หนุ่มทะเลาะแฟนในรถก่อนจุดไฟเผาบาดเจ็บในซอยสุขุมวิท22
เกิดเหตุชายหนุ่มทะเลาะกับแฟนภายในรถหน้าโรงแรมย่านซอยสุขุมวิท22 ก่อนใช้ทินเนอร์ราดและจุดไฟเผาได้รับบาดเจ็บ
เกิดเหตุชายหนุ่มทะเลาะกับแฟนภายในรถหน้าโรงแรมย่านซอยสุขุมวิท22 ก่อนใช้ทินเนอร์ราดและจุดไฟเผาได้รับบาดเจ็บ
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. เวลา 14.20 น. ร.ต.อ.อธิพงศ์ ศรีโพธิ์ รอง สว.(สอบสวน)สน.ทองหล่อได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า ภายในซอย สุขุมวิท22 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.ท.นพดล สามารถ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ทองหล่อ ร.ต.อ.อชิรเวชชน์ สุพรรณเภสัช รอง สวป.สน.ทองหล่อ ฝ่ายสืบสวนสน.ทองหล่อ ก่อนประสานรถบรรเทาสาธารณภัยคลองเตย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์จอดอยู่มีควันพุ่งออกมาจากเบาะหน้า เจ้าหน้าที่จึงใช้น้ำยาเคมีเข้าดับเพลิง โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาทีเพลิงจึงสงบ ตรวจสอบภายในรถพบขวดเบียร์และกระป๋องเบียร์ตกอยู่เกลื่อนพื้น นอกจากนี้ยังพบขวดเครื่องดื่มชาเขียว และขวดน้ำขนาดใหญ่ ตกอยู่ที่พื้นฝั่งข้างคนขับ และพบไฟแช็ค โทรศัพท์ไอโฟน
ขณะที่สภาพเบาะนั่งผู้โดยสารข้างคนขับมีรอยไหม้ เกือบหมด ขณะที่เบาะคนขับไหม้เล็กน้อย บริเวณด้านหลังรถมีเสื้อเชิ้ตผู้ชายแขวนอยู่
จากการตรวจสอบพบผู้บาดเจ็บจำนวน 2 ราย เป็นชายอายุ 42 ปี ถูกไฟลวกตามร่างกาย เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจ และ หญิงอายุ 38 ปรถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเทพธารินทร์
พยานที่เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ทั้งคู่ทะเลาะกันตั้งแต่ประตูทางเข้าโรงแรมใกล้จุดเกิดเหตุ ทางพนักงานรักษาความปลอดภัยจึงรีบวิทยุให้พนักงานอีกประตูสกัดรถดังกล่าว กระทั่งเมื่อรถมาถึงจุดเกิดเหตุ ผู้หญิงได้ลดกระจกรถลง เพื่อกวักมือขอความช่วยเหลือ จากนั้นไม่นานก็เห็นควันพวยพุ่งออกมาจากรถอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ประชาชนในละแวกดังกล่าวจะรีบวิ่งมาที่รถ จากนั้นผู้ชายซึ่งนั่งฝั่งคนขับได้เปิดประตูรถลงมา พร้อมกับมีไฟท่วมตัว พลเมืองดีจึงนำถังดับเพลิงมาฉีดให้ไฟดับ ก่อนผู้ชายจะนั่งตรงฟุตบาทฝั่งตรงข้าม ขณะที่มีคนตะโกนบอกว่าให้จับตัวผู้ชายไว้ เพราะเป็นคนเผารถ ซึ่งผู้ชายได้ตอบกลับมาว่า "ไม่ต้องห่วง ไม่หนีหรอก" จากนั้นผู้หญิงก็รีบเปิดประตูและคลานลงจากรถ ก่อนจะถูกนำส่งโรงพยาบาลทันที
จากการสอบสวนทราบว่าทั้งคู่ทะเลาะกันเรื่องหึงหวงก่อนที่ฝ่ายชายจะใช้ทินเนอร์ราดภายในรถและจุดไฟเผา
เบื้องต้นตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและใกล้เคียง รวมทั้งสอบปากคำพยานแวดล้อมและเห็นเหตุการณ์ ก่อนจะนัดผู้บาดเจ็บทั้ง2 รายมาสอบปากคำ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป


