posttoday

โกวิทมึนข่าวทาบนั่งหน.เพือไทย

09 กันยายน 2553

โกวิทยังไม่รู้เรื่องข่าวทาบนั่งหัวหน้าเพื่อไทยด้านส.ส.ในพรรคไม่ขัดข้องลบภาพลักษณ์ไม่จงรักภักดีล้มข้อหาขบวนการล้มเจ้า

โกวิทยังไม่รู้เรื่องข่าวทาบนั่งหัวหน้าเพื่อไทยด้านส.ส.ในพรรคไม่ขัดข้องลบภาพลักษณ์ไม่จงรักภักดีล้มข้อหาขบวนการล้มเจ้า

พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบข่าวนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยอาจลาออก และทาบทามตนเองเข้ามานั่งในตำแหน่งหัวหน้าพรรคแทน เพราะยังไม่เปิดอ่านหนังสือพิมพ์

เมื่อถามย้ำว่ามีการทาบทามเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ พล.ต.อ.โกวิท ยืนยันว่า ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ทำการพรรคเพื่อไทย สื่อมวลชนได้ติดตามหาข่าว การประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยนัดพิเศษ หลังมีรายงานว่า นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค ตัดสินใจลาออก เพื่อเปิดโอกาสให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีตรองนายกฯในรัฐบาลสมัคร เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่

ว่าที่ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เพิ่งทราบข่าวเช่นกันว่าจะมีการปรับเปลี่ยนหัวหน้าพรรคเพื่อไทย หากเป็นพล.ต.อ.โกวิท จริง ส.ส.เพื่อไทยก็รับได้ เพราะท่านเคยเป็นอดีตผบ.ตร. รมว.มหาดไทย ถือว่ามีภาพลักษณ์ดี น่าจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนต่อบรรยากาศความปรองดองได้เป็นอย่างดี

ก่อนหน้านี้ มีรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ปรับยุทธวิธีการต่อสู้ใหม่เพื่อแก้ข้อกล่าวหาพรรคเพื่อไทยเกี่ยวข้องกับ ขบวนการล้มสถาบันซึ่งเป็นจุดอ่อนของพรรคมาต่อเนื่อง  โดยจะให้ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ลาออกจากหัวหน้าพรรคภายใน1-2 วันนี้  และให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคแทน  ตามขั้นตอนเมื่อนายยงยุทธ ลาออกจากหัวหน้าพรรค พรรคจะประชุมใหญ่วิสามัญซึ่งจะจัดให้มีขึ้นในวันอังคารที่ 14 ก.ย.เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่

พล.ต.อ.โกวิท เกิดเมื่อปี 2490 ปัจจุบันอายุ 63 ปี เป็นชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าโรงเรียนเตรียม ทหาร รุ่นที่ 6 ต่อโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 22 ได้ชื่อว่าเป็นนายตำรวจที่ตรงไปตรงมาที่สุดคนหนึ่ง และจงรักภักดีต่อสถาบัน ชีวิตราชการส่วนใหญ่สังกัดตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) จึงรับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท จึงเป็นเหตุผลให้ถูกเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ท่ามกลางมรสุมหลายลูกที่กระแทกใส่พ.ต.ท.ทักษิณ พรรคเพื่อไทย และ แกนนำเสื้อแดงบางส่วนว่า เกี่ยวพันกับขบวนการล้มเจ้า และกรณีก่อการร้ายใช้ความรุนแรงในเหตุการณ์ชุมนุมพฤษภา 2553

พล.ต.อ.โกวิท ก้าวขึ้นเป็นผบ.ตร.เมื่อปี 2547 ในยุคสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี กระทั่งเกิดการรัฐประหาร เมื่อปี 2549  พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีขณะนั้นได้สั่งย้าย พล.ต.อ.โกวิท มาช่วยราชการที่สำนักนายกฯ เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2550 ด้วยข้อหาว่าไม่สามารถคลี่คลายคดีระเบิดกรุงเทพฯ เมื่อวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยให้ไปนั่งเป็นปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ระดับ 11  พร้อมกับ แต่งตั้ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาราชการแทน 

อย่างไรก็ตาม เมื่อนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี  พล.ต.อ.โกวิท  ได้รับแต่งตั้งให้เป็น รองนายกรัฐมนตรีควบ รมว.มหาดไทย  ก่อนจะพ้นจากตำแหน่งพร้อมกับนายสมัคร

พล.ต.อ.โกวิท เคยตอบกระทู้ฝ่ายค้านในสภาถึงการแก้ปัญหาม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตย บุกยึดทำเนียบรัฐบาล โดยได้พูดวลีเด็ดออกมาว่า  "ทุกคนก็ทราบดีว่าม็อบนี้เป็นม็อบมีเส้น หากเป็นม็อบธรรมดาเรื่องจบไม่นานแล้ว"  กลายเป็นวาทะแห่งปีที่สื่อมวลชนประจำรัฐสภามอบให้

การปรับยุทธวิธีของพ.ต.ท.ทักษิณ ครั้งนี้ต้องจับตาว่า จะช่วยแก้ภาพพรรคเพื่อไทยได้มากน้อยแค่ไหน เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินหมากลักษณะนี้ กรณีการแต่งตั้งนายสมัครเป็นหัวหน้าพรรคเป็นอีกครั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ดึงมาช่วยแก้ภาพตนเอง และพรรคพลังประชาชนรวมถึงฝ่ายซ้ายเก่าและซ้ายใหม่ใน ขบวนการเสื้อแดงที่ถูกกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดี และออกมาเคลื่อนไหว ปราศรัยโจมตีสถาบันที่สนามหลวงและในเว๊บไซด์ต่างๆ   ซึ่งปัจจุบัน พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงยืนยันถึงความจงรักภักดีต่อสถาบัน กระทั่งระบุในทวิตเตอร์ในแถลงการณ์เข้าร่วมการปรองดองล่าสุดว่า

"ผมเงียบก็จริง แต่ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดด้วยความห่วงใย  สิ่งที่ร้ายขณะนี้ คือ การวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ที่เคารพยิ่งของเรา ผมขอกราบงามๆ ทุกฝ่ายโดยเฉพาะผู้ที่บอกว่ารักผม และสนับสนุนผม ท่านจะต้องเข้าใจว่าตลอดชีวิตผมและครอบครัวมีแต่ความจงรักภักดีต่อสถาบัน ผมได้รับสมรสพระราชทาน ผมจบสามพราน สมเด็จฯพระราชทานคุณหญิงให้คุณหญิงอ้อ คุณพ่อคุณหญิงอ้อเป็นตำรวจราชองครักษ์ ดังนั้น ผมจึงขอให้ผู้ที่เป็นแนวร่วมในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริง และเพื่อความยุติธรรมของบ้านเมืองได้ร่วมสนับสนุนให้เกิดความปรองดองอย่าง แท้จริงในบ้านเมือง เพื่อให้เกิดการหยุดเผาบ้านเพื่อจับหนูตัวเดียวทั้งๆ ที่หนูก็ไม่ได้อยู่ในบ้านด้วย" พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุ

 

 

ข่าวล่าสุด

HAAB (หาบ) มัดรวม 9 รสชาติที่สุดแห่งปี ที่ชาวโซเชียลไม่อยากมูฟออน