เตรียมกู้ข้าวสาร750ตันจากเรือบรรทุกจมเจ้าพระยา
เตรียมนักประดาน้ำ 30 ชีวิต กู้ข้าวสาร 750 ตัน ในเรือบรรทุกที่จมแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยุธยา หลังชนตลาดน้ำวัดท่าการ้อง
เตรียมนักประดาน้ำ 30 ชีวิต กู้ข้าวสาร 750 ตัน ในเรือบรรทุกที่จมแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยุธยา หลังชนตลาดน้ำวัดท่าการ้อง
นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม พร้อมด้วย นายชลอ คชรัตน์ อธิบดีกรมเจ้าท่าเดินทางมาควบคุมสั่งการเพื่อเร่งกู้เรือบรรทุกข้าวสารชื่อ เรืออียู 46ซึ่งบรรทุกข้าวสาร 30,000 กระสอบ จำนวน 750 ตันที่จมลงในบริเวณช่วงโค้งน้ำเจ้าพระยาหน้าอนุสาวรีย์สมเด็จสุริโยทัยต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเรือลำดังกล่าวจมลงเพราะไปกระแทกกับตอม่อสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา จนไปกระแทกกับตลาดน้ำวัดท่าการ้อง แล้วจมลงเมื่อวัน 3 ต.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้การเดินเรือขนส่งสินค้าผ่านช่วงบริเวณดังกล่าวต้องใช้ความระมันระวังเป็นพิเศษเพราะเป็นช่วงกระแสน้ำที่ไหลเร็วเพราะเป็นช่วงฤดูน้ำเหนือหลากและล่าสุดกรมควบคุมมลพิษแจ้งให้เร่งกู้ข้าวสารโดยเร็วเพราะเกรงจะส่งผลกระทบกับคุณภาพน้ำเพราะข้าวสารเริ่มเน่าเสีย
อย่างไรก็ตามวันนี้บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด เจ้าของเรือและข้าวสาร ได้ว่าจ้างหจก.ทีพี ประดาน้ำและขนส่งเป็นบริษัทเอกชนให้ทำหน้าที่กู้ข้าวสารและเรือที่จมอยู่ใต้แม่น้ำเจ้าพระยาโดยมีการนำเรือโป๊ะขนาดใหญ่ติดตั้งเครนและอุปกรณ์การกู้เรือมาลอยลำเหนือจุดที่เรือบรรทุกข้าวสารจมซึ่งเป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะกระแสน้ำไหลแรงมากหลังกำหนดจุดจอดเรือกู้ได้สำเร็จมีการทดลองดำน้ำเพื่องมเอาข้าวสารขึ้นมาจำนวนหนึ่งเพื่อตรวจสอบสภาพการไหลของน้ำและตรวจสอบว่าข้าวสารในกระสอบเน่าเสียในระดับไหนแล้ว
นายประกิต กิจอุดมทรัพย์ นายช่างควบคุมดำเนินงานของ หจก.ทีพีประดาน้ำและขนส่ง กล่าวว่า มีประสบการกู้เรือจมน้ำมาแล้วทั้งในอ่าวไทยปากแม่น้ำต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวมถึงการกู้เรือจมในประเทศกัมพูชามาแล้วตรวจสอบเรืออียู 46 จมน้ำที่ระดับความลึก 12-14 เมตรมีข้าวสารในท้องเรือ 30,000 กระสอบ ขนาดกระสอบละ 25 กก. รวมน้ำหนัก 750 ตัน ระดับการไหลของน้ำประมาณ 2 ไมล์ต่อชั่วโมงถือว่าแรง สีของน้ำขุ่นมากดำน้ำลงไปไม่สามารถมองเห็นใต้น้ำได้เลยทั้งนี้แนวทางการกู้เรือจำเป็นต้องกู้ข้าวสารจากท้องเรือขึ้นมาให้หมดเสียก่อนด้วยเพราะน้ำไหลแรง
ประกิต กล่าวอีกว่า ทำให้ไม่สามารถใช้เครื่องจักรได้จำเป็นต้องใช้นักประดาน้ำรวม 30 ชีวิตในการดำน้ำลงไปนำกระสอบวางในตระกล้าใหญ่ที่เครนจะหย่อนลงไปรับข้าวสารจากท้องเรือขึ้นมาโดยข้าวสารน้ำหนัก 25 กก. ที่จมนำ เมื่อพ้นจากน้ำจะมีน้ำหนักมากเป็น 50กก.ประเมินโดยรวมถือว่าเป็นงานที่ยากและลำบาก ต้องใช้เวลาประมาณ 15 วัน โดย7 วันแรกเป็นการกู้ข้าวสารและ 7 วันหลังเป็นการกู้เรือแต่จะพยามยามเร่งทำงานให้ให้เวลาน้อยกว่านี้ สำหรับค่าแรงไม่ต่ำกว่า1,300,000 บาท
ทางด้านนายเกื้อกูล กล่าวว่า ได้กำชับไปว่า 15 วัน นั้นช้าเกินไป อยากให้ทำเสร็จภายใน 7-10 วันเพราะขณะนี้ส่งผลกระทบต่อการเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาเพราะเป็นโค้งน้ำ หากนานวันจะส่งผลกระทบต่อการขนสิ่งสินค้าทางน้ำสำหรับการกู้เต็มรูปแบบทางเอกชนที่ดำเนินการแจ้งว่าจะเริ่มงานเต็มรูปแบบในวันที่ 10 ต.ค.นี้


