posttoday

บิ๊กต๊อกยันไม่ทำยาบ้าให้ถูกกม.แต่หนุนจัดให้ผู้เสพเป็นผู้ป่วย

22 มิถุนายน 2559

พล.อ.ไพบูลย์ ยันไม่ได้แก้ให้ยาบ้าถูกกฎหมาย แต่ควรจัดให้ผู้เสพเป็นผู้ป่วยเพื่อบำบัดรักษา ลั่นเดินหน้าปราบปรามปัญหายาเสพติดอย่างเต็มที่

พล.อ.ไพบูลย์ ยันไม่ได้แก้ให้ยาบ้าถูกกฎหมาย แต่ควรจัดให้ผู้เสพเป็นผู้ป่วยเพื่อบำบัดรักษา ลั่นเดินหน้าปราบปรามปัญหายาเสพติดอย่างเต็มที่

เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่กระทรวงยุติธรรม(ยธ) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ศอ.ปส.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 2/2559 เพื่อพิจารณาแนวทางการควบคุมเมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า โดยยึดหลักความสำคัญกับด้านสาธารณสุข ด้านกฎหมาย และด้านการให้ข้อมูลต่อสาธารณชน โดยตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เช่น นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายณรงค์ รัตนานุกูล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ทหารและตำรวจ

พล.อ.ไพบูลย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เพื่อพิจารณาแนวทางการควบคุมเมทแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า หลังจากเดินทางไปประชุม UNGASS สมัชชาสหประชาชาติสมัยพิเศษว่าด้วยยาเสพติดโลกว่า วันนี้ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับทราบทิศทางและขั้นตอนการทำงาน โดยช่วง 20 ปีที่ผ่านมา สหประชาชาติใช้วิธีการต่อสู้กับสงครามยาเสพติดมาโดยตลอด แต่ผลที่ออกมาแสดงให้เห็นว่าไม่ได้ผล และได้ข้อเสนอแนะว่าควรใช้วิธีแก้ไขปัญหาด้านสาธารณสุขแทน โดยจัดให้ผู้ที่เสพยาเสพติดจัดเป็นคนป่วยแทน โดยให้เน้นว่าการเสพเป็นอาการป่วยชนิดหนึ่ง

"ซึ่งในที่ประชุม สหประชาชาติเสนอให้ยาเสพติดถูกต้องตามกฎหมาย และให้ยกเลิกการประหารชีวิตคดียาเสพติด รวมถึงการห้ามใช้คำว่า "สงครามยาเสพติด" เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเรายืนยันในที่ประชุมว่าไม่เห็นด้วยกับการเสนอให้ยาเสพติดถูกต้องตามกฎหมาย แต่เห็นด้วยให้ผู้เสพยาเสพติดเป็นผู้ป่วยชนิดหนึ่ง" รมว.ยุติธรรม กล่าว

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวอีกว่า โดยมติที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เห็นว่า การทำสงครามกับยาเสพติดไม่ใช่ทางแก้ที่ดี เพราะมีผลกระทบทางด้านสิทธิมนุษยชนกับตัวผู้เสพ และประเทศไทยเอง ก็ยังมีความไม่พร้อมกับบทกฏหมายที่ลงโทษรุนแรงเกินไปตนจึงได้มีข้อเสนอว่า "การลงโทษผู้ที่เสพหรือผู้กระทำความผิดต้องได้สัดส่วนที่เหมาะสมต่อการกระทำความผิด" เช่น ลูกหลานไปครอบครองยาเสพติด 15 เม็ดขึ้นไปต้องมารับประหารชีวิตเหมือนกับเฮโรอีนมันไม่เป็นธรรม เพราะไม่ใช่อาชญากรรมร้ายแรง "อย่าส่งคนป่วยไปเข้าคุก คุกไม่ใช่การรักษา ต้องส่งคนเหล่านี้ไปอยู่กับหมอ แต่กรมราชทัณฑ์และกรมพินิจฯต้องช่วยด้วย และขอยืนยันไม่ได้ถอนยาเสพติด แต่ปรับกฎหมายการลงโทษอย่างเหมาะสม" พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว

รมว.ยุติธรรม กล่าวอีกว่า ขณะนี้ ประเทศไทยได้แก้กฎหมายยาเสพติดให้เป็นประมวลกฎหมายยาเสพติดแทน ซึ่งจะมีการแยกรูปแบบการลงโทษ เช่น นายทุนต้องรับโทษอย่างรุนแรง ส่วนผู้ที่ขนยา หรือเป็นแรงงาน รวมถึงผู้เสพจะได้รับโทษตามความเหมาะสม

"ยืนยันจะเดินหน้าในมาตรการปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้นเหมือนเดิม ทั้งในและนอกประเทศ และขอยืนยันว่า ยาเสพติดเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายอย่างแน่นอน มีมากกว่า 70 ประเทศที่พยายามทำให้ยาเสพติดถูกต้องตามกฎหมาย แต่ประเทศไทยไม่พร้อม" พล.อ.ไพบูลย์ ระบุ

รมว.ยุติธรรม กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ในส่วนของการบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยที่ติดยาเสพติด จะให้กระทรวงสาธารณสุขเข้ามารับผิดชอบงานในส่วนนี้ และจะปรับปรุงโครงสร้างให้มีเอกภาพมากขึ้น ทั้งงบประมาณและกำลังเจ้าหน้าที่ ส่วนกรมคุมประพฤติของกระทรวงยุติธรรมจะมีบทบาทลดลง เป็นแค่หน่วยงานรองลงมาที่ช่วยสนับสนุนการทำงาน ที่สำคัญต้องสร้างความเข้าใจของประชาชนเกี่ยวกับการทำงานให้ถูกต้อง

ส่วนกรณีควบคุมเมทแอมเฟตามีน จะต้องรอการจัดระบบการทำงานให้เรียบร้อยทุกด้านก่อนจึงจะสามารถทำต่อได้ รวมถึงการจัดให้หน่วยงานใดเข้ามาดูแล ในอนาคตอาจจะมีการแบ่งงบประมาณของกระทรวงยุติธรรมไปให้กระทรวงสาธารณสุขเพื่อใช้ในการดูแลเรื่องนี้ ส่วนยาเสพติดอื่นๆก็อาจจะมีการลดโทษลงเช่นกัน เพราะทั้งหมดคือยาเสพติด แต่ก็ต้องให้มีระบบการทำงานที่ชัดเจนเสียก่อ ส่วนการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 เข้ามาช่วยแก้ไข

ขณะที่ นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการ อย. กล่าวว่า ในฐานะตัวแทน รมว.สาธาณสุข เห็นด้วยในหลักการในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ในแนวคดิที่มองว่าผู้เสพคือผู้ป่วย โดยส่วนนี้กระทรวงสาธารณสุขจะต้องมาดูในรายละเอียด ในการอ้างถึงสถานะของเมทเอมเฟตามีน รวมถึงความเข้าใจของประชาชนด้วย

"เราแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบเดิมมาต้งแต่ปี 2539 แต่ปริมาณยาเสพติดกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หน่วยงาน อย.เองเป็นหน่วยที่เก็บยาเสพติดเป็นจำนวนมากและเพิ่มขึ้นตลอด ถ้ามีอะไรใหม่ก็ต้องปรับให้สอดคล้องกัน"นพ.บุญชัย กล่าว

ข่าวล่าสุด

“ธรรมนัส” รับ ภูมิใจ ไทยเจ้าภาพจัดซีเกมส์ มอง คนไม่ทำงานไม่มีสิทธิ์วิจารณ์