พักราชการ ผอ.ฉาวชู้สาวม.2 ตั้งกก.สอบวินัยร้ายแรง
ศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา สั่งพักราชการ ผอ.ฉาว มีพฤติกรรมชู้สาว ม.2 พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงใน 120 วัน วอนสังคมอย่าเหมารวม เพราะจะทำให้ครูดีเสียกำลังใจได้
ศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา สั่งพักราชการ ผอ.ฉาว มีพฤติกรรมชู้สาว ม.2 พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงใน 120 วัน วอนสังคมอย่าเหมารวม เพราะจะทำให้ครูดีเสียกำลังใจได้
เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ความคืบหน้ากรณี นายณฐาภพ บุญทองโท อายุ 51 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป่าตองท่าเนินสามัคคี อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ถูกตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีถูกร้องเรียนมีพฤติกรรมชู้สาวกับเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 ของโรงเรียน โดยมีหลักฐานข้อความสนทนาแชทไลน์ เรียกกันและกันว่า ที่รัก และเมียจ๋า กระทั่งสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 มีคำสั่งย้ายด่วนให้ ผอ.โรงเรียนไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่ฯ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งผลของการสอบสวนปรากฏว่ามีมูลความจริง ที่ ผอ.โรงเรียนคนดังกล่าวมีพฤติกรรมเชิงชู้สาวกับเด็กนักเรียนหญิง อายุ 14 ปี ชั้น ม.2 จึงได้เตรียมส่งเรื่องรายงานให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมาทราบนั้น
ล่าสุด นายสุวิทย์ ศรีฉาย รักษาราชการแทนศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี ผอ.โรงเรียนบ้านป่าตองท่าเนินสามัคคี อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ซึ่งวันนี้ตนก็ได้รับรายงานว่า ผลของการสอบสวนเป็นไปในทิศทางเดียวกันคือมีมูลความจริงว่า ผอ.คนดังกล่าวมีพฤติกรรมไปในทางเชิงชู้สาวกับเด็กหญิงอายุ 14 ปีจริง ดังนั้นทางคณะกรรมการสอบสวนจึงกำลังส่งเรื่องมารายงานให้ตนทราบอย่างเป็นทางการวันนี้ และขณะเดียวกันก็ได้รายงานไปถึงเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทราบแล้ว โดยเบื้องต้นจะสั่งพักราชการ ผอ.ฉาวคนดังกล่าวไว้ก่อน ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไปจนกว่าจะสอบสวนทางวินัยเสร็จสิ้น หลังจากนั้นก็จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงระดับจังหวัด โดยมีข้าราชการระดับสูงกว่าผู้อำนวยการโรงเรียน เป็นประธานฯ เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงเอาผิดทางวินัยร้ายแรง ที่มีโทษถึงขั้นปลดออก หรือไล่ออกจากข้าราชการต่อไป
ทั้งนี้สาเหตุที่ยังไม่ได้ไล่ออก เพราะต้องรอให้ผลสอบสวนปรากฏชัดเจนก่อน ตามระเบียบของราชการ เนื่องจากถ้าผลการสอบสวนแล้วเสร็จพบว่า ไม่มีความผิดทางวินัยร้ายแรง จะได้มีตำแหน่งเดิมรองรับอยู่ ส่วนระยะเวลาของการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงนั้น มีระยะเวลาไม่เกิน 120 วัน แต่เนื่องจากคดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชนทั้งประเทศ ทางคณะกรรมการสอบสวนจะได้เร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด
นายสุวิทย์ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องนี้ถือว่าเป็นความผิดที่ร้ายแรงมาก โดยเฉพาะกรณีเป็นครู แล้วยังเป็นระดับผู้อำนวยการโรงเรียนด้วย ซึ่งต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้ครูน้อยได้ปฏิบัติตาม อีกทั้งกรณี ผอ.โรงเรียนคนนี้ยังเคยมีการกระทำอนาจารกับนักเรียนหญิง ที่โรงเรียนเก่ามาแล้วด้วย ยิ่งทำให้เสื่อมเสียต่อวงการการศึกษาของจังหวัดนครราชสีมาเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ตนก็อยากจะให้สังคมมองว่าเรื่องนี้เป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล ครูที่ดีก็มีอยู่จำนวนมาก แต่ไม่ค่อยเป็นข่าว เมื่อมีข่าวครูที่ทำตัวไม่ดีขึ้นมาแค่คนเดียวก็ทำให้ปลาเน่าไปทั้งบ่อ จึงอยากให้สังคมอย่าเหมารวมกัน เพราะจะทำให้ครูที่ทำดีอยู่แล้วหมดกำลังใจได้


