ถอดรหัสเด้งฟ้าผ่า "ชาญเชาวน์" พ้นปลัดยธ. ส่องว่าที่ปลัดคนใหม่ ใครตัวเต็ง?
การโยกย้ายครั้งนี้นับว่าสร้างความมึนงงให้ข้าราชการในกระทรวงยุติธรรมไม่น้อย เพราะนายชาญเชาวน์ ทำงานตอบสนองรัฐบาลทุกด้าน
โดย...ทีมข่าวในประเทศโพสต์ทูเดย์
มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ย้ายนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ไปปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ตรวจราชการพิเศษ สำนักนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ขึ้นเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมคนใหม่แทน
การโยกย้ายครั้งนี้ นายชาญเชาวน์ เองอยู่ระหว่างการเดินทางไปปฏิบัติราชการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยจะเดินทางกลับถึงประเทศไทยในวันเสาร์ที่ 27 พ.ค.นี้ นับว่าสร้างความมึนงงให้ข้าราชการในกระทรวงยุติธรรมไม่น้อย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นายชาญเชาวน์ ทำงานตอบสนองรัฐบาลทุกด้านในขณะที่ดำรงตำแหน่งปลัดยุติธรรม
นายชาญเชาวน์ ขึ้นดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรมระยะเวลาเพียงปีเศษเท่านั้น ได้พยายามสนองงานรัฐบาลทุกอย่าง แต่ข่าวกระทรวงยุติธรรมเตรียมเลิกจ้างลูกจ้างชั่วคราวกว่า 2,000 คน สร้างแรงสั่นสะเทือนไม่น้อย ดูเหมือนการบริหารงานไม่บรรลุเป้าหมาย ถือว่าสร้างชื่อเสียให้กับรัฐบาลที่อยู่ในภาวะง่อนแง่นเช่นกัน
รวมถึงคดีความฟ้องร้องที่นายชาญเชาวน์ ต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้ กรณี ถูก พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ อดีต ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ ฟ้องในความผิดฐานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีร่วมกับนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ย้ายพ.อ.ปิยะวัฒก์ ขณะนั้นเป็น ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา ดีเอสไอ ไปเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะคดี ซึ่งมีระดับต่ำกว่าตำแหน่งเดิมอันเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกนายชาญเชาวน์ เป็นเวลา 2 ปี แต่ให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี
ส่วนสาเหตุการโยกย้ายที่แท้จริงไม่มีใครออกมาระบุชัด เพียงแต่การย้ายครั้งนี้เพื่อให้นายชาญเชาวน์ ไปช่วยงานด้านการปฎิรูปตำรวจและกระบวนการยุติธรรม
สำหรับว่าที่ ปลัดกระทรวงยุติธรรม คนใหม่ เส้นทางชีวิตถือว่าไม่ธรรมดาเช่นกัน แง้มประวัติดู วิศิษฎ์ จบการศึกษามัธยมโรงเรียนสวนกุหลาบ ปริญญาตรีนิติศาสตร์ (เกียรตินิยมอันดับสอง) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประกาศนียบัตร เนติบัณฑิตไทย สํานักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิต LL.B. (Second Class Honors, Upper Division) University of Wales, United Kingdom Barrister-at-Law of Gray's Inn (เนติบัณฑิตอังกฤษ)
ส่วนเส้นทางการรับราชการก็น่าสนใจไม่น้อย ช่วง พ.ศ.2557-2558 หัวหน้าผู้ตรวจราชการ กระทรวงยุติธรรมพ.ศ.2553-2557 อธิบดีกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ถัดมา พ.ศ.2551-2553 รองปลัดกระทรวงยุติธรรม (นักบริหาร 10) พ.ศ.2546-2551 ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม (นักบริหาร 10) พ.ศ.2543-2546 รองอธิบดีกรมบังคับคดี (นักบริหาร 9)
ต่อมา พ.ศ.2542-2543 เป็นผู้อำนวยการสำนักฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้กระทรวงยุติธรรม (นิติกร 9) กรมบังคับคดี พ.ศ.2541-2542 ผู้พิพากษาประจำกระทรวง ทำงานธุรการในตำแหน่งรองอธิบดีกรมบังคับคดี ถัดมา พ.ศ.2538-2541 ผู้พิพากษาประจำกระทรวง ทำงานธุรการในตำแหน่งรองเลขาธิการส่งเสริมงานตุลาการ สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ และช่วง พ.ศ.2537-2538 เป็นผู้พิพากษาแขวงสงขลา
นอกจากนี้ในปัจจุบัน ยังเป็นศาสตราจารย์พิเศษ สาขากฎหมายธุรกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นกรรมการบัณฑิตศึกษา คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกมหาวิทยาลัย หลักสูตรปริญญามหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นอาจารย์พิเศษระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ในมหาวิทยาลัยต่างๆ ได้แก่ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ , คณะนิติศาสตร์และคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ


