อัครา พรหมเผ่า ดอกผลธุรกิจเพื่อคนพะเยา

โดย...อักษรา ปิ่นนราสกุล

“เพราะเคยลำบากมาก่อน จึงรู้และเข้าใจว่าความลำบากเป็นอย่างไร” คำกล่าวที่สื่อให้เห็นถึงความเข้าใจความลำบากของผู้อื่นได้เป็นอย่างดีของ “อัครา พรหมเผ่า” นักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ วัย 44 ปี ชาว จ.พะเยา นักวางแผนยุทธศาสตร์ด้านอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจด้านสุขภาพผิว และนักพัฒนามุ่งมั่นทุ่มเทเพื่อบ้านเกิดพะเยา ด้วยสำนึกของผู้ที่มีสำนึกกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด

“อัครา” พูดเสมอว่า แผ่นดินเกิดได้มอบโอกาสดีๆ มามากมาย เป็นคนพะเยาที่มีโอกาสไปศึกษาถึงต่างประเทศ เป็นนักเรียนทุน จบกลับมาแล้วทำธุรกิจส่วนตัว ความเป็นอยู่ไม่ลำบากอีกต่อไป จึงอยากทำอะไรให้คนพะเยาและบ้านเกิด คือที่มาของ “ฮักบ้านเกิดพะเยา”(Phayao Love Homeland : PLH)

สังคมเมืองพะเยา เป็นเมืองที่น่าอยู่ด้วยพื้นฐานของคนพะเยาที่มีจิตใจดี เอื้ออารี มีมิตรไมตรีต่อคนรอบข้าง แม้นจะขัดแย้งหรือเห็นต่างกันเพียงใด สุดท้ายก็อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบด้วยเหตุและผล ดั่งโลโก้ของฮักบ้านเกิดฯ ที่เป็นลูกไม้ซึ่งเป็น “ดอกเหียง” ลูกไม้ป่าสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์และธรรมชาติ สูงเพียงใดก็กลับคืนสู่แผ่นดินเบื้องล่างอย่างสงบ

ท่ามกลางความเจริญของสังคมที่ก้าวไปตามวันเวลา ผู้คนมีการแข่งขันกันสูง ต่างเสาะแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม ทำให้รู้สึกเป็นห่วงถึงอนาคตบ้านเกิดพะเยา เมื่อระบบทุนนิยมคืบคลานเข้ามาแล้ว ลูกหลานพะเยาจะอยู่กันอย่างไร ถ้าคนพะเยาไม่ร่วมกันอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ดีงาม อันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า ร่วมกันรักและหวงแหนและทดแทนคุณแผ่นดิน

อัครา กล่าวว่า หากคนมีอาชีพ มีรายได้ ก็ไม่ลำบาก ซึ่งฮักบ้านเกิดพะเยามีแนวคิดเรื่องการส่งเสริมอาชีพให้คนพะเยามีอาชีพเพื่อก่อเกิดรายได้เสริม อยู่ดีมีสุข ปรับเปลี่ยนค่านิยมที่จะต้องรอรับของแจกจากหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานอื่นใดเพียงอย่างเดียว โดยยืนด้วยลำแข้งของตนเองได้อย่างเข้มแข็ง การส่งเสริมให้เกิดอาชีพและพัฒนาฝีมือแรงงาน เช่น กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มเยาวชน ทำให้มีผลิตภัณฑ์และนำไปสู่รายได้รองรับรายจ่ายได้อย่างเพียงพอ เปรียบได้กับการให้เครื่องมือหาปลาแทนการนำปลามาแจกเหมือนที่ผ่านๆ มา

กลไกการทำงาน องค์กรฯ มีคณะที่ปรึกษาประกอบด้วยพระเถระผู้ใหญ่ นักวิชาการท้องถิ่น นักพัฒนาเอกชน ที่มีความเข้าใจเรื่องการจัดสวัสดิการสังคม การศึกษาและวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยเฉพาะพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ที่ให้ความเมตตาแนะนำแนวทางการทำงานเพื่อให้เข้าถึงทุกกลุ่มในสังคมอย่างไม่เลือกปฏิบัติ คณะกรรมการที่เป็นนักคิด นักเขียน นักพัฒนา นักปกครอง จากหลากหลายสาขา เข้ามาช่วยกันวางระบบการทำงาน และคณะทำงานที่เป็นผู้ประสานงานระดับอำเภอทั้ง 9 อำเภอ

องค์กรของเราไม่มีทุนในการจัดตั้ง แต่ความตั้งใจจริงและจิตอาสาของคณะกรรมการ คณะทำงานทุกคนเป็นพื้นฐานสำคัญ การทำงานที่จริงจังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน ทั้งนี้ ฮักบ้านเกิดฯ จะเป็นผู้ประสานงานกลางระหว่างแหล่งทุนกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการรับความช่วยเหลือ

“ดอกผลที่ผมได้จากการทำธุรกิจส่วนตัวที่ผ่านมา ด้านอสังหาริมทรัพย์ และที่กำลังศึกษาและวางแผนธุรกิจตัวใหม่ด้านสุขภาพผิว แต่ก็ใช้ลำพังตลอดชีวิตคงไม่หมด ปากเดียว หนึ่งอิ่ม วันละ 3 มื้อ ผมคิดว่าการแบ่งปันที่ไม่หวังผลตอบแทน แต่ได้กัลยาณมิตรรอบข้าง ทำให้ชีวิตผมไม่ขวนขวายหาสิ่งที่ขาดเพราะพอใจในสิ่งที่มีอยู่”

ส่วนใหญ่คณะทำงานในระดับอำเภอแจ้งเข้ามาว่ามีกลุ่มนักเรียนที่เรียนดีแต่ลำบากต้องการทุนการศึกษาเข้ามาจำนวนมาก นักเรียนที่บ้านอยู่ห่างไกลโรงเรียนก็จำเป็นต้องใช้รถจักรยานปั่นไปโรงเรียนและออกกำลัง ผู้ป่วยติดเตียงที่ต้องการได้รับของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ กระดาษชำระ ฯลฯ สิ่งของเหล่านี้ผู้ประสานงานค่อนข้างละเอียดอ่อนเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนำไปมอบถึงบ้าน

หากครอบครัวใดที่พบว่ามีความลำบากอย่างสาหัสบ้านจะพังแทบอยู่ไม่ได้ ก็จะยื่นมือเข้าช่วยประสานงานองค์กรเอกชนเข้ามาให้การช่วยเหลือซ่อมหรือสร้างบ้านฮอมฮักให้ โดยชุมชนจะช่วยกันลงแขกสร้างบ้าน

นอกจากนี้ ฮักบ้านเกิดพะเยา ยังทำงานเป็นพันธมิตรกับสมาคมชาวพะเยา เพื่อชาวพะเยา มูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่า รวมทั้งการระดมทุนจากผู้ใจบุญที่เป็นนักธุรกิจในเมืองใหญ่ เพื่อนำไปมอบและแบ่งปัน เติมเต็มให้แก่ผู้ที่ต้องการในพื้นที่ จ.พะเยา อย่างต่อเนื่อง ไม่เฉพาะอัคราเท่านั้นที่ได้รับความอิ่มเอมใจนี้ หากแต่ทีมงานทุกอำเภอยังได้เรียนรู้การช่วยเหลือ การให้โดยไม่หวังผล เราฮักบ้านเกิดพะเยา จึงทำงานกันอย่างมีความสุขใจ

ปัจจุบันชาว จ.พะเยา รู้จักฮักบ้านเกิดฯ มากขึ้น เมื่อพบเคสผู้ยากไร้ที่ลำบาก จะแจ้งมายังคณะทำงานในพื้นที่ ส่งข้อมูลมาที่องค์กรได้นำความช่วยเหลือจากที่ต่างๆ ไปมอบให้

แม้นว่าทุกวันนี้มีธุรกิจส่วนตัวที่มั่นคง แต่อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ ดังนั้นทุกลมหายใจจึงตั้งใจทุ่มเททำงานเพื่อคนพะเยาตราบเท่าที่ทำได้ เพราะรอยยิ้ม ความมีไมตรีของคนพะเยาที่เอื้ออาทรต่อกัน ทำให้พะเยาเป็นแผ่นดินที่น่าอยู่ไม่ว่าสถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไร สิ่งสำคัญคือความสุขของคนพะเยา

ดังนั้น สิ่งที่ได้รับจากธุรกิจต้องกระจายสู่ผู้ที่ควรได้รับโอกาส ผู้ที่มีมากแบ่งปันผู้ที่มีน้อย ผู้ที่มีน้อยแบ่งปันให้แก่ผู้ที่ไม่มีเลย คือวัฏจักรบุญที่หล่อเลี้ยงและเติมเต็มกันด้วยหัวใจ