posttoday

ดงพญาเย็น-เขาใหญ่ 2560

09 เมษายน 2560

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2548 องค์การยูเนสโกประกาศให้ป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่เป็นมรดกโลก

โดย...อินทรชัย พาณิชกุล ภาพ มูลนิธิ Pantera/FREELAND

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2548 องค์การยูเนสโกประกาศให้ป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่เป็นมรดกโลก

ผืนป่าแห่งนี้ถูกเรียกว่า ผืนป่าตะวันออก กินพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จ.นครราชสีมา สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว และบุรีรัมย์ รวมทั้งสิ้น 6,155 ตารางกิโลเมตร เต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์กว่า 800 ชนิด พืชพันธุ์กว่า 1.5 หมื่นชนิด

ที่ผ่านมา ภัยคุกคามมรดกโลกแห่งนี้ คือ ข่าวการสร้างถนนสาย 304 โครงการสร้างเขื่อนห้วยโสมงและอ่างเก็บน้ำห้วยสะโตน (ถูกระงับไปแล้ว) อันจะส่งผลกระทบต่อสัตว์ป่าหายาก เช่น จระเข้น้ำจืด วัวแดง โดยเฉพาะปัญหาลักลอบตัดไม้พะยูง ทำให้ตกอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงว่าเป็นมรดกโลกที่อยู่ในภาวะอันตราย ทว่ารัฐบาลไทยก็เร่งปรับปรุงแก้ไขมาตลอด

ล่าสุด เดือน มี.ค. 2560 พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ออกมายืนยันว่า รัฐบาลได้พยายามปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการพิจารณามรดกโลกมาอย่างจริงจัง ขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเรื่องการลักลอบตัดไม้พะยูง คาดว่าเดือน มิ.ย.นี้จะรู้ผลว่าจะพ้นบัญชีมรดกโลกที่อยู่ในภาวะอันตรายหรือไม่

ท่ามกลางความวิตกกังวลของทุกฝ่าย ปรากฏข่าวน่ายินดีเมื่อเร็วๆ นี้ หลังจาก ดร.ทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมผู้แทนจากองค์กรพันธมิตร ได้แก่ มูลนิธิฟรีแลนด์ มูลนิธิแพนธีร่า เปิดเผยว่า พบเสือโคร่ง 18 ตัว อาศัยอยู่ในผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่

การสำรวจครั้งนี้ใช้กล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่าจำนวน 158 ตัว ติดตั้งในจุดที่เป็นถิ่นอาศัยและแหล่งอาหาร พบว่า ช่วงเดือน มิ.ย. 2559-ก.พ. 2560 สามารถบันทึกภาพเสือโคร่งได้ 18 ตัว แบ่งเป็นเพศผู้ 5 ตัว เพศเมีย 7 ตัว ลูกเสือโคร่ง 6 ตัว สะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศในพื้นที่มรดกโลกกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ นอกจากนี้การลาดตระเวนป้องกันรักษาพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เสือโคร่งสามารถดำรงชีวิตและมีการขยายพันธุ์ตามธรรมชาติได้ในรอบ 15 ปีของไทย

อย่างไรก็ตาม ทีมนักวิจัยจำเป็นต้องปกปิดถิ่นที่อยู่ที่ชัดเจนของเสือโคร่งกลุ่มนี้ไว้เป็นความลับ เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากขบวนการล่าสัตว์ ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อความอยู่รอดของเสือโคร่ง

แม้จะเป็นเรื่องดีๆ ให้พอชื่นอกชื่นใจ เหมือนหยาดฝนที่ตกลงมากลางฤดูร้อน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า สถานการณ์ป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ จะพ้นวิกฤต รัฐบาลไทยยังต้องทำงานหนักต่อไป สื่อมวลชนเฝ้าเกาะติด สังคมร่วมจับตามอง ช่วยกันเป็นหูเป็นตา เป็นปากเป็นเสียง เพื่อให้มรดกโลกผืนนี้ของไทยเราได้คงอยู่อย่างแท้จริง

ข่าวล่าสุด

สวนดุสิตโพล เปิด 5 อันดับ “นักการเมือง” ประชาชนเชียร์นั่งนายกฯ