สธ.เตือนอยากขาวใช้สารกลูตาไธโอนอาจทำให้ถึงตาย
สาธารณสุขยืนยันรับการประทานสารกลูต้าไธโอนไม่ช่วยให้ผิวขาวและหากใช้เกินขนาดหรือไม่ศึกษาผลข้างเขียงให้ดีอาจทำให้เสียชีวิตได้
สาธารณสุขยืนยันรับการประทานสารกลูต้าไธโอนไม่ช่วยให้ผิวขาวและหากใช้เกินขนาดหรือไม่ศึกษาผลข้างเขียงให้ดีอาจทำให้เสียชีวิตได้
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกกระทรวงฯ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประชาชนหาวิธีที่ทำให้ผิวขาวโดยไม่ได้ศึกษาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ที่พบมากคือการฉีดสารเร่งผิวขาว เช่น สารกลูตาไธโอนทำให้เกิดภาวะช็อกจนต้องนำส่งโรงพยาบาล และอาจถึงขั้นเสียชีวิต หรือบางรายกินต่อเนื่องเป็นเวลานานได้รับผลข้างเคียงทำให้ตัวซีด ตาเหลือง ท้องเสีย เอนไซค์ในตับสูง เป็นต้น
ทั้งนี้สารกลูตาไธโอน ทางการแพทย์ใช้เพื่อรักษาโรคต่างๆ อาทิ โรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์ มะเร็งกระเพาะอาหาร เป็นต้น โดยผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการฉีดกลูตาไธโอนจะมีสีผิวที่ขาวขึ้น เนื่องจากกลูตาไธโอนสามารถยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (tyrosinase) และส่งผลให้เม็ดสีของผิวหนังเปลี่ยนจากเม็ดสีน้ำตาลดำเป็นเม็ดสีชมพูขาว จึงมีผู้พยายามนำผลข้างเคียงของยามาใช้ในการทำให้ผิวขาวขึ้น ซึ่งเป็นการนำยามาใช้ในทางที่ผิด
นอกจากนี้ การฉีดกลูต้าไธโอนเข้าเส้นเลือดในปริมาณมากอาจทำให้เกิดการช็อค ความดันต่ำ หายใจลำบาก และถึงขั้นเสียชีวิตได้ง่าย หรือหากใช้ในปริมาณมากติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้เม็ดสีที่ตาลดลง ตารับแสงได้น้อย มีผลต่อการมองเห็นในระยะต่อมา
ส่วนการรับประทานสารกลูต้าไธโอนแบบเม็ดหรือผง ก็ไม่ช่วยทำให้ผิวขาวขึ้น เนื่องจากสารกลูต้าไธโอน เป็นโปรตีนประเภทหนึ่ง เมื่อรับประทานเข้าไปภายในร่างกายจะเกิดการสลายตัวไปในทันทีเมื่อถูกกรดในกระเพาะอาหาร ร่างกายจึงไม่ได้มีการดูดซึม และที่สำคัญสารกลูตาไธโอนยังไม่มีการขึ้นทะเบียนตำรับยาในประเทศไทย
ดังนั้นหากพบการลักลอบจำหน่ายถือว่า มีความผิดตามพระราชบัญญัติยา มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท นอกจากนี้ยังเป็นการขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงขอให้ประชาชนควรมีภูมิคุ้มกันในการรับรู้ข่าวสาร เท่าทันโฆษณาที่อวดอ้างที่เกินจริง ทั้งนี้หากมีขอสงสัยในยาเครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์สุขภาพ ขอให้โทรสอบถามได้ที่สายด่วน อย. 1556


