วุฒิฯเตรียมตั้ง11กมธ.ร่วมถกร่างกสทช.
วุฒิสภาเตรียมตั้งกรรมาธิการร่วม 11 คนพิจารณาร่างกฎหมายกสทช. เชื่อแนวโน้มผ่านร่าง พ.ร.บ. เสร็จทันสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัตินี้ แนะจับตาประเด็นปัญหาโครงสร้างกรรมการ กสทช.
วุฒิสภาเตรียมตั้งกรรมาธิการร่วม 11 คนพิจารณาร่างกฎหมายกสทช. เชื่อแนวโน้มผ่านร่าง พ.ร.บ. เสร็จทันสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัตินี้ แนะจับตาประเด็นปัญหาโครงสร้างกรรมการ กสทช.
นายนิคม ไวยรัชพานิชย์ รองประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานกรรมาธิการกิจการวุฒิสภาเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมาธิการกิจการวุฒิสภาได้พิจารณาจัดเตรียมวุฒิสมาชิกที่จะเข้าร่วมเป็นกรรมาธิการร่วมแล้ว 11 ราย โดยจะมีการแต่งตั้งในที่ประชุมวุฒิสภาในวันที่ 4 ต.ค. นี้
"ในจำนวนกรรมาธิการร่วมส่วนของวุฒิสภา 11 คนนี้จะมีนายประสิทธิ โพธสุธน สว.สุพรรณบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ด้วย และคาดว่าในส่วนของวุฒิสภาจะสนับสนุนให้นายประสิทธิเป็นประธานคณะกรรมาธิการร่วมชุดนี้"นายนิคมกล่าว
นายนิคมกล่าวอีกว่า โดยภาพรวมแล้วเชื่อว่าการพิจารณาประเด็นที่เห็นต่างกันในชั้นกรรมาธิการร่วมนั้น น่าจะหาข้อยุติกันได้ในที่สุด เว้นแต่ประเด็นที่จะให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเป็นฝ่ายธุรการในการสรรหา กสทช. เราคงไม่เห็นด้วย เห็นว่าควรจะให้สำนักงาน กสทช. ทำหน้าที่ดังกล่าวมากกว่า
ด้านนายสมชาย แสวงการ สว.สรรหา กล่าวว่าประเด็นที่น่าจับตาสำหรับการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการร่วม น่าจะเป็นเรื่องของโครงสร้างของคณะกรรมาการ กสทช. ซึ่งในร่างของสภาผู้แทน ฯ เสนอจำนวนไว้ที่ 11 คน แต่เสียงข้างมากของวุฒิสภาเห็นว่าควรจะเป็น 15 คน โดยการเพิ่มสัดส่วนของฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายผู้มีประสบการณืด้านศาสนาและการพัฒนาสังคม ซึ่งในส่วนนี้วุฒิสภาเองก็มีเสียงแตกต่างกันสองทาง เสียงส่วนน้อยเห็นตามสภาผู้แทน ฯ ว่าควรจะมีจำนวนเพียง 11 คนเท่านั้น เนื่องจากหากเพิ่มสัดส่วนตัวแทนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ก็จะเกิดคำถามข้อเรียกร้องขององค์กรอื่นตามมา ว่าทำไมไม่เพิ่มในสัดส่วนของพวกเขาด้วย
“สิ่งสำคัญควรจะมีการกำหนดในกฎหมาย ด้วยการกำหนดคลื่นความมั่นคงโดยเฉพาะไม่ให้เอาไปจัดสรรด้วย เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาด้านความมั่นคง ซึ่งไม่ใช่เฉพาะความมั่นคงทางทหารเท่านั้น แต่รวมถึงความมั่นคงด้านอื่น ๆ เช่นกรณีภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างการเตือนภัย หรือการช่วยเหลือกรณีเกิดสึนามิเป็นต้น” นายสมชายกล่าว
สำหรับประเด็นการโหวตประธานคณะกรรมาธิการร่วมนั้น นายสมชายกล่าวว่าขณะนี้จะพูดได้ยากว่าเสียงโหวตระหว่างนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายก ฯ กับนายประสิทธิ์ โพธสุธน ประธานกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ ฯ ของวุฒิสภา ซึ่งต่างก็เป็นอดีตประธานคณะกรรมาธิการร่าง พรบ.ฉบับนี้ในแต่ละสภานั้น ใครจะมีเสียงสนับสนุนมากกว่า เพราะมีความเป็นไปได้ที่ ส.ส. ฝ่ายค้านส่วนหนึ่งจะมาโหวตให้กับทางวุฒิสภา และวุฒิสมาชิกที่เป็นกรรมาธิการส่วนหนึ่งไปโหวตให้ฝ่ายรัฐบาล แต่เชื่อว่าเรื่องตำแหน่งประธานไม่น่าจะมีผลมากนัก อยู่ที่เนื้อหาแต่ละประเด็นที่จะถกกันมากกว่า
อย่างไรก็ตามนายสมชายระบุว่า ตนเชื่อว่าจะยังไงก็ตาม ประเด็นที่มีการถกเถียงจริง ๆ น่าจะไม่เกิน 4 ประเด็นหลักเท่านั้น คือเรื่องโครงสร้างจำนวน เรื่องสัดส่วนของ กสทช. เรื่องการส่งรายได้เข้ารัฐของรัฐวิสาหกิจด้านการสื่อสาร ระหว่างร่างสภาผู้แทน ฯ ที่ให้ส่งหลังร่างกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว 1 ปี กับร่างแก้ไขของวุฒิสภา ที่ให้เวลาเตรียมปรับตัว 3 ปี และประเด็นสุดท้าย เรื่องสำนักงานฝ่ายเลขานุการณืในการสรรหา ซึ่งสำนักงานวุฒิสภาก็ไม่อยากทำหน้าที่ ขณะที่สภาผู้แทน ฯ เกรงว่าสำนักงาน กสทช. อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อน เถียงกันไปมาอาจจะกลับไปลงที่สำนักปลัดสำนักนายก ฯ ที่ทำหน้าที่สรรหา กสช. และ กทช. มาแล้วก็ได้
“ยังไงเสียผมยังเชื่อว่าร่างนี้คงจะเสร็จทันมีผลบังคับใช้ก่อนปืดสมัยประชุมนิติบัญญัตในเดือน พ.ย.นี้แน่นอน เพียงแต่อยากให้จับตาระหว่างว่าจะมีใครพยายามที่จะเตะถ่วงหาเหตุเสนอแก้ไขให้มากกว่าประเด้ฯที่ถกเถียงกันเพื่อลากเวลายาวออกไปหรือไม่“ นายสมชายกล่าว
สำหรับกรรมาธิการร่วมในสัดส่วนของวุฒิสภาที่เตรียมเสนอชื่อในวันที่ 4 ต.ค.นี้นั้น จะมีสัดส่วนกรรมาธิการวุฒิฯ ในกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ของนายประสิทธิ์รวม 8 คน นอกนั้นก็มี สว. ที่เป็นที่รู้จักหลายคน อาทิ นส.รสนา โตสิตระกูล สว. กทม. นายสมชาย แสวงการ สว. สรรหา จากกลุ่ม 40 สว. นายศิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ สว.นครศรีธรรมราช นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง สว.อุทัยธานี เป็นต้น