เล็งฉีกสัญญาเขมร ลากล้ำแดนเกาะกูด

นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ตอบกระทู้ถามในการประชุมวุฒิสภาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชาในอ่าวไทยว่า จากนี้ไปจะพิจารณาแถลงการณ์ร่วมไทยกัมพูชา พ.ศ. 2544 ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ลงนามร่วมกับนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เนื่องจากมีการลากเส้นแบ่งเขตผิด ทำให้ไทยเสียประโยชน์ จึงได้วางแนวทางดำเนินการ คือ ขีดเส้นแบ่งชายฝั่งเพื่อให้เกิดความชัดเจน และลากหาเส้นตรงกลางระหว่าง 2 ประเทศ และสุดท้ายหาเส้นแบ่งผลประโยชน์ร่วมกันระหว่าง 2 ประเทศ

ทั้งนี้ นายคำนูณ สิทธิสมาน สว.สรรหา ตั้งกระทู้ว่า การยกเลิกเอ็มโอยูปี 2544 ยังไม่พอ ต้องยกเลิกแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวด้วยเพราะถือเป็นคู่แฝดกัน ซึ่งหนังสือสัญญาทั้งสองฉบับน่าจะทำให้ไทยเสียเปรียบเพราะกัมพูชาได้ลากเส้นแบ่งเขตโดยเริ่มจาก จ.ตราด ผ่ากลางหรืออ้อมเกาะกูด ซึ่งเป็นการรุกล้ำเขตอธิปไตย 12 ไมล์ทะเลของไทย

นายกษิตชี้แจงประเด็นกระแสข่าวการแบ่งผลประโยชน์ปิโตรเลียมในพื้นที่ดังกล่าวว่า ไม่มีการแบ่งผลประโยชน์ให้กัมพูชา 90% และไทย 10% แต่อย่างใด การเจรจา 2 ครั้งที่ผ่านมาอยู่ขั้นตอนการแสดงท่าทีของทั้งสองฝ่าย ยังไม่มีเรื่องการแบ่งผลประโยชน์

นายกษิต กล่าวอีกว่า กรณีรัฐบาลกัมพูชาให้สัมปทานบริษัท โตตาล ประเทศฝรั่งเศส สำรวจแหล่งปิโตรเลียมในพื้นที่ดังกล่าวนั้น บริษัท โตตาล ยังยืนยันในสิทธิของทั้งสองประเทศ จะยังไม่มีการสำรวจในพื้นที่พิพาทแต่อย่างไร ฝ่ายไทยจึงไม่ได้เสียประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น และกองทัพเรือได้ส่งเรือรบออกลาดตระเวนบริเวณดังกล่าวทุกวัน