นักเรียนร่วมแต่งชุดไทยในวันภาษาไทยแห่งชาติ
พิษณุโลก-นักเรียนแต่งชุดไทยจัดกิจกรรมวันภาษาไทยแห่งชาติเชิดชูคุณค่าของภาษาไทยที่เป็นมรดกและวัฒนธรรมอันล้ำค่า
พิษณุโลก-นักเรียนแต่งชุดไทยจัดกิจกรรมวันภาษาไทยแห่งชาติเชิดชูคุณค่าของภาษาไทยที่เป็นมรดกและวัฒนธรรมอันล้ำค่า
ที่จังหวัดพิษณุโลก หลายโรงเรียนได้พร้อมใจกันจัดกิจกรรมวันภาษาไทยขึ้น เพื่ออนุรักษ์ เชิดชูคุณค่าของภาษาไทยในฐานะที่เป็นมรดกและวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติ อีกทั้งเพื่อฝึกทักษะทางภาษา ส่งเสริมพัฒนาการอ่าน การเขียน การฟัง การพูดและแสดงออกถึงความสามารถทางด้านภาษาไทยผ่านกิจกรรมเรียนรู้ อาทิ โรงเรียนอนุบาลโรจนวิทย์พิษณุโลก
นักเรียนระดับชั้นอนุบาล ถึง ป.6 ได้พร้อมใจกันแต่งกายชุดไทย ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมวันภาษาไทย จัดขบวนเดินรอบโรงเรียน ด้วยกิจกรรมรำไทยจังหวะกลองยาว การละเล่นไทยพื้นบ้าน ม้าก้านกล้วย เพื่อให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมทางภาษาและวัฒนธรรมไทย ผู้ปกครองหลายคนได้เฝ้าชมบุตรหลานร่วมเดินขบวนและถ่ายภาพบุตรหลานแต่งกายชุดไทยสวยงามเก็บไว้เป็นที่ระลึก
คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อพ.ศ.2542 ให้วันที่29ก.ค.ของทุกปีเป็นวันภาษาไทยแห่งชาติ ซึ่งวันนี้่ในอดีต เมื่อปีพ.ศ.2505 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินไปเป็นประธาน และทรงร่วมอภิปรายในการประชุมทางวิชาการของชุมนุมภาษาไทย ที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ ห้องประชุมคณะอักษรศาสตร์เรื่อง“ปัญหาการใช้คำไทย” ร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิในการประชุมทางวิชาการของชุมนุมภาษาไทย และทรงมีพระราชดำรัสความตอนหนึ่งซึ่งสร้างความประทับใจแก่ผู้ร่วมประชุมครั้งนั้น ความว่า...
"เรามีโชคดีที่มีภาษาของตนเองแต่โบราณกาล จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะรักษาไว้ ปัญหาเฉพาะในด้านรักษาภาษานี้ก็มีหลายประการ อย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในทางออกเสียง คือ ให้ออกเสียงให้ถูกต้องชัดเจน อีกอย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในวิธีใช้ หมายความว่า วิธีใช้คำมาประกอบประโยค นับเป็นปัญหาที่สำคัญ ปัญหาที่สาม คือ ความร่ำรวยในคำของภาษาไทย ซึ่งพวกเรานึกว่าไม่ร่ำรวยพอ จึงต้องมีการบัญญัติศัพท์ใหม่มาใช้...สำหรับคำใหม่ที่ตั้งขึ้นมีความจำเป็นในทางวิชาการไม่น้อย แต่บางคำที่ง่าย ๆ ก็ควรจะมี ควรจะใช้คำเก่า ๆ ที่เรามีอยู่แล้ว ไม่ควรจะมาตั้งศัพท์ใหม่ให้ยุ่งยาก"


