หมอกควันแดนมังกร
ตั้งแต่เข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการในจีน เมื่อช่วงปลายเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว จนกระทั่งถึงเดือน ก.พ. ของศักราชใหม่
โดย...เจ้าของเพจอ้ายจง และนักศึกษาปริญญาเอก สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยซีเตียนซีอาน
ตั้งแต่เข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการในจีน เมื่อช่วงปลายเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว จนกระทั่งถึงเดือน ก.พ. ของศักราชใหม่ ที่ตอนนี้ทางใต้ของจีนเริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้บานสะพรั่งกันแล้ว
แต่ทางตอนเหนือยังคงประสบกับปัญหาหมอกควัน ที่มักจะเกิดขึ้นตลอดในช่วงฤดูหนาว จนเริ่มมีเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ จากคนจีนในโลกโซเชียลออนไลน์ว่า ทำไมรัฐบาลถึงยังแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้เสียที รวมถึงทั่วโลกก็จับตามองปัญหานี้อยู่
สงสัยกันไหมครับว่า ปัญหาหมอกควันในจีนเกิดจากอะไร? วันนี้ “อ้ายจง” จะมาเล่าให้เข้าใจกันแบบง่ายๆ
ประเทศจีนในฤดูหนาวจะมีอุณหภูมิต่ำ อากาศหนาวเย็นมาก หลายพื้นที่อุณหภูมิติดลบ บางแห่งลบ 43 องศาเซลเซียส ซึ่งถือเป็นสถิติของจีนเลย ดังนั้นคนจีนโดยเฉพาะในเมืองจีนทางตอนเหนือ จึงต้องการ “ฮีตเตอร์” หรือระบบทำความร้อน ซึ่งทางการจีนจะปล่อยความร้อนผ่านทางระบบทำความร้อนสาธารณะไปยังเครื่องทำความร้อนที่ติดตั้งตามอาคารบ้านเรือนต่างๆ ซึ่งปล่อยออกมาเป็นน้ำร้อนผ่านทางท่อ คล้ายท่อประปาครับ
สำหรับเมืองไหน หรือบ้านเรือนไหน ไม่มีระบบทำความร้อนสาธารณะ และทนหนาวไม่ไหวก็ต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ามาปล่อยความร้อนเอาเองแทน เช่น ฮีตเตอร์แบบใช้พลังงานไฟฟ้า การเปิดเครื่องปรับอากาศแบบโหมดทำความร้อน ทำให้ในช่วงฤดูหนาวมีการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นของปัญหาหมอกควัน เพราะเบื้องหลังของพลังงานไฟฟ้าและพลังงานความร้อนในจีนล้วนมาจากถ่านหิน ซึ่งจีนเป็นประเทศที่มีการใช้ถ่านหินมากที่สุดในโลก แม้จะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่มีแผนปรับลดใช้ถ่านหิน แต่สุดท้ายก็กลับมาใช้ในปริมาณมากอยู่ดี เพราะในอุตสาหกรรมต่างๆ ก็ยังต้องพึ่งพาถ่านหินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
บางคนอาจสงสัยว่า ทำไมจีนไม่ใช้พลังงานถ่านหินสะอาดแบบที่มีการรณรงค์ในประเทศไทย คำตอบคือ จีนเองก็มีการเปิดโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินสะอาดอยู่หลายแห่ง แต่พลังการผลิตก็ยังไม่เพียงพอ แม้จีนจะเคยพยายามสั่งปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินแบบเก่าหลายแห่งทั่วประเทศ แต่สุดท้ายก็ยังคงมีการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาดเล็กขึ้นมาใหม่ในหลายเมือง เพราะมิเช่นนั้น พลังงานไฟฟ้าก็ไม่เพียงพอกับความต้องการของพื้นที่ต่างๆ (โรงไฟฟ้าถ่านหินแบบเก่าสามารถทำได้ง่ายกว่าแบบอื่น)
อีกประเด็นคือ พลังงานถ่านหินสะอาดก็ยังคงเป็นที่กังขาในจีน ในหมู่นักวิชาการ นักสิ่งแวดล้อมทั้งหลายว่า “ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมจริงหรือไม่? สะอาดจริงหรือ?”
ทั้งนี้ เคยมีการถกเถียงกันว่า ทำไมจีนไม่ใช้พลังงานอื่นทดแทนถ่านหิน ความจริงแล้วจีนก็พยายามจะใช้พลังงานอื่นทดแทน เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในอนาคต เช่น ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำ โดยสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ แต่ก็มีการถกเถียงกันต่ออีกว่า “ถ้าสร้างเขื่อนจำนวนมากในจีนระบบนิเวศจะเสีย และอาจทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้ ถึงขนาดที่นักวิชาการจีนบางคนบอกว่า ระหว่างอากาศแย่กับแผ่นดินไหว จะเลือกอะไรล่ะพี่น้องชาวจีนทั้งหลาย”
สำหรับ “โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์” ก็มีการสร้างและใช้งานในจีน แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยจีนมีแผนที่จะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จำนวน 40 แห่ง ภายในปี 2020 โดยในปัจจุบันใช้งานแล้ว 30 แห่ง กำลังสร้างอีก 22 แห่ง
ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา จีนจึงยังคงมีการใช้ถ่านหินเป็นหลักสำหรับการผลิตกระแสไฟฟ้าและความร้อนจนถึงปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ปัญหานี้จึงยังคงตามเมืองจีน เหมือนเงาตามตัวในทุกฤดูหนาว
นอกจากการใช้ถ่านหินเพื่อทำไฟฟ้าและฮีตเตอร์ รวมถึงในอุตสาหกรรมต่างๆ ของจีน “การใช้รถใช้ถนน” ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ก่อให้เกิดควันในเมืองต่างๆ ของจีน ถึงขนาดที่ทางการจีนต้องใช้ “นโยบายทะเบียนคู่ทะเบียนคี่” เพื่อจำกัดปริมาณการใช้รถใช้ถนนในช่วงที่มีปัญหาหมอกควันเช่นกัน
ถ้าสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับจีนหรือสงสัยอยากถาม “อ้ายจง” พูดคุยกันได้ที่ (https://www.facebook.com/aizhongchina)


