าน ลบ.ม.แล้ว) ซึ่งอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณยังสามารถรับน้ำได้อีก 479 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 5.4%

ทั้งนี้การระบายน้ำออกจากเขื่อนวชิราลงกรณลงสู่แม่น้ำแควน้อย มวลน้ำจะไหลไปบรรจบกับแม่น้ำแควใหญ่ ซึ่งไหลมาจากเขื่อนศรีนครินทร์ กลายเป็นต้นน้ำแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งพื้นที่ อ.เมืองกาญจนบุรี จะเป็นจุดรับมวลน้ำจากทั้ง 2 เขื่อนใหญ่ และจะเห็นความแตกต่างของสีน้ำได้อย่างชัดเจน โดยแม่น้ำแควน้อยจะมีสีขุ่นแดง ส่วนแม่น้ำแควใหญ่จะใส

ขณะที่สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ปัจจุบัน (วันที่ 4 กันยายน 2561 เวลา 08.00 น.) อยู่ที่ระดับ 176.16 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) เป็นปริมาณน้ำ 16,179.42 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 91.18 % โดยวันนี้มีแผนการระบายน้ำ 22 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยวานนี้ (3 ก.ย.61) มีน้ำเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ 49.11 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ระดับ 176.14 ม.รทก. เพิ่มขึ้นจากวันที่ 2 กันยายน 2561 (176.07 ม.รทก.) 7 เซนติเมตร และได้มีการระบายน้ำออกตามแผนการระบายน้ำ 20.44 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเขื่อนศรีนครินทร์ยังมีพื้นที่รับน้ำได้อีก 1,573.50 ล้านลูกบาศก์เมตร (8.87%)

สำหรับ เขื่อนท่าทุ่งนา ได้ระบายน้ำสอดคล้องกับแผนระบายน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ คือ ระบายน้ำวันละ 22 ล้าน ลบ.ม. แต่เนื่องจากอิทธิพลลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังมีกำลังแรงอย่างต่อเนื่อง เขื่อนศรีนครินทร์จึงขอปรับแผนการระบายน้ำผ่านเขื่อนท่าทุ่งนาเพิ่มขึ้นอีกวันละ 6 ล้าน ลบ.ม. เป็นวันละ 28 ล้าน ลบ.ม.ตั้งแต่วันที่ 7-13 กันยายน 2561 ซึ่งการปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็นการระบายผ่านช่องทางปกติ ไม่ได้เป็นการระบายผ่านทางน้ำล้น (Spillway) แต่อย่างใด โดยปริมาณน้ำที่ระบายเพิ่มขึ้นยังไม่เกินความจุของลำน้ำแควใหญ่ บริเวณบ้านหนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี แต่อาจมีพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำบางแห่งได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่เอ่อสูงขึ้นจากระดับปัจจุบันอีกประมาณ 35 เซนติเมตร โดยการระบายน้ำจากเขื่อนจะคำนึงถึงผลกระทบด้านท้ายน้ำเป็นสำคัญ ซึ่งที่สถานี K.35 A บ้านหนองบัว ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จุดวัดระดับน้ำในลำน้ำแควใหญ่ ล่าสุดระดับน้ำอยู่ที่ 4.64 เมตร ซึ่งต่ำกว่าตลิ่ง - 86 เซนติเมตร (ระดับตลิ่งอยู่ที่ 5.50 ม.) ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ แต่จะมีเพียงพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งบางแห่งเท่านั้น

สำหรับ เขื่อนแม่กลอง ซึ่งเป็นเขื่อนทดน้ำขนาดใหญ่ของกรมชลประทาน ตั้งอยู่ที่ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี สร้างขึ้นบนแม่น้ำแม่กลอง โดยรับน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ ได้ทำการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำแม่กลอง 860 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โรงไฟฟ้าพลังน้ำระบาย 110 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รวมเป็น 970 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือเท่ากับระบายน้ำ 83.81 ล้าน ลูกบาศก์เมตรต่อวัน

เขื่อนวชิราลงกรณปรับการระบายน้ำเพิ่ม-ลุ่มน้ำแควน้อยทรงตัว

เขื่อนวชิราลงกรณปรับการระบายน้ำเพิ่ม-ลุ่มน้ำแควน้อยทรงตัว

เขื่อนวชิราลงกรณปรับการระบายน้ำเพิ่ม-ลุ่มน้ำแควน้อยทรงตัว

 

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา