posttoday

อังกฤษอาลัย ’โจ ค็อกซ์’ สะเทือนทิศทางเบร็กซิต

18 มิถุนายน 2559

เกิดเหตุสะเทือนขวัญทั่วโลกขึ้นอีกครั้ง เมื่อมือปืนบุกยิง โจ ค็อกซ์ สมาชิกรัฐสภาจากพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษ ทำให้โครงการรณรงค์การลงประชามติออกจากอียู ของอังกฤษต้องยุติลงชั่วคราว

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์

เกิดเหตุสะเทือนขวัญทั่วโลกขึ้นอีกครั้ง เมื่อมือปืนบุกยิง โจ ค็อกซ์ สมาชิกรัฐสภาจากพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษ เสียชีวิตในวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้โครงการรณรงค์การลงประชามติออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ของอังกฤษที่จะจัดขึ้นในวันที่ 23 มิ.ย. ต้องยุติลงชั่วคราวทั้งสองฝ่าย ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เหตุการณ์สลดครั้งนี้อาจจะส่งผลทางจิตวิทยาของชาวอังกฤษและเปลี่ยนทิศทางของผลการลงประชามติด้วยเช่นกัน

ค็อกซ์ สมาชิกรัฐสภาดาวรุ่งของพรรคแรงงาน วัย 41 ปี เป็นผู้มีบทบาทอย่างโดดเด่นในการเรียกร้องให้อังกฤษอยู่ในอียูและเป็นผู้รณรงค์สิทธิมนุษยชนของผู้อพยพจากซีเรีย ถูกยิง 3 ครั้งและถูกแทงจนเสียชีวิต เมื่อช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นที่ถนนในเมืองบริสตอล ทางตอนเหนือของอังกฤษ ระหว่างเตรียมเข้าสำนักงานในเขตเวสต์ยอร์กเชียร์ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการฆาตกรรมสมาชิกรัฐสภาครั้งแรกตั้งแต่ปี 1990

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจเขตเวสต์ยอร์กเชียร์ เปิดเผยว่าได้จับกุม โทมัส แมร์ ชายผู้ต้องสงสัย อายุ 52 ปี พร้อมอาวุธปืน โดยยังไม่ระบุแรงจูงใจที่ชัดเจน ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งระบุว่า เห็นชายคนดังกล่าวดักรอและหยิบอาวุธปืนขึ้นยิง

หนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียน รายงานอ้างพยานผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ผู้ก่อเหตุตะโกนว่า “อังกฤษมาก่อน (บริติช เฟิสต์)” ซึ่งเป็นชื่อกลุ่มรณรงค์ต่อต้านการรับผู้อพยพและต่อต้านการเป็นสมาชิกอียู ขณะที่เว็บไซต์ข่าว ดิ อินดิเพนเดนท์ รายงานว่า แมร์ เป็นสมาชิกกลุ่มสปริงบุ๊กคลับ เป็นองค์กรอนุรักษนิยมสุดขั้วที่ปกป้องอุดมการณ์ชาตินิยมผิวขาวในกรุงลอนดอน และได้ร่วมรณรงค์ให้อังกฤษออกจากอียูมานานหลายปี

ด้านนายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ ยกเลิกการเดินทางร่วมโครงการรณรงค์ให้อังกฤษอยู่ในอียู พร้อมกล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์สูญเสียครั้งสำคัญ โดยกลุ่มรณรงค์ทั้งสองฝ่ายได้ยุติกิจกรรมทั้งหมดเป็นวันที่ 2

นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะเพิ่มเสียงสนับสนุนโครงการอยู่ในอียู ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวทำให้ค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นต่อเหรียญสหรัฐ 0.1% อยู่ที่ 1.4218 เหรียญสหรัฐ/ปอนด์ เมื่อเวลา 14.52 น. ที่นิวยอร์ก หลังลดลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา จากผลสำรวจความคิดเห็นของบริษัทวิจัยตลาดทั้ง 5 แห่งพบว่า ฝ่ายโหวตสนับสนุนอียูมีคะแนนนิยมตามฝ่ายออกจากอียู สร้างความกังวลเศรษฐกิจต่อบรรดานักลงทุนทั่วโลกตลอดสัปดาห์ที่แล้ว

เช่นเดียวกับราคาทองคำก็ปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี หลังบรรดาเทรดเดอร์ คาดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเปลี่ยนทิศทางผลลงประชามติ ทำให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง โดยราคาทองคำงวดส่งมอบทันทีลดลง 0.4% อยู่ที่ 1,286.20 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวลือเกิดขึ้นว่าอาจจะมีการเลื่อนวันลงประชามติออกไป

โจ มานิมโบ นักวิเคราะห์หน่วยวิจัยของเวสเทิร์น ยูเนียน ระบุว่า ค่าเงินปอนด์ที่ปรับตัวขึ้นเป็นผลมาจากข่าวโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับค็อกซ์ ซึ่งเป็นผู้รณรงค์ในฝ่ายโหวตอยู่ในอียูอย่างแข็งขัน จึงเป็นไปได้ว่าอาจจะสร้างความเห็นใจและสนับสนุนฝ่ายให้อังกฤษโหวตอยู่ในอียู

ทั้งนี้ ตั้งแต่โครงการรณรงค์ต่อต้านการก่อการร้ายในไอร์แลนด์เหนือยุติลง เมื่อช่วงปี 1997 เหตุการณ์โจมตีสมาชิกรัฐสภาในอังกฤษเกิดขึ้นน้อยครั้งมาก ขณะที่กฎหมายควบคุมอาวุธปืนก็ถูกบังคับใช้อย่างเข้มงวด โดยเหตุการณ์ฆาตกรรมสมาชิกรัฐสภาอังกฤษครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อปี 1990

“เหตุโศกนาฏกรรมมักก่อให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวในหมู่ประชาชนที่แตกแยกได้ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่า เหตุการณ์นี้อาจจะเปลี่ยนทิศทางความเชื่อมั่นของชาวอังกฤษให้มาสนับสนุนการอยู่ในอียูได้” มาเซน อิสซา นักกลยุทธ์อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศอาวุโสของธนาคารโตรอนโตโดมิเนียน กล่าว

ข่าวล่าสุด

ก.ล.ต. มีคำสั่งอายัดทรัพย์สิน JKN หลังศาลยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ