พระโกศจันทน์
อนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลป์ฯ พร้อมจัดสร้างพระโกศจันทน์เพื่อใช้
โดย...ส.สต
อนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลป์ฯ พร้อมจัดสร้างพระโกศจันทน์เพื่อใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยให้สำนักช่างสิบหมู่ดำเนินการสร้างตามแบบเพื่อให้งดงาม สง่า สมพระเกียรติ และเป็นไปตามโบราณราชประเพณี
พระโกศจันทน์ จะสร้างจากไม้จันทน์หอมจากป่าในอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้คัดเลือกต้นไม้จันทน์หอมที่ยืนต้นตายตามธรรมชาติ จำนวน 12 ต้น ก่อนตัดได้ทำพิธีบวงสรวงเมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2559
อนึ่ง เพื่อให้เห็นภาพพระโกศจันทน์ในอดีต จึงขอนำภาพพระโกศ 3 องค์ ที่เคยทรงพระศพพระบรมราชวงศ์ ปัจจุบันตั้งอยู่ที่โรงราชรถ ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร มาตีพิมพ์ที่คอลัมน์นี้ด้วย
พระโกศไม้จันทน์ ที่ทรงพระบรมศพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2539 เป็นพระโกศที่มีโครงสร้างเป็นเหล็กกรุตาข่ายทรงแปดเหลี่ยมและใช้ไม้จันทน์ฉลุตกแต่งลวดลายต่างๆ ประดับเข้ากับโครงเหล็ก ใช้ประกอบเข้ากับพระโกศลองใน เชิญตั้งบนจิตกาธานในพระเมรุและเผาพร้อมกันไปกับการถวายพระเพลิง เป็นเสมือนท่อนฟืนเครื่องหอม
พระโกศดังกล่าวนี้จัดสร้างโดยส่วนช่างสิบหมู่และส่วนกิจกรรมและศิลปะประยุกต์ กรมศิลปากร ใช้เวลาในการจัดสร้าง 3 เดือนเศษ
พระโกศจันทน์ทรงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ส่วนบนเป็นองค์โกศแปดเหลี่ยมตามแบบโบราณปากผาย ฝาเกี้ยว ยอด 3 ชั้น ส่วนล่างเป็นฐานรองพระโกศทำเพิ่มเติมอีกชั้นหนึ่ง ความสูงนับจากฐานถึงยอดสูง 162.50 เซนติเมตร
พระโกศจันทน์ทรงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 7 เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2528 มีลักษณะเป็นโกศแปดเหลี่ยม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.86 เมตร สูง 1.61 เมตร ประกอบด้วยลวดตาข่ายประดับลายฉลุ เป็นลายซ้อนไม้ ทำจากไม้จันทน์หอมทั้งองค์ แยกได้เป็น 3 ส่วน คือ ส่วนฐาน ส่วนองค์ และส่วนยอด สำหรับทรงพระบรมศพถวายพระเพลิงที่พระเมรุมาศ


