กำแพงเมืองจีนที่...ซือหม่าไถ
ฝรั่งชอบพูดว่า “กำแพงเมืองจีนเป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องเห็นก่อนตาย” อย่าว่าแต่ฝรั่งเลยค่ะ ใครไปจีนจะต้องไปกำแพงเมืองจีน
โดย...ม.ล.อัจฉราพร ณ สงขลา
ฝรั่งชอบพูดว่า “กำแพงเมืองจีนเป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องเห็นก่อนตาย” อย่าว่าแต่ฝรั่งเลยค่ะ ใครไปจีนจะต้องไปกำแพงเมืองจีน
จีนดูแลรักษากำแพงแห่งประวัติศาสตร์นี้ไว้สุดชีวิต เพราะนอกจากเป็นบันทึกแห่งอดีตแล้วยังเป็นแม่เหล็กดูดเงินในภาคการท่องเที่ยวปีละมหาศาล
กำแพงเมืองจีนสร้างขึ้นเมื่อราว 2,200 ปีก่อน มีความยาว 2 หมื่นกว่ากิโลเมตร อยู่ในพื้นที่ 9 มณฑลของจีน ปัจจุบันการสร้างกำแพงเมืองจีนเกิดขึ้นโดยวัตถุประสงค์หนึ่งเพื่อไว้ป้องกันข้าศึกทางเหนือ โดยเฉพาะพวกมองโกล ซึ่งลงมาสร้างความรำคาญให้จีนมาก
แต่เอาเข้าจริงๆ กำแพงเมืองจีนและการโรยตะปูเรือใบก็ป้องกันมองโกลไม่ได้ ต้น ศ.13 มองโกลยิ่งใหญ่มาก ออกเดินทางลงมาบุกจีนและไปบุกยุโรป ทำให้จีนเสียอธิปไตยให้พวกต่างชาติครั้งแรก แล้วพวกมองโกลเข้ามาสถาปนาราชวงศ์หยวนขึ้นปกครองจีน แต่ราว 500 ปีที่แล้ว จีนสามารถขับพวกมองโกลออกไปได้ ราชวงศ์หยวนก็สิ้นสุดลง แล้วราชวงศ์หมิงของจีนก็ปกครองต่อมา
สิ่งหนึ่งที่ราชวงศ์หมิงทำหลังจากขับพวกมองโกลออกไปได้แล้ว คือการบูรณะกำแพงเมืองจีนไว้ป้องกันพวกมองโกลอีกครั้ง ปัจจุบันทางการจีนบูรณะกำแพงเมืองจีนไว้เพื่อการท่องเที่ยวและเป็นการแสดงอดีตที่ยิ่งใหญ่ของประเทศไว้หลายจุด
ครั้งแรกที่ผู้เขียนไปเที่ยวกำแพงเมืองจีน ไม่ได้จดชื่อจุดที่ไปเที่ยวไว้ คิดว่าน่าจะเป็นที่จูหยงกวน (Juyongguan) เพราะใช้เวลาเดินทางไม่นาน แต่ครั้งหลังสุดนี้จดชื่อไว้กันลืมว่าคือจุดที่ชื่อ...ซือหม่าไถ (Simatai) ที่เมืองกู๋เป่ย์
คนไปเที่ยวที่จุดนี้ไม่มากค่ะ เพราะไกล แต่จุดที่ไกลออกไปกว่ากู๋เป่ย์ก็ยังมีอีกนะคะ เมืองกู๋เป่ย์มีแม่น้ำสายเล็กๆ ไหลจากเขื่อนมาผ่านเมือง การท่องเที่ยวจีนเรียกเมืองนี้ง่ายๆ ว่า Gubei Water Town หรือ W Town
จีนเปิดพื้นที่ให้ขึ้นไปเที่ยวกำแพงเมืองจีนที่กู๋เป่ย์ เรียกว่าจุดซือหม่าไถ (Simatai) มานานแล้ว แต่อยู่มาวันหนึ่ง...จีนคิดใหม่
จีนตัดสินใจรื้อเมืองกู๋เป่ย์ทิ้งและออกแบบแนวคิดและสร้างเมืองกู๋เป่ย์ใหม่หมด ให้เป็นเมืองที่แม้อยู่ไกลแต่เป็นเมืองริมน้ำ มีทุกอย่างทันสมัยและดีเลิศ รวมทั้งติดตั้งระบบรถกระเช้าใหม่นำคนขึ้นไปส่งที่ใกล้ตัวกำแพงเมืองจีน สะดวกไม่แพ้ที่สวิส
จีนทำกู๋เป่ย์ หรือ W Town โดยได้แนวคิดมาจากเมืองริมน้ำหวู่เซิ่น Wuzhen ที่เซี่ยงไฮ้ ออกแบบภายในตัวเมืองกู๋เป่ย์ หรือ W Town ให้เป็นเมืองศิลปวัฒนธรรม กำหนดให้เป็นเมืองสำหรับเดินเที่ยว โดยวางเส้นทางให้คนเดิน ลื่นไหลไปตามตำแหน่งต่างๆ อย่างเพลิดเพลิน
บ้านเรือนและอาคารมีสถาปัตยกรรมจีนหลากหลาย เหมือนกับเป็นเมืองโบราณ ทั้งบ้านอยู่อาศัย ร้านค้า ร้านอาหาร ประตูย่านสำคัญ
W Town ไกลจากปักกิ่ง ต้องออกเดินทางจากปักกิ่งตั้งแต่ 6 โมงครึ่ง ตอนเช้านั่งรถราว 3 ชั่วโมง เดินทางไปกลับรวมแล้วก็ราว 6 ชั่วโมง ตอนกลับมาถึงปักกิ่งนั้นค่ำแล้ว มีแต่ร้านเป็ดปักกิ่งที่ตรงข้ามโรงแรมเปิดรอเราอยู่ จึงทำให้รู้ว่าเป็ดปักกิ่งที่ปักกิ่งนั้นสุดยอด
ไปเที่ยวกำแพงเมืองจีนเหนื่อยค่ะ แต่ก็ทำให้เห็นได้ว่าจีนมีความคิดโลดแล่นและวางแนวคิดเพื่อใช้กำแพงเมืองจีนไม่เพียงแต่เป็นมรดกโลก หรือแค่เป็นสิ่งตกค้างทางประวัติศาสตร์ แต่จีนกำลังใช้กำแพงเมืองจีนที่ W Town แสดงตัวตนและสร้างโมเดลทางการท่องเที่ยวของตนใหม่
จีนสร้าง W Town เมืองที่เหมือนกับโชว์รูมการท่องเที่ยวที่ทันสมัย และอยู่ในกฎเกณฑ์ที่สอดคล้องกับการรักษามรดกโลกไว้ตามที่ UNESCO กำหนดกฎเกณฑ์ไว้ และมีบูรณาการมากคือทำอย่างเดียวแต่ให้ได้ผลหลายอย่าง และหวังผลในทาง PR อย่างเห็นได้ชัด
การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในจีนรวดเร็ว เพราะการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ W Town หรือ Water Town มีผังเมืองให้เป็นเมืองที่มีชีวิตคู่กับน้ำ ล่องเรือชมเมืองได้ มีขุนเขาวางตัวเป็นมังกรอยู่เป็นฉากหลัง เป็นพื้นที่ตั้งเมืองในลักษณะฮวงจุ้ยที่ดี และเป็นเมืองให้อาบน้ำแร่ด้วย หากใครมาพักโรงแรมที่ W Town จะใช้ชีวิตพักผ่อนแบบผ่อนคลาย
การขึ้นไปเที่ยวบนกำแพงเมืองจีนตรงจุดที่ซือหม่าไถ เมื่อนั่งรถกระเช้าขึ้นไปแล้วก็จะเดินต่อไปขึ้นเนินกำแพงอีกราว 200 เมตร จากนั้นก็ขึ้นไปบนกำแพง ซึ่งเขาซ่อมและบูรณะไว้ให้เราเดิน 5.6 กิโลเมตร โดยหากเดินไปทางตะวันตกจะมีป้อมเป็นระยะอยู่ 19 ป้อม ทางตะวันออก 16 ป้อม (แค่ 2 ป้อมก็จะตายแล้วค่ะ)
ช่วงที่นั่งหยุดพักเหนื่อยและมองซากกำแพงไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา ทำให้เห็นกำแพงเมืองจีนเหมือนกับวัตถุพยานที่บอกเราว่า แม้จะสร้างกำแพงเมืองให้สูงและหนาสักเท่าใด แต่หากไม่บำรุงกองทัพและสร้างความเข้มแข็งทางทหารและเศรษฐกิจให้เหนือกว่าผู้อื่นแล้ว กำแพงที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้ก็ไร้ค่า
บทเรียนที่จีนถูกสอนโดยพวกมองโกลและชาติตะวันตก รวมทั้งญี่ปุ่นและอเมริกาทำให้จีนไม่ปล่อยให้ตัวเองอ่อนด้อยเรื่องแสนยานุภาพและเศรษฐกิจเด็ดขาด
(เพราะฉะนั้น...ท่านจึงควรซื้อเรือดำน้ำไว้) กำแพงเมืองจีนที่ซือหม่าไถ และ W Town ให้สิ่งชวนคิดได้มากมาย ในบรรยากาศแบบ Slow Life ที่ก็ไม่แออัดเหมือนกับการไปขึ้นกำแพงเมืองจีนที่จุดอื่น หายเหนื่อยแล้วลุกขึ้นเดินต่อ กำแพงเมืองจีนที่ซือหม่าไถบางช่วงค่อนข้างอันตราย เพราะไม่มีผนังกำแพงข้างกั้นไว้ เนื่องจากพังไปหมดแล้ว
ใครเป็นนักเซลฟี่ต้องระวังให้มากนะคะ ถอยไปถอยมาหงายหลังลอยละล่องหล่นกำแพงเมืองจีนไปพิการหรือตายได้ ถึงจะหวาดเสียวแต่ก็ชอบกำแพงเมืองจีนตรงจุดที่ชื่อซือหม่าไถ เพราะชวนให้คิดอะไรได้เยอะดีค่ะ...
(พบกันวันเสาร์หน้าค่ะ)


