สุริยุปราคา
ช่วงเดือน ส.ค.ของทุกปี สถานศึกษาและหลายหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศไทยจะร่วมกันจัดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ เนื่องจากวันที่ 18 ส.ค.
โดย...วรเชษฐ์ บุญปลอด
ช่วงเดือน ส.ค.ของทุกปี สถานศึกษาและหลายหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศไทยจะร่วมกันจัดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ เนื่องจากวันที่ 18 ส.ค. เป็นวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ กำหนดให้ตรงกับวันนี้เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ซึ่งได้ทรงคำนวณและเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรสุริยุปราคาเต็มดวงในวันนี้เมื่อปี 2411
สุริยุปราคาเกิดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก เรียงตัวอยู่แนวเดียวกันในอวกาศ ตามลำดับ ทำให้เงาของดวงจันทร์ทอดยาวมาตกลงบนผิวโลก ผู้ที่อยู่ใต้เงาสามารถมองเห็นดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์ โดยทั่วไปเราอาจแบ่งการเห็นสุริยุปราคาแต่ละครั้งสำหรับผู้สังเกตบนผิวโลกออกได้เป็น 3 ชนิด ได้แก่ สุริยุปราคาเต็มดวง สุริยุปราคาวงแหวน และสุริยุปราคาบางส่วน
วงโคจรของดวงจันทร์รอบโลกเป็นวงรี ดวงจันทร์จึงมีระยะห่างจากโลกไม่เท่ากันเสมอไป บางช่วงอยู่ใกล้ บางช่วงอยู่ไกล ขนาดปรากฏของดวงจันทร์จึงเปลี่ยนแปลงไปได้เล็กน้อยตลอดเวลา โลกก็โคจรรอบดวงอาทิตย์เป็นวงรี ดวงอาทิตย์จึงมีขนาดปรากฏเปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อยเช่นเดียวกัน
สุริยุปราคาเต็มดวงเกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์มีขนาดปรากฏใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ จึงสามารถบดบังดวงอาทิตย์ได้มิด ระยะเวลาของการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงอาจสั้นมากในระดับวินาทีจนถึงราว 7 นาทีครึ่ง สุริยุปราคาเต็มดวงเมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2411 ขณะผ่านบริเวณ จ.ประจวบคีรีขันธ์ก่อให้เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงนานราว 6 นาที 47 วินาที (ที่กึ่งกลางแนวคราส) สุริยุปราคาเต็มดวงเมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2538 ซึ่งเป็นสุริยุปราคาเต็มดวงครั้งล่าสุดที่เห็นในประเทศไทย ผ่านหลายจังหวัด เช่น ตาก กำแพงเพชร นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี นครราชสีมา บุรีรัมย์ สระแก้ว ก่อให้เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงนานราว 1 นาที 44 วินาที ถึง 1 นาที 55 วินาที สุริยุปราคาเต็มดวงในเช้าวันที่ 11 เม.ย. 2613 ซึ่งเป็นสุริยุปราคาเต็มดวงครั้งถัดไปที่จะเห็นในประเทศไทย ผ่าน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง ชุมพร จันทบุรี และตราด เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงนานราว 2 นาที 30 วินาที ถึง 2 นาที 41 วินาที
สุริยุปราคาวงแหวนเกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์มีขนาดปรากฏเล็กกว่าดวงอาทิตย์ เมื่อบังเต็มที่จึงเห็นดวงอาทิตย์เป็นดวงกลมที่โหว่ตรงกลาง ระยะเวลาของการเกิดสุริยุปราคาวงแหวนสามารถนานได้ถึงราว 12 นาทีครึ่ง สุริยุปราคาวงแหวนเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2508 ซึ่งเป็นสุริยุปราคาวงแหวนครั้งล่าสุดที่เห็นในประเทศไทย ผ่านหลายจังหวัดในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น เชียงใหม่ ลำปาง นครราชสีมา บุรีรัมย์ ก่อให้เกิดสุริยุปราคาวงแหวนที่กลางแนวคราสนานราว 3 นาที 35 วินาที ถึง 3 นาที 41 วินาที ส่วนสุริยุปราคาวงแหวนในวันที่ 21 พ.ค. 2574 ซึ่งเป็นสุริยุปราคาวงแหวนครั้งถัดไปที่จะเห็นในประเทศไทย ผ่านจังหวัดในภาคใต้ตอนล่าง เช่น สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส เกิดสุริยุปราคาวงแหวนนานไม่เกิน 4 นาที 34 วินาที
สุริยุปราคาบางส่วนเกิดขึ้นเมื่อเราเห็นดวงจันทร์บังพื้นผิวบางส่วนของดวงอาทิตย์ ดวงอาทิตย์จึงมีลักษณะแหว่งเว้า เรามีโอกาสเห็นสุริยุปราคาบางส่วนได้บ่อยกว่าแบบเต็มดวงและวงแหวนเพราะในการเกิดสุริยุปราคาแต่ละครั้ง เงามัวของดวงจันทร์ที่ทำให้เห็นเป็นสุริยุปราคาบางส่วนแผ่กว้างครอบคลุมได้หลายทวีป ขณะที่เงามืดที่ทำให้เห็นเป็นสุริยุปราคาเต็มดวง (หรือสุริยุปราคาวงแหวนในกรณีที่ปลายเงามืดไม่แตะผิวโลก) ผ่านบริเวณแคบๆ ลากเป็นทางยาวไปบนผิวโลก
นอกจากสุริยุปราคา 3 ชนิดที่กล่าวมา ยังมีสุริยุปราคาอีกชนิดหนึ่งที่เรียกว่าสุริยุปราคาผสม คือผสมระหว่างสุริยุปราคาเต็มดวงกับวงแหวน โดยบางส่วนตามแนวกึ่งกลางคราส (แนวกึ่งกลางเงาของดวงจันทร์ที่ตกบนผิวโลก) เห็นสุริยุปราคาเต็มดวง ส่วนที่เหลือเห็นสุริยุปราคาวงแหวน สุริยุปราคาชนิดนี้เกิดขึ้นเมื่อขนาดปรากฏของดวงจันทร์กับดวงอาทิตย์ใกล้เคียงกัน ระยะเวลาของการเกิดแบบเต็มดวงหรือวงแหวนจึงสั้นมาก การคำนวณสุริยุปราคาโดยทั่วไปเรากำหนดให้ดวงจันทร์เป็นดวงกลมสมบูรณ์ แต่ในความเป็นจริง ผิวดวงจันทร์ไม่ราบเรียบ นักดาราศาสตร์พบว่าสุริยุปราคาเต็มดวงที่คำนวณว่ามีระยะเวลาสั้นมาก ดวงจันทร์มักจะบังดวงอาทิตย์ไม่มิด ยังมีแสงจากผิวดวงอาทิตย์ลอดผ่านหุบเขาหรือหุบเหวตามขอบดวงจันทร์
ก่อนจะถึงสุริยุปราคาวงแหวนในปี 2574 และสุริยุปราคาเต็มดวงในปี 2613 ประเทศไทยจะมีโอกาสเห็นสุริยุปราคาบางส่วนได้อีกหลายครั้ง 3 ครั้งถัดไปในวันที่ 26 ธ.ค. 2562, 21 มิ.ย. 2563 และ 20 เม.ย. 2566
ปรากฏการณ์ท้องฟ้า (13-20 ส.ค.)
ดาวพุธเคลื่อนเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ เวลาหัวค่ำจึงเหลือดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์อยู่บนท้องฟ้า ดาวพฤหัสบดีอยู่ในกลุ่มดาวหญิงสาว เริ่มเห็นได้ในเวลาพลบค่ำตั้งแต่ท้องฟ้ายังไม่มืดดี โดยปรากฏอยู่สูงทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จากนั้นเคลื่อนต่ำลง ตกลับขอบฟ้าในเวลา 3 ทุ่มครึ่ง
ดาวเสาร์อยู่ในกลุ่มดาวคนแบกงู ซึ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งของกลุ่มดาวนี้คั่นอยู่ระหว่างกลุ่มดาวแมงป่องกับคนยิงธนู เวลาประมาณ 2 ทุ่ม ดาวเสาร์ผ่านจุดสูงสุดบนท้องฟ้าด้านทิศใต้ หลังจากนั้นเคลื่อนต่ำลงไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ตกลับขอบฟ้าในเวลาตี 1 ครึ่ง
เวลาเช้ามืดมีดาวศุกร์เป็นดาวเคราะห์สว่างดวงเดียว เริ่มปรากฏเหนือขอบฟ้าทิศตะวันออกตั้งแต่เวลาหลังตี 3 ครึ่งเล็กน้อย โดยอยู่ในกลุ่มดาวคนคู่ ห่างทางขวามือของดาวพอลลักซ์และคาสเตอร์ซึ่งเป็นดาวสว่างที่สุดสองดวงในกลุ่มดาวนี้ เมื่อเวลาผ่านไป ดาวศุกร์จะเคลื่อนสูงขึ้น สังเกตได้จนกระทั่งแสงของท้องฟ้ายามเช้าสว่างกลบแสงของดาวศุกร์
สัปดาห์นี้เป็นข้างแรม ดวงจันทร์สว่างครึ่งดวงในวันที่ 15 ส.ค. เช้ามืดวันถัดไปดวงจันทร์ผ่านใกล้ดาวอัลเดบารันในกลุ่มดาววัวที่ระยะ 5 องศา เช้ามืดวันเสาร์ที่ 19 ส.ค. จะเห็นจันทร์เสี้ยวอยู่ด้านบน เยื้องไปทางขวามือของดาวศุกร์ โดยห่างกัน 3 องศา
สถานีอวกาศนานาชาติซึ่งโคจรรอบโลกที่ความสูงประมาณ 400 กิโลเมตร ปรากฏให้เห็นได้ด้วยตาเปล่าเมื่อแสงอาทิตย์ตกกระทบ โดยมีลักษณะเป็นดาวสว่างเคลื่อนที่บนท้องฟ้า คืนวันพฤหัสบดีที่ 17 ส.ค. 2560 กรุงเทพฯ และบริเวณใกล้เคียงเห็นสถานีอวกาศเริ่มปรากฏใกล้ขอบฟ้าทิศตะวันตกเฉียงเหนือในเวลา 19.49 น. จากนั้นเคลื่อนสูงขึ้นไปทางขวา ผ่านจุดสูงสุดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือในเวลา 19.52 น. ที่มุมเงย 68 องศา จากนั้นเคลื่อนต่ำลง สิ้นสุดการมองเห็นเมื่อสถานีอวกาศเข้าสู่เงามืดของโลกหลังจากนั้นไม่นาน
คืนวันเสาร์ที่ 19 ส.ค. 2560 สถานีอวกาศเริ่มปรากฏใกล้ขอบฟ้าทิศตะวันตกเฉียงเหนือในเวลา 19.40 น. จากนั้นเคลื่อนสูงขึ้นไปทางซ้าย ผ่านจุดสูงสุดทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ในเวลา 19.43 น. ที่มุมเงย 27 องศา ขณะอยู่ใกล้ดาวพฤหัสบดี สิ้นสุดการมองเห็นเมื่อสถานีอวกาศเข้าสู่เงามืดของโลกเหนือขอบฟ้าทิศใต้ในเวลา 19.46 น. (เวลาอาจคลาดเคลื่อนได้เล็กน้อย)


