posttoday

ลุยทางด่วน-มอเตอร์เวย์แสนล้าน

14 กรกฎาคม 2559

คมนาคมเข็นลงทุนมอเตอร์เวย์งบปี 2560 สองเส้นกว่า 1 แสนล้าน จากแผน 20 ปีกว่า 2 ล้านล้าน

คมนาคมเข็นลงทุนมอเตอร์เวย์งบปี 2560 สองเส้นกว่า 1 แสนล้าน จากแผน 20 ปีกว่า 2 ล้านล้าน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า จะเร่งผลักดันงบลงทุนกว่าแสนล้านบาท ในปี 2560 แบ่งเป็นโครงการทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง ระยะทาง 17 กิโลเมตร (กม.) วงเงินลงทุน 2.7-3 หมื่นล้านบาท ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์เวย์ นครปฐม-ชะอำ ระยะทาง 120 กม. วงเงิน 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะบรรจุอยู่ในแผนปฏิบัติการปี 2560 เข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์)

สำหรับกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบรายละเอียดจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) วงเงิน 1 แสนล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังดำเนินการจัดตั้งภายในเดือน ก.ค.นี้ วงเงินเริ่มต้น 1 หมื่นล้านบาท และจะเสนอขายหน่วยลงทุนที่เหลืออีก 9 หมื่นล้านบาท ให้นักลงทุนภายในและต่างประเทศภายในเดือน ธ.ค.นี้ โดยโครงการที่กรมทางหลวงจะนำมาเข้าโครงการระดมทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ เพื่อใช้ในการก่อสร้างโครงการใหม่ คือ โครงการมอเตอร์เวย์สาย 7 (บางนา-ชลบุรี) และสาย 9 (บางปะอิน-บางนา)

ทั้งนี้ โครงการใหม่ที่คาดว่าจะใช้เงินจากกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ก่อสร้าง อาทิ มอเตอร์เวย์ สายพระราม 9-ศรีนครินทร์-สุวรรณภูมิ ระยะทาง 12-14 กม. วงเงินประมาณ 2 หมื่นล้านบาท และโครงการพัฒนาวงแหวนตะวันตกช่วงบางบัวทอง-บางปะอิน เชื่อมโครงข่ายถนนวงแหวนตะวันออกด้านทิศเหนือ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดโครงการ

นอกจากนี้ จะพิจารณาภาพรวมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมต่อภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือ รองรับอีสเทิร์นซีบอร์ด เบื้องต้นวางแผนให้เอกชนลงทุนทั้งก่อสร้างและบริหาร โดยต้องดูผลการศึกษาก่อน ซึ่งทางกรมทางหลวงจะมีโครงการมอเตอร์เวย์ที่จะเข้ามาเชื่อมพื้นที่ดังกล่าว คือ เส้นทางแหลมฉบัง-พนมสารคาม-นครราชสีมา โดยขณะนี้ กรมทางหลวง(ทล.)อยู่ระหว่างศึกษาเส้นทางช่วงแรก แหลมฉบัง-พนมสารคามระยะทางประมาณ 70 กม.

ด้านแผนให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในการบริหารจัดการและซ่อมบำรุง (O&M) นั้น เบื้องต้นจะใช้ในเส้นทางมอเตอร์เวย์สาย 6 บางปะอิน-นครราชสีมา และสาย 81 บางใหญ่-กาญจนบุรี ซึ่งทั้งสองโครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้าง

นายอาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมมีแผนแม่บทพัฒนาโครงการมอเตอร์เวย์ 21 สาย ระยะทางรวม 6,612 กม. วงเงินลงทุนรวม 2.1 ล้านล้านบาท ระยะเวลา 20 ปี ระหว่างปี 2560-2579 ส่วนรูปแบบการลงทุนจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ โดยระยะ 10 ปีแรก ระหว่างปี 2560-2569 และระยะ 10 ปีหลัง ระหว่างปี 2570-2579 โครงการทั้งหมดดังกล่าว จะเป็นการเชื่อมโยงระหว่างการขนส่งแต่ละระบบ ถนน ราง น้ำและอากาศ เป็นการเปิดเส้นทางไปสู่โครงสร้างพื้นฐานระบบอื่นๆ เช่น เชื่อมไปสู่สนามบินอู่ตะเภา ซึ่งจะพัฒนาเป็นสนามบินเชิงพาณิชย์ และศูนย์ซ่อมอากาศยานเป็นอีสเทิร์น อีโคโนมิก คอร์ริดอร์

“มอเตอร์เวย์ยังเป็นการสร้างเมืองใหม่แบบระบบปิดเพื่อความปลอดภัย โดยเมืองจะต้องอยู่หลังมอเตอร์เวย์ ไม่ใช่มาเกาะมอเตอร์เวย์ ส่งเสริมให้มีการพัฒนาพื้นที่สองข้างทาง ส่วนการลงทุนมีบางโครงการที่ต้องใช้เงินจากกองทุนโครงสร้างพื้นฐานฯ บางเส้นทางจะเปิดโอกาสให้เอกชนเข้าลงทุนแบบพีพีพีทั้งโครงการแบบรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-ชมพู” นายอาคม กล่าว

นายสิทธิชัย บุญสะอาด ผู้อำนวยการกองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) กล่าวว่า มอเตอร์เวย์ ศรีนครินทร์-สุวรรณภูมิ ระยะทาง 12-14 กม. มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท รูปแบบก่อสร้างจะเป็นทางยกระดับ เบื้องต้นจะเริ่มออกแบบได้ในปี 2560 เริ่มก่อสร้างปี 2561 คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2565 สาเหตุที่ต้องดำเนินการเนื่องจากปริมาณการจราจรหนาแน่นมาก คาดว่าภายใน 6 เดือนนี้ทางหลวงจะศึกษารายละเอียดการลงทุน รวมถึงผลตอบแทนการลงทุนของนักลงทุนที่คาดว่าจะสูงถึง 6-8%

ขณะที่โครงการที่ 2.มอเตอร์เวย์ เส้นทางโครงการพัฒนาวงแหวนตะวันตกช่วงบางบัวทอง-บางปะอิน เชื่อมโครงข่ายถนนวงแหวนตะวันออกด้านทิศเหนือ ระยะทางรวมกว่า 30 กม. โดยสาเหตุที่โครงการนี้เหมาะสมเนื่องจากจะเป็นการเชื่อมระบบขนส่งจากทิศตะวันตกไปยังทิศตะวันออกเชื่อมไปสู่ภาคตะวันออก

นายอาคม กล่าวว่า โครงการมอเตอร์เวย์ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ 3 โครงการ ได้แก่ มอเตอร์เวย์ สายพัทยา-มาบตาพุด อยู่ระหว่างก่อสร้าง บางปะอิน-นครราชสีมา ที่จะเริ่มก่อสร้างในเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ และสายบางใหญ่- กาญจนบุรี ซึ่งอยู่ระหว่างการส่งรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมฉบับปรับปรุงให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณา

แหล่งข่าวจากทล. เปิดเผยว่า กรมทางหลวงอยู่ระหว่างการทบทวนการจัดเก็บรายได้จากโครงการมอเตอร์เวย์สาย 7 และสาย 9 จากที่ได้ศึกษาไว้ว่าจะมีรายได้ในอนาคตระยะเวลาประมาณ 20 ปีข้างหน้า 3-4 หมื่นล้านบาท และขณะนี้ได้มีการปรับ โดยเปลี่ยนมาใช้เก็บค่าผ่านทางตามระยะทาง คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 6 เดือน หรือประมาณปลายปีนี้ จึงจะนำเสนอกระทรวงการคลังว่าผลตอบแทนที่ได้จะเป็นเท่าไร โดยขณะนี้ ทล.เก็บค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ทั้งสองสายได้ประมาณปีละ 5,000 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2562-2563 หากโครงการมอเตอร์เวย์ 3 สายที่อยู่ระหว่างก่อสร้างเสร็จรายได้จะเพิ่มอีก 800 ล้านบาท

ข่าวล่าสุด

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และเวสเทิร์นดิจิตอลยินดีผู้สำเร็จหลักสูตรเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อผลิตอัจฉริยะร่วมกับบีโอไอ