posttoday

แปดหมื่นแม่พิมพ์แห่งโครยอ

18 มิถุนายน 2560

เมื่อไม่นานมานี้ผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมห้องสมุดแห่งหนึ่ง ดูๆ ไปแล้วไม่มีหนังสือมากนัก เพราะขนาดห้องสมุดเล็กเท่าห้องเรียน

โดย...กรกิจ ดิษฐาน

เมื่อไม่นานมานี้ผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมห้องสมุดแห่งหนึ่ง ดูๆ ไปแล้วไม่มีหนังสือมากนัก เพราะขนาดห้องสมุดเล็กเท่าห้องเรียนเด็กประถม-มัธยมเท่านั้น แต่พอกำลังจะจากไป สายตาไปพบเข้ากับกองหนังสือเก่ากองโตวางบนพื้นบ้าง บนชั้นบ้าง เหมือนเห็นการเข้าเล่มแบบจีน ก็อดจะหยิบขึ้นมาปัดฝุ่นดูไม่ได้ พบว่าหลายเล่มเป็นหนังสือด้านพุทธศาสนาที่มีคุณค่า แต่ไม่มีผู้อ่าน ทั้งยังไม่มีผู้รู้ภาษาจีนคอยทำบัญชี ผมจึงอาสาขอทำบัญชีคร่าวๆ ให้

ระหว่างขันอาสาระบุอัตลักษณ์หนังสือนั่นเอง ได้ประสบพบเจอพระไตรปิฎกภาษาจีนชุด “โครยอ แทจัง กย็อง” หรือพระไตรปิฎกสมัยโครยอ (จีนเรียกไตรปิฎกฉบับเกาหลี เพราะคำว่าโครยอ ออกเสียงว่าเกาลี่ และเป็นที่มาของชื่อประเทศเกาหลี)

“โครยอ แทจัง กย็อง” ชุดนี้ถ่ายแบบจากแม่พิมพ์ไม้ของวัดแฮอินซา อายุ 800 กว่าปีแล้ว มีจำนวน 81,258 แผ่น ฉบับมหาวิทยาลัยทุงกุก ที่เห็นอยู่นี้ ทำขึ้นในปี 1957 มาถ่ายแบบแล้วเรียงเป็น 3 แผ่นต่อ 1 หน้า (ชื่อทางการคือ&&9640;&*0599;&>2823;&&4255;&&2147; &>6481;&>2283;&>2823;&>3416;&>6657;, 1957)

ที่เกาหลีเรียก “โครยอ แทจัง กย็อง” อีกชื่อว่า “พัลมัล แทจัง กย็อง” หรือมหาปิฎกแปดหมื่น” เพราะแม่พิมพ์ไม้มีจำนวน 8 หมื่นเกือบจะครบ 8.4 หมื่นขันธ์อยู่รอมร่อ รวมแล้วมีจำนวนหน้ากว่า 1 แสน นับเป็นพระไตรปิฎกภาษาจีนชุดที่ 3 ของโลกต่อจากฉบับไคเป้า สมัยราชวงศ์ซ่ง และฉบับชี่ตันของอาณาจักรเหลียว แต่ทั้งสองฉบับหามีไม่แล้ว เหลือแต่ฉบับเกาหลี จึงครองแชมป์เก่าที่สุด

ปัจจุบันพระไตรฯ ชุดนี้หาศึกษาได้ไม่ยาก มหาวิทยาลัยทงกุกจัดการดิจิทัลไลซ์เป็นที่เรียบร้อย แต่ชุดที่ผมตรวจพบก็มีคุณค่าในตัวมันเอง และในเมืองไทยคงมีไม่กี่ชุด

ว่ากันว่า พระราชาโครยอสร้างมหาปิฎกแปดหมื่นขึ้น เพื่อขอให้พุทธคุณช่วยมิให้เสียเมืองแก่พวกชี่ตัน ซึ่งก็ไม่เสียเมืองจริงๆ แถมพวกชี่ตันยังต้องยอมรามือ แต่ต่อมาโครยอถูกมองโกลรุกรานแทน พระไตรฯ ถูกมองโกลเผาทิ้งเหมือนเป็นตัวรับเคราะห์ไม่ให้โครยอสิ้นวงศ์ แต่ต้องเป็นเมืองขึ้นมองโกลเท่านั้น ต่อมาเมื่อแผ่นดินสงบราบคาบแล้วจึงสร้างใหม่ในปี 1398 ซึ่งคือชุดปัจจุบัน

แต่ชุดปัจจุบันเสี่ยงกับภยันตรายเสียยิ่งกว่าชุดแรก พอเปลี่ยนราชวงศ์จากโครยอ (ที่ส่งเสริมพุทธ) เป็นราชวงศ์โชซอน (ที่กำราบพุทธ) มีหลายครั้งที่โชซอนจะยกมหาปิฎกแปดหมื่นให้ญี่ปุ่น เพราะไม่เห็นค่าและญี่ปุ่นตื๊อมาหลายรอบ (ขุนนางสมัยพระเจ้าเซจงบอกว่า “มิได้ทรงคุณค่า” ส่วนเซจงทรงว่า “บ้านเมืองเราหาได้นับถือพุทธ”)

แต่แล้วโชซอนก็ไม่ยกให้ญี่ปุ่น เพราะคิดว่าถ้าให้ก็เท่ากับหงอ ไม่ได้คิดว่าพระไตรปิฎกมีค่าอะไรให้หวงแหน แถมเซจงยังบอกว่าน่าจะย้ายมาที่เมืองหลวงซะเลย พวกญี่ปุ่นจะได้คิดว่าเป็นของหลวง ไม่ใช่ของในป่าในดอย จะได้เกรงใจกันบ้าง

ญี่ปุ่นส่งทูตและสมณทูตมาขอถึง 80 ครั้ง แต่ ล้มเหลว หากต่อมาญี่ปุ่นหาเรื่องรุกรานโชซอนจนได้

โชคดีที่พระเจ้าเซจงไม่ได้ย้ายมหาปิฎกมาเมืองหลวง เพราะหาไม่แล้วคงถูกเผาทิ้งพร้อมๆ กับเมืองฮันยาง แต่ระหว่างที่พระราชาเตลิดหนีญี่ปุ่นอยู่นั้น ชาวบ้านต้องรวมกำลังตั้งเป็นกองโจรช่วยตัวเอง มีกองโจรกลุ่มหนึ่งทราบว่าญี่ปุ่นจะมาบุกวัดแฮอินซา เพื่อช่วงชิงพระไตรปิฎกไป จึงจัดวางกำลังป้องกัน เข้าซุ่มตีจนชิงพื้นที่ไว้ได้ มหาปิฎกจึงรอดพ้นภยันตรายไป ส่วนเกาหลีทั้งแผ่นดินเสียหายหนัก หากสุดท้ายรอดจากการยึดครองของญี่ปุ่นไปได้

เมื่อเกาหลีตกเป็นเมืองขึ้นญี่ปุ่นในอีก 300 ปีต่อมา ญี่ปุ่นก็ยังไม่อาจชิงกลับไป

แต่ภัยจริงๆ อยู่ในช่วงสงครามเกาหลี ในเวลานั้นพวกเกาหลีเหนือบุกลงใต้ มักใช้วัดเป็นฐานกำลัง วัดหลายแห่งจึงถูกฝ่ายใต้ทิ้งระเบิดทำลาย หาไม่ก็ถูกพวกฝ่ายเหนือเผาทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน วัดแฮอินซาในเวลานั้นมีพวกฝ่ายเหนือกบดานอยู่ กองทัพอากาศฝ่ายจึงได้รับคำสั่งให้ทิ้งระเบิดปูพรม

เมื่อฝูงบินมาถึงวัด ได้ทิ้งระเบิดควันสัญญาลงไปที่วัดแล้ว แต่ปรากฏว่านายทหารที่ชื่อคิมยองฮวัน ตัดสินใจวินาทีสุดท้ายขัดคำสั่งกองบัญชาการ แล้วให้ฝูงบินโจมตีที่สันเขารอบๆ วัด ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานปืนกลของฝ่ายเหนือแทน

เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ ถูกผู้บังคับบัญชาทั้งฝ่ายเกาหลีและอเมริกันสอบวินัย เรื่องนี้ยังถูกรายงานประธานาธิบดีซึ่งไม่พอใจอย่างมาก แต่คิมยองฮวันตอบอย่างกล้าหาญว่า รู้ดีว่าทำผิดวินัยทหาร แต่ต้องการจะรักษาสมบัติของชาติไว้ ปรากฏว่าคิมยองฮวันรอดจากการถูกลงโทษ และสุดท้ายยังมียศเป็นถึง พล.อ.อ.

กล่าวถึงฝ่ายเกาหลีเหนือที่ซุ่มอยู่ในวัด พอถูกตีจนต้องถอยร่น ถึงเวลาต้องเผาวัดทิ้ง แต่พระในวัดกลุ่มหนึ่งยอมเสี่ยงตายห้ามปรามพวกเกาหลีเหนือ แล้วใช้เหตุผลหว่านล้อมจนพวกนั้นต้องมานั่งออกเสียงกันทั้งๆ ที่ต้องหนีตายเอาตัวรอด ปรากฏว่าฝ่ายไม่ให้เผาวัดชนะแค่ 1 เสียง พวกฝ่ายเหนือจึงยอมจากไปโดยไม่แตะต้องวัด ซึ่งนับว่าน่าอัศจรรย์มาก เพราะเป็นวัดอื่นได้ถูกเผาทิ้งแล้ว และหากมีพระสงฆ์กล้าขัดขืน มีแต่ตายสถานเดียว

อีกเรื่องหนึ่งที่น่ากล่าวถึงไว้คือ หอพระมหาปิฎกมีทำเลที่ตั้งสูงกว่าอาคารหลังอื่นๆ ในวัดเพื่อให้ลมระบาย แม่พิมพ์ไม้จะได้มีอายุยืนยาว แต่การทำเช่นนี้ ทำให้หอพระมหาปิฎกเสี่ยงที่จะติดไฟอย่างแน่นอน หากอาคารด้านล่างเกิดไฟไหม้

ปรากฏว่าวัดแฮอินซามีเพลิงไหม้หลายครั้ง เฉียดๆ หอใกล้จะไหม้อยู่รอมร่อ แต่หอพระมหาปิฎกกลับรอดมาได้ทุกครั้ง

หมายเหตุ : ข้อมูลเกี่ยวกับพระไตรปิฎกส่วนใหญ่ นำมาจากหนังสือ Under the Microscope : The Secrets of the Tripitaka Koreana Woodblocks โดย Sang-jin Park หน้า 147-155

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด เบรนท์ฟอร์ด พบ ลีดส์ ยูไนเต็ด พรีเมียร์ลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68