posttoday

ชุดพยัคฆ์ไพรลุยจับแก๊งลอบตัดไม้แปรรูปในป่าน่าน

16 มิถุนายน 2559

น่าน-ชุดพยัคฆ์ไพรลุยจับแก๊งลอบตัดไม้แปรรูปในป่าสงวนป่าไม้วางกำลังลาดตระเวนตั้งจุดสกัดป้องกันลักลอบลำเลียงหลุดรอดออกไป

น่าน-ชุดพยัคฆ์ไพรลุยจับแก๊งลอบตัดไม้แปรรูปในป่าสงวนป่าไม้วางกำลังลาดตระเวนตั้งจุดสกัดป้องกันลักลอบลำเลียงหลุดรอดออกไป
 
เมื่อ16 มิ.ย. 59 เวลา 08.00 น. นายนิทรรศ  เวชวินิจ  ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่  พร้อมด้วย นายชัยรัตน์ แสงปาน ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่นำกำลังชุดพยัคฆ์ไพรจำนวนกว่า 50 นาย เข้าบุกจับกลุ่มมอดไม้ที่กำลังลักลอบตัดไม้ชิงชันในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าต้นน้ำสา แม่สาคร  ท้ายหมู่บ้านบ่อหอย หมู่ 6 ต.ตาบหัวนา  อ.เวียงสา จ.น่าน  โดยพบมีการลักลอบตัดไม้ชิงชัน จนเหลือแต่ตอ เป็นบริเวณกว้าง และพบไม้ชิงชันถูกตัดแปรรูปในป่าเป็นท่อนเหลี่ยม หน้ากว้าง 30-40 เซนติเมตร ยาว 3 เมตร จำนวน 20 ท่อน วางเรียงเตรียมขนย้าย  และเลื่อยโซ่ยนต์ 1 เครื่อง ส่วนกลุ่มผู้กระทำผิดได้ไหวตัวใช้ความชำนาญพื้นที่วิ่งหลบหนีไป

นายนิทรรศ  เวชวินิจ  ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่  เปิดเผยว่า หลังนำฮอลิคอปเตอร์กระทรวงทรัพยากร ขึ้นบินสำรวจผืนป่าที่มีการลักลอบตัดไม้ และมีการบุกรุกใหม่หลังปี พ.ศ.2557  พบมีการบุกรุกป่าใหม่ในพื้นที่ตำบลบ่อ อ.เมืองน่าน และที่บ้านนาก้า,บ้านฮากฮาน และบ้านบ่อหอย ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา  โดยเฉพาะที่บ้านบ่อหอยนั้น เป็นพื้นที่เสี่ยง ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากป่าต้นน้ำสา แม่สาคร มีพื้นที่กว่า 2 แสนไร่  มีทรัพยากรป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะไม้ชิงชัน ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดมืด ประกอบกับราคาที่สูง จึงเป็นที่หมายตาของเหล่ามอดไม้ และนายทุน ซึ่งหลังจากนี้จะส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปลาดตระเวนตรวจตราภายในพื้นที่ป่าอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการลักลอบตัดไม้ และตั้งจุดตรวจสกัดกั้นเส้นทางรอยต่อระหว่างจังหวัด จุดเสี่ยงที่จะใช้ในการลักลอบลำเลียงไม้ออกจากพื้นที่ป่า  เพื่อป้องกันไม่ให้ลักลอบลำเลียงไม้หลุดรอดออกไปได้   รวมทั้งการทำความเข้าใจกับกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ให้เห็นถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการตัดไม้ทำลายป่า  เนื่องจากต้องยอมรับว่าปัจจุบันกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้ส่วนหนึ่งก็เป็นคนในพื้นที่ซึ่งเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวบางกลุ่ม

ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้นำชุมชนจะต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้านกลุ่มนี้ ควบคู่ไปกับการกระตุ้นจิตสำนึกให้ประชาชนในพื้นที่รู้จักรักและหวงแหนในทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ เป็นกำลังเสริม ช่วยเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ เพื่อปกป้องผืนป่าให้ยังคงอยู่คู่กับประเทศชาติไปจนถึงลูกหลานรุ่นต่อไป

ข่าวล่าสุด

อีลอน มัสก์ สร้างสถิติเป็นคนแรกของโลกที่รวยเกิน 700,000 ล้านดอลลาร์