โรงเรียนบ้านย่านตาขาว คว้าสหกรณ์โรงเรียนดีเด่น ภาคใต้
โดย...เมธี เมืองแก้ว
โดย...เมธี เมืองแก้ว
แม้แทบจะทุกๆ โรงเรียน จะมีการจัดตั้งสหกรณ์ขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกแห่งจะประสบความสำเร็จ เพราะการที่จะพัฒนาบุคลากรทุกระดับในสถานศึกษา ให้มีความรู้ ความสามารถ ในเรื่องนี้อย่างเชี่ยวชาญ อาจจะต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานหลายสิบปี แต่มาถึงวันนั้นแล้ว ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ต่างก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความภาคภูมิใจในสิ่งที่กระทำลงไป โดยเฉพาะในส่วนของเด็กๆ อนาคตสำคัญของชาติ
โรงเรียนบ้านย่านตาขาว ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนสุขารักษ์ ในเขตเทศบาลต.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตรัง เขต 1 ซึ่งเปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ถือเป็นสถานศึกษายอดเยี่ยมด้านสหกรณ์โรงเรียน โดยมีรางวัลดีเด่น ภาคใต้ ประจำปี 2552 จากกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นตัวการันตี
ย้อนหลังไปตั้งแต่เมื่อปี 2521 หรือ 32 ปีที่แล้ว ได้มีการจัดตั้งสหกรณ์โรงเรียนขึ้น ในอาคารเรียน 3 พร้อมระดมทุนจากครูและนักเรียน หุ้นละ 10 บาท ส่วนสินค้าทั้งประเภทอุปโภค-บริโภค เครื่องเขียน เสื้อผ้า จะจัดซื้อจากร้านค้าในตัวอำเภอย่านตาขาว จากสหกรณ์การเกษตรย่านตาขาว และจากพ่อแม่ผู้ปกครอง แล้วนำมาขายให้แก่ครู และนักเรียน ในราคาที่บวกกำไรเพียงเล็กน้อย แถมบางชิ้นยังถูกกว่าท้องตลาดทั่วไปด้วยซ้ำ
สำหรับคณะกรรมการสหกรณ์โรงเรียนบ้านย่านตาขาว ประกอบด้วย นายสนทยา ภักดีวานิช ผู้อำนวยการ เป็นผู้บริหาร นางประภา ธีระกุลพิสุทธิ์ เป็นผู้จัดการ ด.ญ.ภารดัย ธีระกุลพิสุทธิ์ นักเรียนชั้น ป.5 เป็นประธาน และ ด.ญ.สุชัญญา รองเดช นักเรียนชั้น ป.6 เป็นรองประธาน โดยมีคณะทำงานทั้งหมด 44 คน เป็นครู 14 คน และเป็นนักเรียน 30 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนระดับชั้น ป.5 และ ป.6
ทั้งนี้ ได้มีการแบ่งคณะกรรมการออกเป็น 9 ด้าน ได้แก่ 1.คณะกรรมการอำนวยการ 2.คณะกรรมการผู้รับผิดชอบกิจกรรม คือ กิจกรรมร้านค้า จัดหา-สั่งซื้อสินค้า สำรวจความต้องการของสมาชิก กิจกรรมออมทรัพย์ รับ-จัดทำบัญชีเงินฝาก ติดต่อธนาคาร กิจกรรมส่งเสริมผลผลิต ควบคุมการผลิตสินค้าที่สมาชิกนำมาจำหน่าย และกิจกรรมสวัสดิการ จัดทำบัญชีสินเชื่อ รับชำระเงินรายเดือน เพื่อบริการสมาชิก
3.คณะกรรมการตรวจรับสินค้า 4.คณะกรรมการฝ่ายทะเบียนสมาชิก 5.คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ 6.คณะกรรมการฝ่ายจัดทำบัญชีและควบคุม 7.คณะกรรมการฝ่ายตรวจสอบบัญชี 8.คณะกรรมการเก็บเงินประจำวัน และ 9.คณะกรรมการฝ่ายขายประจำวัน ซึ่งในทุกๆ ด้านจะให้มีนักเรียนเข้าไปเป็นกรรมการด้วย พร้อมทั้งได้ดำเนินงานสหกรณ์ภายใต้คำขวัญที่ว่า ซื้อสินค้าถูก คุณภาพดี มีเงินปันผล
จนกระทั่งเมื่อสหกรณ์โรงเรียนได้กำไรมามากพอสมควร ในปี 2544 จึงได้จัดสร้างห้องสหกรณ์ขึ้นอย่างเป็นทางการ เป็นเงิน 68,595 บาท และนำกำไรปรับปรุงห้องโสตทัศนศึกษาอาคาร ป.5 เป็นเงิน 16,394 บาท นอกจากนั้น ในช่วงตั้งแต่ปี 2545-2550 ทางสหกรณ์ยังให้ทุนการศึกษา แก่นักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ปีละ 3,000 บาท และในช่วงตั้งแต่ปี 2550-2553 ได้ให้ทุนการศึกษาเพิ่มขึ้น เป็นปีละ 7,000 บาท
ในปี 2547 ทางสหกรณ์ยังได้นำกำไรไปต่อเติมกันสาดอาคารอเนกประสงค์ เป็นเงิน 48,000 บาท ซ่อมกันสาดระหว่างห้องเรียนไปยังโรงอาหาร เป็นเงิน 58,540 บาท พร้อมทั้งบริจาคเพื่อปรับปรุงหลังคาโรงรถหลังเก่า-โครงสร้างหลังคาห้องสมุด เป็นเงิน 80,721 บาท และซื้อโต๊ะ-เก้าอี้ เป็นเงิน 33,000 บาท ขณะเดียวกัน ก็ยังจัดสร้างสหกรณ์หลังใหม่ขึ้น เป็นเงิน 540,755 บาท
ต่อมาในปี 2551 ทางสหกรณ์ได้บริจาคเพื่อสร้างห้องสมุดหลังใหม่ เป็นเงิน 696,918 บาท พร้อมทั้งต่อเติมสหกรณ์เพิ่มอีก 1 ห้อง เป็นเงิน 170,392 บาท ส่วนในปี 2553 ได้บริจาคทำห้องน้ำ-ห้องส้วม โรงเรียน เป็นเงิน 15,000 บาท ซึ่งยังไม่นับกิจกรรมอื่นอีกมากมายหลายรายการ ที่นำผลกำไรของทางสหกรณ์ไปพัฒนา ปรับปรุง และก่อสร้างสิ่งต่างๆ ภายในโรงเรียน อันเกิดมาจากการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพนั่นเอง
นางประภา ผู้จัดการสหกรณ์โรงเรียนบ้านย่านตาขาว เล่าว่า หลักการสหกรณ์แห่งนี้มี 6 ประการ คือ 1.เป็นสมาชิกด้วยความสมัครใจ 2.มีสิทธิออกเสียงได้คนละ 1 เสียง โดยจะไม่นับจำนวนหุ้นที่ถือ 3.จำกัดเงินปันผลตามหุ้นใหม่เกินร้อยละ 10 4.รายได้สุทธิต้องกันไว้ 4 ส่วน คือ กันไว้พัฒนาสหกรณ์ กันไว้เป็นทุนการศึกษาสมาชิก กันไว้เฉลี่ยคืนสำหรับสมาชิก และกันไว้เป็นทุนพัฒนาโรงเรียน 5.ส่งเสริมการศึกษาและให้ความรู้เรื่องสหกรณ์แก่สมาชิก และ 6.ร่วมมือกับสหกรณ์อื่น
จุดเด่นที่สำคัญของสหกรณ์โรงเรียนแห่งนี้ก็คือ การปล่อยให้เด็กๆ ซึ่งส่วนใหญ่ หรือประมาณ 95 % จะเป็นผู้หญิง ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการมากที่สุด ขณะที่ครูจะทำหน้าที่เป็นเพียงแค่พี่เลี้ยงเท่านั้น ซึ่งปรากฎว่าเป็นวิธีการที่ได้ผลดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะนักเรียนเกิดการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง พร้อมกับการพยายามปลูกฝังเรื่องความซื่อสัตย์ลงไปยังเด็กๆ เพราะเป็นกลไกที่ทำให้สหกรณ์เข้มแข็งและอยู่ได้มาถึงทุกวันนี้
ขณะเดียวกัน ทางโรงเรียนยังมีการจัดการเรียนการสอนเรื่องสหกรณ์โดยเฉพาะ เริ่มตั้งแต่การทำแผนกลยุทธ การทำหลักสูตรบูรณาการกับวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม การประชุมชี้แจงการจัดการเรียนการสอนของครูระดับชั้น ป.4-6 การให้นักเรียนได้ปฏิบัติงานจริง และการประเมินการปฏิบัติงานจริง จนเรียกได้ว่าเป็นสถานศึกษาแห่งเดียวของจังหวัดตรัง ที่มีการเรียนรู้เรื่องวิชาสหกรณ์อย่างจริงๆ จัง
ปัจจุบันสหกรณ์ มีรายรับประมาณวันละ 1 หมื่นกว่าบาท และมีกำไรสะสมแล้วประมาณ 3 แสนบาท ส่วนในปี 2554 ทางสหกรณ์มีแนวคิดที่จะปรับปรุงในอีกหลายด้าน เช่น การจัดสร้างชั้นวางของเพิ่มขึ้น การติดตั้งเครื่องปรับอากาศ และซื้อตู้แช่เพิ่มขึ้น
ด.ญ.ภารดัย ธีระกุลพิสุทธิ์ ประธานสหกรณ์โรงเรียนบ้านย่านตาขาว บอกว่า ขณะนี้ทางสหกรณ์มีสมาชิกทั้งหมดกว่า 400 คน รวม 4 หมื่นหุ้น โดยครูจะซื้อได้ไม่เกินคนละ 2 พันหุ้น ส่วนนักเรียนจะซื้อได้ไม่เกินคนละ 5 ร้อยหุ้น ซึ่งนอกเหนือไปจากการขายสินค้าในราคาถูกแล้ว ทางสหกรณ์ยังมีระบบเงินกู้ และระบบสวัสดิการด้วย โดยสมาชิกที่ลงหุ้นครบ 2 หมื่นบาท จะมีสิทธิกู้เงินได้ 6 หมื่นบาท แต่ต้องมีผู้ค้ำประกันด้วย
นอกจากนี้ คณะทำงานที่เป็นนักเรียนทุกตำแหน่ง จะได้ค่าตอบแทนเท่ากันทั้งหมด คือ คนละ 300-400 บาท/ปี ซึ่งแม้จะเป็นเงินในจำนวนที่ไม่มาก แต่เด็กๆ ต่างก็มีความภาคภูมิใจ โดยเฉพาะการเรียนรู้ในเรื่องของประสบการณ์ อันสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน และท้ายสุดผลจากความเสียสละของบุคคลากรทุกคนในสถานศึกษา ก็ทำให้สหกรณ์โรงเรียนเติบโต และมีชื่อเสียงในระดับประเทศ
ด.ญ.สุชัญญา รองเดช รองประธานสหกรณ์โรงเรียน บอกว่า การเข้าร่วมกิจกรรมสหกรณ์นั้น สอนให้ตนมีความรู้ และการทำงาน เช่น การทำบัญชี สอนให้รู้เรื่องรายรับรายจ่าย หรือการค้าขาย สอนให้รู้เรื่องการทอน และการสั่งของ แม้ในช่วงแรกที่เข้ามาเป็นคณะกรรมการ จะรู้สึกว่าการทำงานนั้นยาก แต่พอนานๆ เข้าก็เกิดความรักและความสนุก พร้อมทั้งรู้สึกดีใจที่สหกรณ์โรงเรียนได้เป็นตัวแทนเข้าประกวดในระดับประเทศ แม้จะไม่ได้รับรางวัลชนะเลิศมาก็ตาม
ถือเป็นอีกหนึ่งในกลุ่มเยาวชนคนเก่งที่น่ายกย่อง


