posttoday

รปภ.หลับยาม อาจตายไม่รู้ตัว

06 กันยายน 2553

รปภ.ก็มีสิทธิตกเป็นเหยื่อของอาชญากรต่อเนื่อง ที่ตระเวนตีหัวเอาทรัพย์สินได้เหมือนกัน เพียงเพราะ “ยาม” อย่างพวกเขาเผลอนั่งหลับ....

รปภ.ก็มีสิทธิตกเป็นเหยื่อของอาชญากรต่อเนื่อง ที่ตระเวนตีหัวเอาทรัพย์สินได้เหมือนกัน เพียงเพราะ “ยาม” อย่างพวกเขาเผลอนั่งหลับ....

โดย...วัลยศ งามขำ

อาชีพรักษาความปลอดภัย หรือ รปภ.ก็มีสิทธิตกเป็นเหยื่อของอาชญากรต่อเนื่อง ที่ตระเวนตีหัวเอาทรัพย์สินได้เหมือนกัน เพียงเพราะ “ยาม” อย่างพวกเขาเผลอนั่งหลับกลางแสงจันทร์นั่นเอง

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตำรวจกองปราบปรามเพิ่งไปจับ ไอ้โจ๊ก เอี่ยมสุวรรณ ชาว จ.กาญจนบุรี วัย 30 ปี ริทำตัวเป็นอาชญากรขั้นพิเศษ ที่เรียกได้ว่าเป็น “อาชญากรต่อเนื่อง”

ก่อเหตุตีหัว รปภ. ที่นั่งหลับยามค่ำคืน เพื่อเอาทรัพย์สิน ที่น่าตกใจคือ มันเคยก่อคดีลักษณะนี้มาแล้วกว่า 20 คดี และที่น่ากลัวกว่านั้น มียามที่ตกเป็นเหยื่อถูกตีหัวตายอนาถถึง 2 คน

รปภ.หลายพื้นที่ต่างขวัญผวามานานหลายเดือนว่าจะตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรายนี้หรือไม่ ในที่สุดมันก็ถูกจับเมื่อตำรวจนครบาลจับมือกับตำรวจกองปราบปรามตามล่าตัวมาได้

ทันทีที่สำนวนถึงมือ พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผู้กำกับการ 1 กองปราบปราม (ผกก.1 บก.ป.) ก็เริ่มศึกษาข้อมูลทันที ขณะเดียวกันก็สั่งให้ทีมสืบสวนที่นำโดย พ.ต.ท.ณัฐกร ประภายนต์ รอง ผกก.1 บก.ป. หาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อตามดมกลิ่น ไม่นานนักข้อมูลจำนวนมากก็เข้ามาที่ผู้กำกับการ พ.ต.อ.พรศักดิ์

รปภ.หลับยาม อาจตายไม่รู้ตัว ภาพประกอบข่าว

จากข้อมูลพบว่า ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเกิดเหตุคนร้ายใช้ไม้ทุบหัว รปภ. ที่นอนหลับยามในหลายพื้นที่ของนครบาลก่อนฉกเอาทรัพย์สินทั้งเงินสดและโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายไปหลายราย

เมื่อเช็กสถิติการเกิดเหตุในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงอย่างละเอียด พบว่ามี รปภ. ถูกทำร้ายมาแล้วหลายครั้งตั้งแต่ปี 2547 จนถึงเดือน ส.ค.ปีนี้ มีคดีเกิดขึ้นรวม 13 คดี แต่คาดว่าคนร้ายน่าจะเคยก่อคดีมากกว่า 20 คดี แต่ผู้เสียหายไม่ได้แจ้งความ ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 2 คน คือ ใหญ่ ชาวพม่า และ องอาจ ด้วงรักษา รปภ.หมู่บ้านคาซ่าซิตี้ ย่านลาดพร้าว

ตำรวจดูหลักฐานแล้ววิเคราะห์จากพฤติกรรมหลายอย่าง จนเคาะโต๊ะสรุปไว้ว่า “คนร้ายน่าจะเป็นคนเดียวกัน” เนื่องมาจากคนร้ายจะเลือกเหยื่อเป็น รปภ. และเลือกลงมือช่วงเช้ามืด การก่อเหตุจะใช้ท่อนไม้เป็นอาวุธ ใช้จักรยานเป็นพาหนะ

กระทั่งต้นเดือน ส.ค. การสืบสวนจึงเริ่มขึ้น พ.ต.ท.ณัฐกร เรียกนักสืบรุ่นใหม่ แต่เครื่องกำลังร้อน อย่าง ร.ต.อ.กริช วรทัต รองสารวัตรกองกำกับการ 1 มาร่วมทีม งานแรกคือต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเป็นคนร้ายคนเดียวกันหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ระหว่างสืบสวนก็ต้องพบกับข้อมูลที่น่าตกใจนั่นคือ เคยเกิดคดีลักษณะอย่างนี้มาแล้วเมื่อปี 2550 ในเขตพื้นที่เดียวกันด้วย ครั้งนั้นตำรวจได้จับกุมตัว วิทยา ใจขาน หรือ ไอ้หอย หนุ่มหนองคาย วัย 33 ปี รปภ.ของบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ก่อเหตุฆ่าเพื่อน รปภ.เสียชีวิตถึง 7 คน และบาดเจ็บสาหัสอีก 15 คน โดย “ไอ้หอย” สารภาพเพียงว่า “ไม่ชอบเห็นยามหลับ” แต่ก็ต้องตัดประเด็นไอ้หอยทิ้งไป เพราะมันถูกศาลสั่งจำคุก 20 กว่าปี และตอนนี้มันยังอยู่ในคุก

จนกระทั่งราวกลางเดือน ส.ค. เบาะแสชิ้นแรกก็ปรากฏ ตำรวจได้วิดีโอเทปจากกล้องวงจรปิด 3 แห่ง เป็นกล้องที่อาคารมาดามเพลส ท้องที่ สน.โคกคราม กล้องที่อาคารโชคชัยทองทุนทรัพย์ ท้องที่ สน.โชคชัย และกล้องที่เต็นท์ขายรถมือสองแห่งหนึ่งในท้องที่ สน.โชคชัย

ทั้ง 3 กล้องบอกได้ชัดเจนว่าคนร้ายเป็นคนเดียวกัน ใช้ไม้เป็นอาวุธ และใช้จักรยานสีแดงเก่าๆ คันหนึ่งเป็นพาหนะ เมื่อข้อมูลตรงกันเช่นนี้ก็ตอบได้เกือบ 100% แล้วว่า คนร้ายเป็นคนเดียวกันอย่างแน่นอน เมื่อเป็นเช่นนั้น รองฯ พ.ต.ท.ณัฐกร และผู้กอง ร.ต.อ.กริช จึงแกะรอยทรัพย์สินของผู้เสียหาย คือโทรศัพท์มือถือในตลาดปัฐวิกรณ์

ตำรวจได้เอารูปที่ได้จากวงจรปิดให้ร้านขายโทรศัพท์มือถือดูเพียงไม่กี่เจ้า เจ้าของร้านแห่งหนึ่งก็ตะโกนลอยลมมาเลยว่า “กำลังตามหาไอ้โจ๊ก อยู่เหรอครับคุณตำรวจ” ก่อนที่ข้อมูลต่างๆ จะถูกปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับบอกว่า ไอ้โจ๊ก มักนำโทรศัพท์มือถือที่ได้มาขายที่ย่านนี้เป็นประจำ

ถึงตอนนี้สองตำรวจนักสืบก็รู้แล้วว่าคนร้ายรายนี้คือ ไอ้โจ๊ก พักอาศัยอยู่ในซอยนวมินทร์ 54 วันถัดมา วันที่ 27 ส.ค. สายสืบทั้งคู่พร้อมด้วยกำลังตำรวจนอกเครื่องแบบจำนวนหนึ่ง จึงวางกำลังเข้าจับกุม และก็ไม่พลาด ไอ้โจ๊ก ปรากฏกายขึ้นในวันที่ 29 ส.ค. พร้อมด้วยหลักฐานชิ้นสำคัญ “จักรยานสีแดง” พาหนะคู่ชีพที่ใช้ก่อเหตุ ก่อนที่จะลากตัวมาสอบสวนที่กองปราบปรามกระทั่งมันเปิดปากรับสารภาพ

“แทบไม่น่าเชื่อว่ามันจะลงมือด้วยรถจักรยานเก่าๆ แต่มันก็ทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 คดี ที่น่าตกใจคือ มันบอกว่าเวลาขี่จักรยานไปลงมือไม่เคยพกไม้ไปด้วย เพราะจะดูมีพิรุธ เนื่องจากต้องไปดูให้ชัดก่อนว่ายามคนนั้นหลับจริงหรือไม่ แล้วจะไปหาไม้เอาแถวๆ นั้น ถ้าเจอไม้เบาก็ไม่ตาย แต่หากเจอไม้หนักก็อาจจะตายอย่าง 2-3 คนที่เป็นเหยื่อ” ผู้กองกริช เล่าถึงสิ่งที่ได้พูดคุยกับมัน

ส่วนสาเหตุที่ต้องลงมือมันรับสารภาพเพียงว่า เป็นคนขายไม้กวาดแต่ไม่พอกิน จึงคิดลงมือชิงทรัพย์ แต่ไม่คิดใช้วิธีการวิ่งราวเพราะกลัวเหนื่อย และที่เลือกทำร้าย รปภ.ที่หลับยามเพราะกลัวผู้เสียหายจะต่อสู้ โดยไม่คิดจะตีให้ถึงตายเพียงแค่ต้องการทรัพย์สินเงินสด หรือโทรศัพท์มือถือเอาไปขายเท่านั้น

เหตุสยองครั้งนี้จึงเป็นอุทาหรณ์ให้ รปภ.ทั้งหลายว่า คราวหน้า คราวหลัง “อย่าหลับยาม...!”

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด เบรนท์ฟอร์ด พบ ลีดส์ ยูไนเต็ด พรีเมียร์ลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68