posttoday

เส้นทางชีวิต"อดีตพระพรหมเมธี" สงฆ์ไทยรูปแรกที่ลี้ภัยไปต่างประเทศในรอบ100ปี

10 มิถุนายน 2561

เปิดเส้นทางชีวิต "อดีตพระพรหมเมธี" จากกรรมการมหาเถรสมาคมสู่พระสงฆ์ไทยรูปแรกที่ลี้ภัยไปต่างประเทศในรอบ 100 ปี

เปิดเส้นทางชีวิต "อดีตพระพรหมเมธี" จากกรรมการมหาเถรสมาคมสู่พระสงฆ์ไทยรูปแรกที่ลี้ภัยไปต่างประเทศในรอบ 100 ปี

***********************************

โดย...สมาน สุดโต [email protected]

นพ.มโน เลาหวณิช อดีตศิษย์วัดพระธรรมกาย พูดในรายการวิทยุรายการหนึ่งเมื่อเช้าวันที่ 8 มิ.ย. 2561 ว่าอดีตพระพรหมเมธี (จำนงค์ เอี่ยมอินทรา) กลายเป็นภิกษุไทยรูปแรกที่ขอลี้ภัยในต่างประเทศ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 100 ปี

ในทัศนะของผู้เขียน ต้องยอมรับว่าอดีตพระพรหมเมธี หรือเจ้าคุณจำนงค์ อดีตกรรมการมหาเถรสมาคมนั้นดังมาก เป็นข่าวหน้าหนึ่งของสื่อมวลชนทุกประเภท ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค. 2561 และกระแสมาแรงเมื่อมีข่าวว่าท่านหลบหนีไปขอลี้ภัยในประเทศเยอรมนี ทั้งนี้เพราะท่านกับพระราชาคณะชั้นพรหมอีก 2 รูป และเจ้าคุณระดับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศอีกหลายรูปถูกจับ ถูกให้สึกและถอดสมณศักดิ์ แบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในสมัยรัตนโกสินทร์ ที่พระชั้นผู้ใหญ่ถูกกระทำเช่นนี้

เมื่ออดีตพระพรหมเมธีไปเยอรมนี ฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่ลดละ ขนาดที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติบินไปเพื่อรับตัวจากเยอรมนี มาดำเนินคดีในไทย เพราะข่าวในช่วงแรกว่าทางด่านตรวจคนเข้าเมืองเยอรมนี กักตัวไว้ที่สนามบินแฟรงก์เฟิร์ต หลังจากได้รับแจ้งจากไทยว่าหลบหนีคดี และหนังสือเดินทางถูกยกเลิก เมื่อข่าวนี้ออกมา หลายคนก็คอยว่าเช้าวันที่ 6 มิ.ย. อดีตเจ้าคุณพระพรหมเมธีต้องถูกนำตัวกลับไทย แต่แล้วตำรวจก็กลับมือเปล่า อุตส่าห์บุ๊กที่นั่งบนเครื่องบินเผื่อเจ้าคุณจำนงค์ไว้ด้วย

อดีตพระพรหมเมธี (จำนงค์) จึงไม่ใช่พระธรรมดา มิเช่นนั้นคงไม่สามารถหนีกฎหมายไทยข้ามน้ำข้ามทะเลไปขอลี้ภัยที่ประเทศเยอรมนีในเวลารวดเร็วได้

เส้นทางชีวิต"อดีตพระพรหมเมธี" สงฆ์ไทยรูปแรกที่ลี้ภัยไปต่างประเทศในรอบ100ปี

ผู้เขียนมีหนังสือภาพและประวัติอดีตพระพรหมเมธี (จำนงค์) เล่มหนึ่ง ที่พิมพ์เมื่อเดือน พ.ค. 2554 จึงขอตัดตอนเสนอ ดังนี้ พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ธรรมยุต)

ผู้ช่วยแม่กองธรรมสนามหลวง ประธานคณะเลขานุการคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชผู้แถลงข่าวของมหาเถรสมาคม (โฆษกมหาเถรสมาคม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม วรวิหาร กรุงเทพมหานคร ผู้ช่วยเลขาธิการกรรมการบริหารคณะธรรมยุต รูปที่ 1 (ตำแหน่งเมื่อ พ.ศ. 2554 ไม่นับตำแหน่งกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ที่ได้รับมอบหมายเมื่อ พ.ศ. 2560-2561)

ชื่อเดิมจำนงค์ เอี่ยมอินทรา อายุ 77 ปี (เกิดวันที่ 22 ก.พ. 2484) ที่บ้านริมแม่น้ำนครชัยศรี ปากคลองบางกระทึก ต.บางกระทึก อ.สามพราน จ.นครปฐม ตอนเด็กเคยตกแม่น้ำนครชัยศรี แต่เดชะบุญหลวงพ่อวัดไร่ขิงช่วยไว้ส่วนความรู้ น.ธ.เอก, ม.ศ.5 ศน.ด.(กิตติมศักดิ์)บรรพชาเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2495 ณ วัดราษฎร์บำรุง ถนนเพชรเกษม 69 ขณะอายุได้ 13 ปี ย้ายมาอยู่วัดสัมพันธวงศาราม วรวิหาร พ.ศ. 2496 และอุปสมบทเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2504 ณ วัดสัมพันธวงศาราม วรวิหาร

บวชแล้วมีหน้าที่การงานในวัด นอกวัดเสมอ สมณศักดิ์จึงเริ่มจากพระครูฐานานุกรม เมื่อ พ.ศ. 2509 จนกระทั่งเป็นเจ้าคุณชั้นสามัญ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2528 จากนั้นก็เจริญในสมณศักดิ์ จนกระทั่งอายุ 69 ปี ได้รับการสถาปนาเป็นชั้นพรหม หรือเจ้าคณะรองเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2553 ในราชทินนามที่ พระพรหมเมธี

เท่าที่รู้จัก ท่านเป็นผู้มีหลักการ เช่น เมื่อได้รับของพระราชทาน ทั้งจตุปัจจัย เครื่องไทยธรรมอื่นๆ ในโอกาสต่างๆ จะเก็บไว้ในที่พิเศษอย่างดี เพื่อการเชิดชูสถาบัน ทั้งนี้เพราะรับนิมนต์เจริญพระพุทธมนต์ในพระบรมมหาราชวัง แสดงพระธรรมเทศนาหน้าพระที่นั่งหลายครั้งหลายโอกาส ท่านจึงมีของสะสมที่ไม่มีใครเหมือน

งานสาธารณะอื่นๆ เช่น เป็นผู้แทนฝ่ายสงฆ์ร่วมกับรัฐบาล พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ พัฒนาพุทธมณฑล จนเป็นที่ประจักษ์ทุกวันนี้ เคยเป็นผู้ริเริ่มและจัดสร้างเหรียญหลวงปู่แหวนหลายรุ่น รวมทั้งรุ่นเราสู้ที่โด่งดัง

เคยเป็นพระพี่เลี้ยง อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ เมื่ออุปสมบท พ.ศ. 2526

มีความคุ้นเคยกับอดีตนายกรัฐมนตรี สมัคร สุนทรเวช และนักการเมืองอีกจำนวนมาก จึงไม่แปลกใจเมื่อได้รับมอบหมายให้ทำการแทนเจ้าอาวาส (สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ที่สูงวัย) จึงพัฒนาวัดให้สะอาดและสวยงาม

ในคราวทำบุญประจำปี หรือที่เรียกว่าวันเจ้าสัวในวันที่ 22 ก.พ. หรือวันที่ 2 ก.ค. วันมรณภาพหลวงปู่แหวน รวมทั้งวันที่ 29 ธ.ค. วันเกิดสมเด็จพระมหาวีรวงศ์จึงเห็นญาติโยมแน่นวัด เพราะบารมีแผ่ไปทั่ว

เส้นทางชีวิต"อดีตพระพรหมเมธี" สงฆ์ไทยรูปแรกที่ลี้ภัยไปต่างประเทศในรอบ100ปี

กรณีเงินทอนวัด ท่านเคยเล่าอย่างมั่นใจว่าท่านไม่ได้ทำผิดอะไร เพราะท่านไม่ได้ขอ แต่สำนักพุทธฯ โอนเงินมาให้เองว่าเป็นเงินอุดหนุน หลังจากเห็นท่านกำลังสร้างศาลาปฏิบัติธรรม จึงใช้ไปเพื่อสร้างถาวรวัตถุ (ขณะนี้บางส่วนสร้างยังไม่เสร็จสมบูรณ์) ไม่ได้คิดว่าเป็นเงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม ท่านบอกเล่าผู้เขียนย่อๆ เพียงเท่านี้ แต่หมายจับออกมาว่าท่านมีความผิดฐานฟอกเงิน ร่วมกับพระชั้นพรหมและเจ้าคุณอื่นอีก 7-8 รูป

ส่วนการลี้ภัยไปเยอรมนี แม้ว่าท่านจะเป็นคนแรกที่สร้างประวัติศาสตร์ แต่คงไม่ใช่เรื่องที่อยากจะทำอย่างแน่นอน

ทำไมต้องลี้ภัย ผมเดาว่าท่านคิดถูก ในเมื่อพนักงานดำเนินการสอบสวนนั้น พนักงานต้องขอฝากขัง และคัดค้านประกันตัว เมื่อศาลท่านไม่ให้ประกันตัวตามที่พนักงานขอมา แน่นอนท่านต้องถูกบังคับให้สึกเหมือนเจ้าคุณรูปอื่นๆ

การไม่ให้ประกันตัว เป็นดาบอาญาสิทธิ์ สามารถสึกพระง่ายและเร็วทันใจ ยิ่งกว่ามาตรการใดๆ ไม่ว่าเป็นกฎในพระวินัย เช่น ปาราชิก หรือกฎ มส. ที่ว่าด้วยนิคหกรรม แล้วใครจะอยู่ให้เชือดง่ายๆ

เส้นทางชีวิต"อดีตพระพรหมเมธี" สงฆ์ไทยรูปแรกที่ลี้ภัยไปต่างประเทศในรอบ100ปี

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด แอสตัน วิลล่า พบ แมนยู พรีเมียร์ลีก วันนี้ 21 ธ.ค.68