posttoday

ป่าไม้ออกกฎใหม่ห้ามขรก.หญิงลงพื้นที่คนเดียวป้องกันถูกลวนลาม

23 มิถุนายน 2559

อธิบดีกรมป่าไม้สั่งออกระเบียบใหม่ห้ามข้าราชการหญิงปฏิบัติงานนอกสถานที่เพียงลำพัง หลังเกิดเหตุถูกคุกคามทางเพศ

อธิบดีกรมป่าไม้สั่งออกระเบียบใหม่ห้ามข้าราชการหญิงปฏิบัติงานนอกสถานที่เพียงลำพัง หลังเกิดเหตุถูกคุกคามทางเพศ

กรณีข้าราชการหญิงกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ตำแหน่งนักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ สังกัดสำนักวิจัยและพัฒนาการป่าไม้ ถูกคุกคามทางเพศจากพนักงานราชการที่เป็นพนักงานขับรถระหว่างปฏิบัติราชการที่ต่างจังหวัดและจะไปแจ้งความดำเนินคีดแต่โดนหัวหน้าสั่งปิดเงียบ เพื่อไม่ให้องค์กรเสียชื่อเสียง

นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า ได้ให้ฝ่ายบริหารร่างระเบียบใหม่แล้ว ว่าด้วยการไปปฏิบัติงานนอกสถานที่สำหรับ เจ้าหน้าที่ผู้หญิงเช่น ห้ามไปคนเดียว ให้ไปเป็นคู่ หากไม่มีเหตุอื่นใดจำเป็น ให้พักโรงแรมเป็นหลัก แม้จะอยู่ไกลจากสถานที่ปฏิบัติงานก็ต้องยอม โดยให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก

นอกจากนี้ ยังได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีดังกล่าวแล้ว โดยเลือกกรรมการเป็นผู้หญิงทั้งหมด ระดับผู้อำนวยการสำนัก นิติกร รวมทั้ง จากสำนักวิจัย เพื่อไม่ให้ผู้เสียหายเกิดความกระอักกระอักกระอ่วนใจ นอกจากนี้ ทางพล.อ.สุรศักดิ์ ได้มีคำสั่งโดยตรงมาว่าต้องทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง และต้องหาทางป้องกันไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาอีก โดยให้คำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ที่ทำงาน มากว่า การมุ่งทำผลงานขององค์กร รวมทั้งให้วางมาตรการป้องกันความปลอดภัยสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้หญิงเมื่อต้องออกไปทำงานนอกสถานที่ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด

อย่างไก็ตาม พนักงานราชการที่ก่อเหตุ ยังสามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติ จนกว่าคณะกรรมการสอบจะมีผลการสอบสวนออกมา โดยการสอบใช้เวลาไม่เกิน 10 วันหลังจากนี้ หากผลการสอบออกมาว่านาย อ.(นามสมุติ) มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคม ก็จะให้หยุดทำงาน และลงโทษทางวินัยทันที สำหรับข้าราชการหญิงผู้เคราะห์ร้าย ได้ขอย้ายตัวเองไปภาคเหนือ ตนก็ได้อนุมัติให้ย้ายเรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับกับหัวหน้างานของข้าราชการหญิงผู้เคราะห์ร้าย ก็ถูกตั้งกรรมการสอบสวนด้วยเช่นกัน ว่ามีเหตุอะไร มีเจตนาอะไร ทำไมถึงต้องปกปิดข้อมูล

ขณะเดียวกัน กรณีที่มีการตั้งข้อสังเกต ว่า คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีผู้หญิงเรียนมากกว่าผู้ชายทำให้เมื่อเวลาต้องบรรจุข้าราชการออกมาทำงานนอกสถานที่ ทั้งงานป้องกัน และปราบปราม มีผู้หญิงทำงานมาก นั้นทางกรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ ไม่สามารถไปกำหนดกับกระทรวงศึกษาได้เรื่องการรับนักศึกษาว่าจะเป็นหญิงหรือชาย ต้องยอมรับความทัดเทียมกัน แต่ในความเป็นจริงก็ต้องยอมรับว่า เมื่อต้องออกไปปฏิบัติงานนั้นต้องเจอกับความจริง ไม่เหมือนตอนเรียน ผู้หญิงอยู่ในพื้นที่ไกล ทุรกันดารลำบาก ความลำบากในเรื่องความเป็นอยู่อาจจะทนกันได้ แต่ผู้หญิงยังมีเรื่องของเพศ และภัยคุกคามทางเพศด้วย ซึ่งหน่วยงานต้นสังกัดเองก็ต้องมีหน้าที่ ที่คอยดูแล ป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น

น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง ผู้จัดการมูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม กล่าวว่า กรณีคุกคามทางเพศนั้น พบว่า หน่วยงานราชการส่วนใหญ่ โดยเฉพาะหน่วยงานเกี่ยวกับการปกครอง หน่วยงานท้องถิ่น รวมทั้งส่วนราชการต่างๆ ปัญหานี้เกิดขึ้นค่อนข้างมาก พฤติกรรมที่พบคือไปทำงานข้างนอกแล้วหลอกพาเข้าโรงแรมโดยผู้หญิงไม่ทันระวังตัว ไปประชุมสัมมนาต่างจังหวัดต้องค้างคืน ชวนไปกินข้าว เป็นต้น

นอกจากนี้ ปัญหาที่พบคือหน่วยงานมักจะปกปิดและทำให้เรื่องจบ เนื่องจากการคุกคามทางเพศในหน่วยงานราชการมีเรื่องของตำแหน่ง เงินเดือน การกลั่นแกล้งเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ผู้หญิงที่ถูกคุกคามก็กลัวจะถูกไล่ออก กลัวหัวหน้างานซึ่งหลายกรณีไปมีความสัมพันธ์กับผู้กระทำการคุกคามทางเพศด้วย เรื่องนี้ผู้รับผิดชอบต้องปกป้องลูกน้อง ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรมป่าไม้ อธิบดีต้องเด็ดขาดโดยเฉพาะการลงโทษผู้กระทำผิดรวมทั้งหัวหน้างานที่ไม่ปกป้องข้าราชการหญิงที่เสียหาย

ข่าวล่าสุด

งานเข้า! EU สอบสวน Google ข้อหาผูกขาดเนื้อหาให้กับ AI ของบริษัท