ศาลออกหมายจับ "พระธัมมชโย" รุกป่าภูเรือ วัดยันหลวงพ่อไม่เกี่ยว
ศาลจังหวัดเลยออกหมายจับพระธัมมชโยข้อหารุกป่าภูเรือ ขณะที่วัดพระธรรมกายยันหลวงพ่อไม่เกี่ยว ชี้พื้นที่สาขาวัดอยู่นอกเขตป่าสงวน
ศาลจังหวัดเลยออกหมายจับพระธัมมชโยข้อหารุกป่าภูเรือ ขณะที่วัดพระธรรมกายยันหลวงพ่อไม่เกี่ยว ชี้พื้นที่สาขาวัดอยู่นอกเขตป่าสงวน
เมื่อวันที่ 16 ส.ค. พ.ต.อ.ปิติพัฒน์ ธวัชวิเชียร รอง ผบก.ภว.จ.เลย เปิดเผยว่า ศาลจังหวัดเลยได้อนุมัติออกหมายจับพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในข้อหายึดหรือครอบครองทำประโยชน์ อยู่อาศัยในที่ดินก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำ โดยประการใดอันเป็นการทำลายป่า และเป็นการเสื่อมเสียป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต
การออกหมายจับดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่พบว่ามีการออกเอกสารหลักฐานน.ส.3 ก. ของ สวนป่าหิมวันต์ อ.ภูเรือ จ.เลย อันเป็นเท็จรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ เนื้อที่รวม 129 ไร่
ขณะที่ นายศักดิ์ชาย มงคลเคหา ผู้ดูแลสวนป่าหิมวันต์ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจหลังเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดสวนป่าหิมวันต์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาโดยไม่ได้ขอหมายจับ ในข้อหาร่วมกันบุกรุก แผ้วถางป่าสงวน โดยมีอัตราจำคุกไม่เกิน 5ปี ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้าน วัดพระธรรมกาย ได้แถลงชี้แจงเรื่องดังกล่าวโดยระบุว่า จากข่าวกรณีสวนป่าหิมวันต์ วัดพระธรรมกาย ขอชี้แจง ดังนี้
1.ขอยืนยันว่า พื้นที่ของสวนป่าหิมวันต์ อ.ภูเรือ จ.เลย ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 726 เล่ม 8ก หน้า 26 เลขที่ดิน 87 หมายเลข 5247 แผ่นที่ 118 ตำแหน่งที่ดิน ตำบลร่องจิก อำเภอภูเรือจังหวัดเลย มีพื้นที่ 129 ไร่ ตามเอกสารทางราชการดังกล่าวนี้เท่านั้น ปัจจุบันผู้ครอบครอง คือ วัดพระธรรมกาย ไม่ใช่พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธัมมชโย) แต่อย่างใด
จากการสนธิกำลังเข้าตรวจสอบ เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2557 ของเจ้าหน้าที่ทหารจาก กองอำนวยการรักษาความมั่นคง(กอ.รมน.) จังหวัดเลย, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูเรือ, เจ้าหน้าที่ป่าไม้จากสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี), เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอภูเรือและเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลร่องจิก ได้รับการยืนยันตามหนังสือราชการ ที่ ลย.0817/1992 ลงวันที่ 24 ก.ค. 2559 จากนายอำเภอภูเรือ ถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ในย่อหน้าสุดท้ายของหนังสือดังกล่าว ระบุชัดเจนว่า พื้นที่ทั้งหมดของสวนป่าหิมวันต์ทั้ง 129 ไร่ อยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ
ดังนั้นการกล่าวหาว่า สวนป่าหิมวันต์ หรือ วัดพระธรรมกาย หรือ พระเทพญาณมหามุนี บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จึงเป็นข้อกล่าวหาที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เป็นการจงใจใส่ร้ายป้ายสีด้วยข้อมูลที่ไม่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง
2.ขอยืนยันว่า พื้นที่ 52 ไร่ นอกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 726 ไม่ใช่พื้นที่ของสวน ป่าหิมวันต์ หรือ วัดพระธรรมกาย หรือ พระเทพญาณมหามุนี แต่อย่างใด ปัจจุบันเป็นของนายศุภมิตร ชินวงศ์ ซึ่งเป็นชาวบ้านบ้านแก่ง หมู่ 1 ตำบลร่องจิก อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย และพื้นที่ดังกล่าวก็อยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยได้ถูกจำแนกออกจากเขตป่าไม้ถาวรและเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า ป่าภูเรือ(ป่าหมายเลข 23) ตามมติ คณะรัฐมนตรี เมื่อปี พ.ศ.2532 เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2532
ตามที่มีการนำเอาพื้นที่ดังกล่าวมากล่าวหา วัดพระธรรมกาย โดย พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระเทพญาณ มหามุนี ว่าบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า ป่าภูเรือ จึงเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่ถูกต้อง คลาดเคลื่อนจาก ความเป็นจริง เป็นการกล่าวหาโดยมิชอบ ไม่มีการตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัดตามข้อเท็จจริง แต่กลับมีการรวบรัด เร่งรีบ ในการดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม รวมทั้งไปยื่นขอออกหมายจับพระเทพญาณมหามุนี ต่อศาลจังหวัดเลย ทั้งที่ตามข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น สวนป่าหิมวันต์ หรือ วัดพระธรรมกาย หรือ พระเทพญาณมหามุนี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับพื้นที่ 52 ไร่ดังกล่าวเลย


