นิติเวชเร่งตรวจดีเอ็นเอเหยื่อรถตู้ชนกระบะเพื่อส่งมอบศพให้ญาติ

นิติเวชตำรวจเร่งตรวจดีเอ็นเอเพื่อระบุตัวบุคคลของศพเหยื่ออุบัติเหตุรถตู้ชนกระบะเพื่อส่งมอบให้ญาติ หลังไฟไหม้ไม่สามารถระบุบุคคลได้

จากกรณี เกิดอุบัติเหตุรถตู้โดยสาร สายกรุงเทพ-จันทบุรี พุ่งข้ามเลนและชนประสานงากับรถกระบะ อีซูซุดีที่ อ.บ้านบึง ชลบุรี ก่อนเกิดไฟลุกท่วมทั้ง 2 คัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 25 ศพเหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ม.ค. เวลา 09.00 น. ที่ สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ได้มีญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางมายื่นเอกสารหลักฐานพร้อมระบุเอกลักษณ์เพื่อรอรับศพ ท่ามกลางความโศกเศร้า

ด้านพล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า ได้รับศพมาทั้งหมด 25 ราย แบ่งเป็น ชาย 8 ราย ผู้หญิง 13 ราย เด็กชาย 1 ราย เด็กหญิง 1 ราย ส่วนอีก 2 รายยังไม่ทราบเพศ ทั้งหมดอยู่ในสภาพถูกไฟไหม้ยากต่อการชันสูตรพลิกศพ ซึ่งทางญาติก็ไม่สามารถจำใบหน้าได้ เพราะสภาพศพดูไม่ออก จึงเตรียมที่ให้ญาติมายื่นเอกสารพร้อมระบุตำหนิรูปพรรณของแต่ละบุคคลที่หายไป และต้องขอตรวจดีเอ็นเอทั้งศพและของญาติให้ตรงกันอีกด้วย

โดยเช้านี้จะเริ่มด้วยการตรวจพลิกศพอย่างละเอียด เพื่อหาตำหนิรูปพรรณต่างๆ แล้วจะนำมาเทียบกับเอกสารที่ญาติได้ยื่นพร้อมระบุไว้ เช่นรอยสัก รอยแผลเป็น หรือสิ่งที่ญาติสงสัยว่าจะเป็นผู้เสียชีวิตรายนั้นๆ คาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 1 วัน

อย่างไรก็ตามสถาบันนิติเวช เข้าใจความรู้สึกญาติผู้เสียชีวิตที่ต้องการนำร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา แต่เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง ยืนยันจะเร่งตรวจสอบให้เร็วที่สุด

ทั้งนี้อยากให้ทางญาติที่คาดว่าศพจากเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเป็นญาติพี่น้อง หรือคนรู้จักให้รีบมาติดต่อเพื่อจะได้ช่วยตรวจสอบต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีกลุ่มนักศึกษาที่เรียนคณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 16 คน เดินทางมารับศพ นายพรหมพต หรือกัน กอศิริวรานนท์ อายุ 20 ปี ชาวจ.จันทบุรี นิสิตคณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดย น.ส.ศุภรดา ประคองสาย อายุ 20 ปี หนึ่งในเพื่อนเปิดเผยว่า อุปนิสัยของ กัน เป็นคนตลกเฮฮา เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนในคณะ หากทางคณะมีกิจกรรมก็จะเข้าร่วมเป็นอย่างดีและเป็นคนสร้างสีสัน โดยก่อนหน้านี้กันได้กลับบ้านจ.จันทบุรี เพื่อไปเยี่ยมครอบครัวในเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ แต่ทางคณะแพทย์ฯไม่ได้หยุดการเรียนและยังมีการสอบด้วย กันจึงได้เดินทางกลับในวันที่ 2 ม.ค.เพื่อมาเตรียมตัวสอบในสัปดาห์นี้ โดยช่วงระยะเวลาที่เกิดเหตุตนได้เปิดเข้าไปในเฟซบุ๊กพบว่ามีข่าวรถตู้จันทบุรีมากรุงเทพฯ ชนกับรถกระบะมีผู้เสียชีวิตหลายราย จึงเกิดความสงสัยและเป็นห่วง จากนั้นเพื่อนๆได้ช่วยกันพยายามติดต่อทางเฟซบุ๊ก ไลน์ และโทรศัพท์ ไปหากัน แต่ไม่สามารถติดต่อกันได้ จากนั้นได้รับทราบว่าทางญาติของกันเดินทางไปดูศพจึงได้ทราบว่า กัน เสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้ วันนี้จึงเดินทางมารับศพพร้อมกับเพื่อนทางคณะ

ทั้งนี้อยากจะฝากถึงผู้ประกอบการรถตู้ให้กำชับผู้ขับขี่และวางมาตราการควบคุมดูแลจำกัดความเร็วของรถตู้เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ไม่อยากให้มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก

ภาพจาก PATTAYA R.66