ตร.กองปราบลุยจับปืนเถื่อนขายผ่านอินเทอร์เน็ต
ตำรวจกองปราบลุยตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายเพื่อปราบปรามการค้าอาวุธปืนผ่านอินเทอร์เน็ต
ตำรวจกองปราบลุยตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายเพื่อปราบปรามการค้าอาวุธปืนผ่านอินเทอร์เน็ต
เมื่อวันที่ 18 ก.ย. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผู้กำกับการ 2 กองปราบปราม (ผกก.2 บก.ป.) นำกำลังตำรวจ 10 นาย เข้าค้นบ้านพักแห่งหนึ่ง ภายใน ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา หลังสืบทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวได้สั่งซื้อปืน เครื่องกระสุนปืน และอุปกรณ์ส่วนควบต่างๆที่ประกอบเป็นปืนผ่านทางอินเทอร์เน็ต
จากการตรวจสอบพบนายวันทวี วิเศษยา อายุ 38 ปี แสดงตนเป็นเจ้าของบ้าน และจากการตรวจค้นพบอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก ไม่มีทะเบียน อาวุธปืนยาว ขนาด.22 1 กระบอก ชุดลั่นไก 2 ชุด ลำกล้องขนาด .22 จำนวน 1 อัน กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 7 นัด ปลอกกระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน 8 ปลอก แมกกาซีนปืนขนาด.22 จำนวน 1 อัน และปลายกระบอกปืนแบบเก็บเสียง จำนวน 2 อัน ซุกซ่อนอยู่ใต้ฟูกที่นอน จึงยึดไว้เป็นของกลาง
เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า นายวันทวี รับสารภาพว่า สั่งซื้อส่วนประกอบต่างๆมาจากอินเทอร์เน็ต เพื่อนำมาประกอบปืนเอง นอกจากนี้ยังสั่งซื้อปืนสำเร็จรูปมาด้วย โดยมักจะนำปืนเหล่านี้ไปใช้ล่าสัตว์ในป่า เบื้องต้นเเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินคดีต่อไป
วันเดียวกันตำรวจกองปราบปรามนำโดย พ.ต.ต.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ สารวัตรกองกำกับการ 1 กองปราบปราม นำกำลังตำรวจ 20นาย เข้าตรวจค้น บ้านพักย่าน ถ.กรุงเทพกรีฑา แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ หลังสืบทราบว่า นายสุรชาติ พ่วงศิริ อายุ44 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ได้สั่งซื้อปืนและอุปกรณ์ส่วนควบผ่านทางอินเทอร์เน็ต ก่อนจะให้จัดส่งไปที่ร้านค้าของเก่าย่าน ถ.กรุงเทพกรีฑา ซอย7 แยก 5 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. ซึ่งตำรวจอีกชุดได้ลงพื้นที่เข้าตรวจค้นเช่นกัน
การเข้าตรวจค้นตำรวจพบว่า บ้านบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น และมีบ้านอีกหลายหลังอยู่ในรั้วบ้านเดียวกัน พบ นายสุรชาติ แสดงตนเป็นเจ้าของบ้าน ก่อนนำตำรวจตรวจค้นภายในบ้าน พบปืนลูกซองยาว 1 กระบอก ปืนยาว .22 จำนวน1กระบอก ปืนยาว .22 กึ่งออโต้ 1กระบอก และปืนพกสั้นขนาดต่างๆ 7 กระบอก กระสุนปืนขนาดต่างๆอีกกว่า 6,000 นัด และระเบิดปลอมสำหรับฝึกอีก 3 ลูก จึงยึดมาตรวจสอบที่กองปราบฯ และนำตัว นายสุรชาติ มาสอบสวนเบื้องต้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มาที่ไปของปืน หากพบว่ากระบอกไหนไม่มีทะเบียนหรือกระสุนปินได้มาอย่างผิดกฎหมายก็จะดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่ ตำรวจกองปราบปรามอีกชุดจำนวน 10 นาย ได้นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจสอบร้านค้าของเก่าย่าน ถ.กรุงเทพกรีฑา ซ.7 แยก 5 ใกล้กับจุดแรกที่เข้าค้น ตรวจสอบพบอาวุธปืนพก 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 10 นัด ซองบรรจุเครื่องกระสุน 2 อัน มี นายธนิกร ดีแซง อายุ 40 ปี รับเป็นเจ้าของ ซึ่งพบว่าเป็นปืนที่มีทะเบียนถูกต้อง แต่เป็นของผู้อื่น เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือของ นายธนิกร ไว้ตรวจสอบ เนื่องจากมีข้อความการพูดคุยผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์เกี่ยวกับพัสดุที่ส่งมายังร้านรับซื้อของเก่า โดยภายในกล่องพัสดุมีอาวุธปืนบรรจุอยู่ และได้ตรวจหาสารเสพติดด้วย
นายธนิกร เปิดเผยว่า ตนเปิดร้านรับซื้อของเก่ามาประมาณ 10 ปี โดยจะจ่ายค่าเช่าเดือนละ 55,000 บาท อาวุธปืนที่เจ้าหน้าที่พบเป็นของตนที่ซื้อต่อจากเจ้าของปืนคนเก่าผ่านการติดต่อจากคนรู้จักอีกต่อหนึ่งซื้อมาในราคาประมาณ 40,000 บาท แต่ยังไม่ได้ขออนุญาตครอบครอง ส่วน นายสุรชาติ ได้มารับพัสดุที่สั่งไว้ประมาณ 4-5 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงเดือนก.ค.-ปัจจุบัน แต่ตนไม่ทราบว่าข้างในกล่องมีอะไร ตนเพียงเซ็นรับพัสดุไว้ให้


