posttoday

ความรับผิดกรรมการบริษัท ผลกระทบของกฎหมายใหม่ (1)

10 พฤษภาคม 2560

พระราชบัญญัติแก้ไขความรับผิดทางอาญาของผู้แทนนิติบุคคล พ.ศ. 2560 ที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.อื่นอีก 76 ฉบับ

วิโรจน์ พูนสุวรรณ ที่ปรึกษากฎหมาย [email protected]

พระราชบัญญัติแก้ไขความรับผิดทางอาญาของผู้แทนนิติบุคคล พ.ศ. 2560 ที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.อื่นอีก 76 ฉบับ และมีผลบังคับใช้เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา นับว่าดีกว่ากฎหมายเก่า หากท่านเป็นกรรมการบริษัท หรือผู้บริหารของบริษัทจำกัดที่เป็นเอกชน แต่ถ้าท่านเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ไม่ว่าท่านจะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือบริษัทจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ท่านอาจโชคไม่ดีนัก เพราะกฎหมายใหม่ฉบับนี้ แทบจะไม่เป็นประโยชน์ต่อท่าน ในทางตรงกันข้ามกฎหมายใหม่อาจเพิ่มภาระเป็นโทษต่อท่านด้วยซ้ำ และมีผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจของท่าน เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้มีบทบัญญัติกำหนดความผิดทางอาญาต่อ กรรมการและผู้บริหารบริษัทที่ “มีหน้าที่ต้องกระทำการ และละเว้นไม่กระทำการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้นกระทำความผิด”

มาตรา 85 ของ พ.ร.บ.มหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 ซึ่งไม่ได้รวมอยู่ในกฎหมาย 76 ฉบับ ที่ถูกแก้ไข กำหนดไว้ว่า “ในการดำเนินกิจการของบริษัท กรรมการต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย” มาตรา 89/7 ของพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งไม่ถูกแก้ไขโดยกฎหมายใหม่เช่นกัน ระบุไว้คล้ายคลึงกันว่า “ในการดำเนินกิจการของบริษัท กรรมการและผู้บริหาร ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย”

เท่ากับว่าทั้ง พ.ร.บ.มหาชน และ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ บัญญัติให้กรรมการและผู้บริหารบริษัทมหาชนจำกัด มีหน้าที่ต้องกระทำการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายทั้งหลายทั้งปวง ที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินกิจการของบริษัท จุดเชื่อมต่อระหว่างกฎหมายบริษัทมหาชนทั้งสองฉบับนี้กับ พ.ร.บ.แก้ไขความรับผิดทางอาญาของผู้แทนนิติบุคคล ก็คือ กฎหมาย 76ฉบับ ที่กฎหมายใหม่ออกมาแก้ไข กฎหมายบริษัทมหาชนบอก กรรมการและผู้บริหารบริษัทมีหน้าที่กระทำการปฏิบัติตามกฎหมายทุกฉบับ และกฎหมายใหม่ออกมาย้ำว่าเมื่อมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย แล้วยังละเว้นหน้าที่ไม่กระทำการไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย จนเป็นสาเหตุให้บริษัทกระทำความผิด กรรมการและผู้บริหารก็ต้องรับโทษเดียวกันกับบริษัท

กฎหมาย 76 ฉบับที่ถูกแก้ไขโดยกฎหมายใหม่นี้มีกฎหมายที่ใช้กับบริษัทมหาชนทุกบริษัทอยู่ด้วย เช่น ประมวลรัษฎากร และ พ.ร.บ.การบัญชี นอกจากนี้ยังมีกฎหมายเฉพาะแต่ละธุรกิจรวมอยู่ด้วย ได้แก่ พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจโทรคมนาคม พ.ร.บ.อาคารชุด พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดิน

ซึ่งก็หมายความว่า ถ้าท่านเป็นบริษัทจดทะเบียน และบริษัทของท่านฝ่าฝืนกฎหมายฉบับใดฉบับหนึ่งใน 76 ฉบับนี้ ท่านในฐานะกรรมการและผู้บริหารก็ต้องรับผิดตามไปด้วยฐานละเว้นต่อหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎหมาย

แม้ว่ากฎหมายใหม่จะสันนิษฐานไว้ก่อนว่าท่านเป็นผู้บริสุทธิ์ ตามหลักกฎหมายอาญาทั่วไป และผลักภาระการพิสูจน์กลับไปให้พนักงานอัยการ แต่คุณประโยชน์เหล่านี้ถือว่าตกมาถึงท่านน้อยมาก ถ้าเทียบกับการที่กฎหมายใหม่บัญญัติไว้อย่างมากมายถึงการลงโทษกรรมการและผู้บริหาร ในกรณีละเว้นหน้าที่ที่จะต้องกระทำ

ภาระการพิสูจน์บางอย่างของพนักงานอัยการง่ายต่อการพิสูจน์ เช่นการนำสืบข้อเท็จจริงว่าท่านเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เพียงแต่ไปตรวจสอบข้อมูลจดทะเบียนที่กระทรวงพาณิชย์หรือรายงานประจำปีของบริษัทท่าน ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าท่านเป็นกรรมการหรือผู้บริหารตำแหน่งใด พนักงานอัยการไม่ต้องพิสูจน์หรือนำสืบด้วยซ้ำว่าท่านมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย พนักงานอัยการเพียงแต่กล่าวอ้างถึงมาตรา 85 แห่ง พ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัด และ มาตรา 89/7 ของ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ ก็เป็นการเพียงพอ เพราะหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่ระบุในกฎหมายสองฉบับนี้ เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ศาลท่านวินิจฉัยเองได้โดยไม่ต้องมีการสืบพยาน เพราะศาลท่านก็เป็นผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายรู้กฎหมายดีอยู่แล้ว

ก็เหลือแต่ข้อเท็จจริงที่พนักงานอัยการต้องพิสูจน์ให้ศาลเห็นโดยปราศจากความสงสัยตามสมควรว่าบริษัทท่านฝ่าฝืนกฎหมาย 76 ฉบับข้อใด ซึ่งในหลายๆ เรื่องไม่น่าจะเป็นการยากต่อการพิสูจน์ เช่น บริษัทท่านไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ฝ่าฝืนกฎหมายควบคุมอาคาร หรือ พ.ร.บ.จัดสรรที่ดิน ธนาคารให้กู้ยืมแก่ลูกค้าที่เป็นบริษัทเกินอัตราส่วนที่กฎหมายกำหนด หรือให้กู้ยืมเงินโดยไม่มีหลักประกันที่เหมาะสม บริษัทประกันชีวิต หรือบริษัทประกันวินาศภัยไม่ทำตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดใน พ.ร.บ.ประกันชีวิต หรือ พ.ร.บ.ประกันวินาศภัย บริษัทจดทะเบียนกระทำความผิดตามมาตรฐานทางการบัญชี เป็นต้น

ข่าวล่าสุด

เปิดตัว Gemini 3 Flash โมเดล AI ราคาประหยัดแต่ฉลาดเกือบเท่าเดิม