posttoday

วิธีเก็บสถิติทางการท่องเที่ยว ของประเทศเพื่อนบ้าน

17 มิถุนายน 2559

โดย...ม.ล.สุรวุฒิ ทองแถม รองประธานอาวุโส ออนิกซ์ ออลพิทาลิตี้  

โดย...ม.ล.สุรวุฒิ ทองแถม รองประธานอาวุโส ออนิกซ์ ออลพิทาลิตี้  

ในหลายประเทศที่เศรษฐกิจของประเทศมีความจำเป็นจะต้องพึ่งพิงรายได้จากการท่องเที่ยว ผมเชื่อว่าสถิติตัวเลขต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งเขาจัดทำกันนั้น จะถูกนำใช้เพื่อการวางแผนพัฒนาทั้งภาพรวมของภาคเศรษฐกิจมหภาคและจุลภาค ภาคธุรกิจการลงทุนของเอกชนและรัฐวิสาหกิจ ภาคการพัฒนาสาธารณูปโภค รวมไปถึงภาคประชาชน สังคม การจ้างงาน การควบคุมมลภาวะและสิ่งแวดล้อม การจราจร รวมไปถึงกฎหมายระเบียบบ้านเมือง เพื่อความสงบสุข ความปลอดภัยในภาพรวมของประเทศ ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญในการดำรงอยู่ และเติบโตคู่ขนานไปกับภาพลักษณ์ของธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศนั้นๆ

วิธีการเก็บข้อมูลตัวเลขสถิติทางการท่องเที่ยวนั้น หากมีความถูกต้องตามความเป็นจริง ไม่มีนัยบางประการที่แอบแฝงไว้ รวมทั้งมีการแจกแจงข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องแบบรวมศูนย์แม้ว่าการจัดเก็บตัวเลขทางสถิตินั้นจะมาจากต่างหรือหลากหลายหน่วยงานของภาครัฐก็ตามที ตัวเลขสถิตินี้จะมีประโยชน์มากมายในด้านการตัดสินใจในการลงทุน การวิจัย การตลาด การขาย การโฆษณา หรือแม้กระทั่งการกำหนดราคาขายที่เหมาะสมของภาคเอกชน ทั้งสายการบิน เรือสำราญ โรงแรม การนำเที่ยว แพ็กเกจทัวร์ ค่าโดยสารยานพาหนะต่างๆ แก่นักท่องเที่ยวให้เหมาะสม กับต้นทุนของผู้ให้บริการกับกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวเป็นต้น

ประเทศแรกที่ผมเห็นว่า การจัดเก็บข้อมูลดังกล่าวนี้มีศักยภาพในการสะท้อนความเป็นจริงและมีรายละเอียดที่ดีพอสำหรับภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว คือประเทศสิงคโปร์ครับ ในหลักการเบื้องต้นของเขานั้นมีความชัดเจนว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เขานับนี้ จะนับเฉพาะผู้เดินทางท่องเที่ยวที่พำนักในประเทศสิงคโปร์น้อยกว่า 1 ปีเท่านั้น ดังนั้นตัวเลขของพนักงานในบริษัทข้ามชาติ องค์กรและสถานทูตต่างประเทศจะไม่ค่อยมีมาปะปนมากนักครับ นอกจากนี้ที่สำคัญอีกประการหนึ่งเขาไม่นับนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียที่ข้ามพรมแดนเข้าประเทศมาทางถนนแต่อย่างใด อีกทั้งยังไม่มีการนับคนสิงคโปร์ที่เดินทางกลับประเทศรวมถึงชาวต่างชาติผู้มีถิ่นพำนักถาวรในสิงคโปร์ อีกทั้งไม่นับลูกเรือเครื่องบินโดยสาร เรือสำราญ เรือพาณิชย์และผู้โดยสารที่เดินทางผ่านประเทศ หรือแวะพักที่สนามบิน

ดังนั้น ตัวเลขสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติของสิงคโปร์ จึงน่าที่จะสามารถนำไปแยกแยะในรายละเอียด รวมไปถึงนำไปต่อยอดทางธุรกิจในแวดวงการท่องเที่ยวได้ค่อนข้างดี แม้ว่าสิงคโปร์จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวในปริมาณน้อยกว่าไทยโดยในปี 2015 มีนักท่องที่ยวทั้งสิ้น 15,231,469 คน แยกเป็นเข้ามาทางอากาศ 11,831,414 เป็น 77% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด เข้ามาทางเรือ 1.6 ล้านคนเศษ คิดเป็น 10% ที่เหลือเป็นนักท่องเที่ยวที่เข้าทางรถยนต์จำนวน 1.7 ล้านคนเศษ ประมาณ 11% สำหรับนักท่องเที่ยว 5 อันดับแรก คือ อินโดนีเซีย 2.7 ล้านคนเศษ จีนตามมาลำดับสอง 2.1 ล้านคน มาเลเซีย ออสเตรเลีย และอินเดียประมาณ 1 ล้านคนเศษ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดมีอัตราการเติบโตเมื่อเทียบกับปี 2014 เพียง 0.9% ครับ

สำหรับอีกประเทศเพื่อนบ้านของไทยและสิงคโปร์ คือมาเลเซียนั้นค่อนข้างมีความสมบูรณ์ของสถิติข้อมูลในเชิงลึกและข้อมูลเชิงสรุป อาทิ สถิติย้อนหลังของจำนวนนักท่องเที่ยวตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ตัวเลขดัชนีชี้วัดของการเติบโตและถดถอยในข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว อย่างเช่น ประเทศที่มาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่อคน จำนวนโรงแรม จำนวนห้องพัก อัตราเข้าพักเฉลี่ย รวมไปถึงระยะเวลาเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พำนักในประเทศ ในปี 2015 ที่ผ่านมา ตัวเลขจากการเก็บสถิติของการท่องเที่ยวมาเลเซีย มีนักท่องเที่ยว 25,721,251 คน ซึ่งถือว่าไม่น้อยเหมือนกัน ไล่ตามบ้านเรามาติดๆ เชียวนะครับ

แต่อย่างไรก็ตาม วิธีการนับจำนวนนักท่องเที่ยวของเขา แตกต่างกว่าสิงคโปร์แต่ใกล้เคียงกับบ้านเรา คือมาเลเซียนั้นนับจำนวนนักท่องเที่ยวจากสิงคโปร์เพื่อนบ้านติดกันที่มีจำนวนมากถึง 50% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดในแต่ละปีเข้าไปด้วย จึงทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวทั้งหมดดูจะมีจำนวนที่แตกต่างไม่มากนัก ที่สำคัญนักท่องเที่ยวจากจีนไม่มีมากเหมือนประเทศไทย นักท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของเขาถ้าไม่นับสิงคโปร์ คืออินโดนีเซียครับ นอกจากนี้ทางการมาเลเซียยังมีการเก็บข้อมูลและสถิติต่างๆ ของนักท่องเที่ยวต่างชาติตามเขตเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ อีกด้วย เพื่อความสะดวกในการค้นหาข้อมูลในการพัฒนา การลงทุนทางการท่องเที่ยวของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน

คราวนี้ลองมาพิจารณาของประเทศที่เชื่อกันว่าจะเป็นดาวรุ่งของการท่องเที่ยวในทศวรรษหน้า ไม่ใช่ใครอื่นครับเพื่อนบ้านใกล้ชิดของเราเอง ประเทศเมียนมาครับ ในทัศนะของผมนั้นผมค่อนข้างชื่นชอบวิธีการเก็บข้อมูลและแจกแจงในรายละเอียดของตัวเลขสถิติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวของเขามาก ดังเช่น มีจำนวนมัคคุเทศก์ที่ได้รับใบอนุญาตแยกเป็นผู้ที่สามารถใช้ภาษาในการสื่อสารต่างๆ ทั้งภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น สเปน ฝรั่งเศส แต่ละภาษาเป็นจำนวนเท่าใด หรือจำนวนยานพาหนะที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการท่องเที่ยว เช่นรถโดยสารขนาดใหญ่ กลาง เล็ก เรือสำราญ หรือแม้กระทั่งบอลลูนที่ใช้ความร้อนในการขับเคลื่อนชมวิวทิวทัศน์ครับ

นอกจากนี้ ยังมีสถิติทางการลงทุนของกลุ่มนายทุนจากต่างประเทศในธุรกิจสถานที่พักว่ามาจากประเทศใดบ้าง เป็นโรงแรมหรืออพาร์ตเมนต์กี่แห่ง มูลค่ารวมเป็นเงินเท่าใด และที่สำคัญจำนวนที่พักและห้องพักที่มีอยู่แล้วมีจำนวนเท่าใด ยกตัวอย่างเช่นในปี 2015 ที่ผ่านมา ในประเทศเมียนมา มีสถานที่พัก 1,279 แห่ง มีห้องพักรวมทั้งสิ้น 49,946 ห้อง โครงการใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นมี 48 แห่ง จำนวนห้องพัก 9,132 ห้อง รวมมูลค่าโครงการใหม่ทั้งหมดมีมูลค่า 2,678 ล้านเหรียญสหรัฐ นักลงทุนจากสิงคโปร์เป็นอันดับหนึ่ง มี 21 โครงการ รองลงมาคือไทยมี 10 โครงการ เวียดนาม มีแค่ 1 โครงการ แต่มูลค่าการลงทุนสูงกว่าไทย เป็นต้น และที่ผมขอชื่นชมข้อมูลทั้งหมดนี้อยู่บนกระดาษเพียงแค่สองแผ่นเท่านั้นครับ ดูและเข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน

ส่วนอีกประเทศนั้นแม้จะเป็นประเทศเล็กอยู่ข้างๆ บ้านเราคือ สปป.ลาว นั้นก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่สร้างสรรค์การเก็บสถิติตัวเลขทางการท่องเที่ยวได้ดีไม่แพ้ใคร มีรายละเอียดของนักท่องเที่ยวที่เข้ามา ทั้งมาพำนักค้างคืน และไปเช้าเย็นกลับ สามารถแยกประเภทของผู้เดินทางที่ใช้พาสปอร์ตและใบผ่านแดน นักเดินทางท่องเที่ยวที่เข้าลาวมากที่สุดคือ คนไทยกับชาวเวียดนามเพราะมีประชากรมาก มีพรมแดนติดกัน การไปมาหาสู่มีทั้งเข้าไปเที่ยวและการค้าชายแดน ซีงทำให้ตัวเลขสถิติแยกแยะผู้พักค้างคืนและเข้าประเทศตอนเช้าออกตอนเย็นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เชื่อมโยงไปสู่ภาคการลงทุนในทั้งภาครัฐและเอกชนครับ แนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อัตราการเติบโตที่น่าสนใจนอกเหนือไปจากไทยและเวียดนามแล้ว ก็มี เกาหลี จีน ฝรั่งเศส โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและผจญภัยที่รัฐบาลลาวกำลังส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของประเทศ “วังเวียง” ที่อยู่ห่างจากเวียงจันทน์ ประมาณแค่ระยะทางจากกรุงเทพฯ-หัวหิน กำลังได้รับความนิยมมากในกลุ่มนักท่องเที่ยวจากสามประเทศหลังนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ครับ

สำหรับสถิติตัวเลขทางการท่องเที่ยวของไทยนั้น นับว่าดำเนินการเก็บได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ถ้าหากจะนำมาพิจารณาจัดทำรูปแบบใหม่ มีข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น อาทิ แยกแยะจำนวนนักเดินทางผ่านทางชายแดนที่มาเช้าเย็นกลับ โดยเฉพาะ ชาวลาว ชาวกัมพูชา ชาวเมียนมา และชาวมาเลเซียที่เข้ามาทำการค้าขายชายแดน มีข้อสรุปประเด็นสำคัญๆ มีการรวมศูนย์ของแหล่งที่มาของข้อมูลจากต่างหน่วยงาน อาทิ ตัวเลขการลงทุนสถานที่พักโรงแรมใหม่จากบีโอไอ จำนวนโรงแรมที่ได้รับใบอนุญาตจากกรมการปกครอง ข้อมูลประเภทจุดประสงค์ของการเข้าเมืองว่าเป็นนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ มาเยี่ยมญาติ หรือเป็นผู้เข้าร่วมประชุมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวนสำนักงานตัวแทนท่องเที่ยวที่ถูกต้องตามกฎหมายจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นต้น ตัวเลขและสถิติทางการท่องเที่ยวของประเทศไทยจะมีความสมบูรณ์ดีมากขึ้นกว่าในปัจจุบันครับ

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ