สาวอ้างสามีถูกยัดยา 3 เม็ด-ซ้อมตาแตก ตำรวจโต้วิ่งหนีแล้วล้มหน้ากระเเทกต้นกระถินเอง
ตำรวจ สภ.บ้านลาด โต้กลับสาวกล่าวหาตำรวจยัดยาบ้า -ซ้อมสามีตาแตก ยืนยันไม่ได้ซ้อม ผู้ต้องหาหลบหนีการจับกุมล้มหน้าฟาด ยาบ้าของกลาง พยาน หลักฐานแน่น
ตำรวจ สภ.บ้านลาด โต้กลับสาวกล่าวหาตำรวจยัดยาบ้า-ซ้อมสามีตาแตก ยืนยันไม่ได้ซ้อม ผู้ต้องหาหลบหนีการจับกุมล้มหน้าฟาด ยาบ้าของกลาง พยาน หลักฐานแน่น
จากกรณีเมื่อวันที่ 24 ส.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ pun kodchakon saithong ได้โพสต์ข้อความว่า “ ช่วยกันแชร์หน่อยนะคะ ด่านตรวจรถบ้านลาด ตำรวจรังแกประชาชนคุณมีสิทธิ์อะไรมาซ้อมสามี ปันขนาดนี้ คุณเรียกรถตรวจแจ้งข้อหามียาเสพติดในครอบครอง 3 เม็ดแต่หลักฐานก็ไม่มี แต่คุณพาสามีฉันไปซ้อมหลังป้อม คุณรังแกประชาชนเกินไป ฉันไปเห็นสภาพสามีฉันที่โรงพยาบาลบ้านลาดแล้วรับสภาพไม่ได้จริงๆ เหตุเกิดเวลา 18.00 น. ณ ป้อมบ้านลาด แพทย์วินิจฉัยกระดูกตาแตก ช้ำอาเจียนเป็นเลือดตลอดเวลา ขอความเป็นธรรมด้วย ช่วยกันแชร์ด้วยนะคะมีตำรวจแบบนี้อยู่ประชาชนจะอยู่อย่างไร (ส่วนตำรวจท่านที่ดีๆก็มีนะคะที่บ้านลาด) ปันขอประนามตำรวจที่ทำสามีปันและไม่ยอมออกมารับผิดชอบเท่านั้นเอง”
ซึ่งข้อความดังกล่าวได้มีการแชร์ต่อไปหลายครั้งและมีผู้โพสต์แสดงความเห็นไปในวงกว้าง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ส.ค. สำนักข่าวเพชรบูรณ์ Phetchaburi News รายงานว่า เวลา 17.30 น. วันที่ 26 สิงหาคม 60 พ.ต.อ.เชิญ พรายมี ผกก.สภ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านลาด ได้ตั้งด่านตรวจด่านสกัดสกัด บริเวณ ถ.เพชรเกษม ตามคำสั่งของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ขณะเกิดเหตุเวลาประมาณ 19.00 น.เศษ เจ้าหน้าที่พบรถยนต์กะบะโตโยต้า รีโว่ สีดำ ทะเบียน บษ 8150 ราชบุรี ขับเข้ามาที่ภายในด่าน ภายในรถพบชายคนดังกล่าวทราบชื่อภายหลังคือ นายจิรศักดิ์ แคโอชา อายุ 34 ปี ชาว อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เป็นผู้ขับรถเพียงคนเดียว
สภาพไว้หนวดเคราและสักยันต์ มีลักษณะท่าทางมีพิรุธจึงขอตรวจค้น ซึ่งผลการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 3 เม็ดที่กระเป๋ากางเกงยีนส์ด้านขวา เจ้าที่ผู้ต้องหาหลบหนีวิ่งหลบหนี ตำรวจได้วิ่งตามไปและสามารถจับกุมตัวได้ จากนั้นนายจิรศักดิ์ก็พูดขึ้นว่า
"พี่ผมนักเลงพอ ผมไม่หนีแล้วพี่ ปล่อยผมเถอะ"
ตำรวจทั้งสองนายจึงปล่อยตัวและเดินตามหลังมาที่ตู้จุดตรวจ แต่นายจิรศักดิ์ กลับฉวยโอกาสวิ่งหลบหนีอีกครั้งโดยวิ่งไปทางด้านหลังของตู้จุดตรวจด้านทิศตะวันตก มุ่งหน้าลงทุ่งนา เจ้าที่ตำรวจเร่งติดตาม แต่นายจิรศักดิ์ก้าวพลาดลงไปในพื้นต่างระดับจากถนน ซึ่งลึกประมาณ 1 เมตร หน้าพุ่งลงไปในกอต้นกระถิน และตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ
จากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่วิ่งติดตามไป เมื่อตำรวจเข้าไปช่วยก็พบว่าเข้าไปช่วยเหลือและพบว่าที่บริเวณ ตาข้างซ้ายนายจิรศักดิ์มีบาดแผล จึงนำส่งโรงพยาบาลบ้านลาดทำการรักษา และได้ให้แพทย์ทำการตรวจปัสสาวะพบ เป็นสีม่วง จึงควบคุมตัวดำเนินคดี โดยแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายจิรศักดิ์ ประกอบด้วย 1 มียาเสพติดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย 2.เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษประเภทโดยผิดกฎหมาย และ 3.เสพยาเสพติดให้โทษประเภท โดยผิดกฎหมาย ซึ่งนายจิรศักดิ์ ได้ขอประกันตัวโดยอ้างว่าบาดเจ็บมาก จึงอนุญาตให้ประกันตัวไปเพื่อรักษาพยาบาล กระทั่งมาพบว่า มีผู้มาโพสต์ภาพและข้อความบนเฟสต์บุ๊กดังกล่าว
“หลังเกิดเหตุพบ มีคราบเลือดติดอยู่ที่บริเวณตอไม้ในกอต้นกระถินดังกล่าว ซึ่ง สภ.บ้านลาด ได้ให้ตำรวจวิทยาการมาเก็บคราบเลือดในที่เกิดเหตุและไปขอเก็บเนื้อเยื่อจากตัวนายจิรศักดิ์ที่รพ.พระจอมเกล้า เพื่อตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบไว้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีแล้ว
ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ ตามอำนาจหน้าที่ และไม่ได้ทำการทำร้ายผู้ต้องหาดังที่ถูกกล่าวหา ทั้งหมดเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากผู้ต้องหาหลบหนีการจับกุมเอง”
ด้านนายชุติพล ทองเกลา อายุ 59 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งมีบ้านพักอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร เล่าว่าขณะเกิดเหตุ ตนนั่งอยู่บริเวณข้างบ้านพบเห็นชายคนดังกล่าววิ่งหลบหนีเจ้าที่ตำรวจมาในทิศทางลงทุ่งนา ขณะวิ่งหลบหนีชายหนุ่มได้ ลื่นล้มตกไปในพื้นที่ต่างระดับระหว่างพื้นถนนกับท้องนาซึ่งสูงประมาณ 1 เมตร หน้าผู้ต้องหาได้พุ่งลงไปในกอต้นกระถินซึ่งมีตอขนาดใหญ่อยู่ และได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ยืนยันว่าไม่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการซ้อมผู้ต้องหาแต่อย่างไร ตนสามารถเป็นพยานให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้


