โจรบุกปล้นธนาคารในห้างสรรพสินค้ากวาดเงิน 4.2 แสนหนี
อุดรธานี - คนร้ายสวมหมวกกันน็อคใช้ปืนบุกปล้นธนาคารในห้างสรรพสินค้ากลางวันแสกๆ ชิงเงิน 4.2 แสนขึ้นจักรยานยนต์หลบหนี
อุดรธานี - คนร้ายสวมหมวกกันน็อคใช้ปืนบุกปล้นธนาคารในห้างสรรพสินค้ากลางวันแสกๆ ชิงเงิน 4.2 แสนขึ้นจักรยานยนต์หลบหนี
เมื่อวันที่ 22 พ.ค. เวลา 13.30 น. ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุ คนร้ายสวมหมวกกันน็อคเต็มใบสีดำ ใช้อาวุธปืนบุกเข้าชิงเงินในธนาคารกรุงเทพ สาขาห้างโลตัส ตลาดรังสินา เขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังก่อเหตุได้ซ้อนรถจักรยานยนต์ที่มีคนร้ายอีกคนขี่มาจอดรอหลบหนีไปทางถนนรอบเมืองมุ่งหน้าไปทาง จ.หนองบัวลำภู หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมแจ้งกำลังตำรวจสายตรวจ ออกสกัดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี
จากนั้น พ.ต.อ.ธวัชชัย ถุงเป้า รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.ท.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมกำลังตำรวจสายตรวจ และชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี และ ชุดสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยธนาคาร กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุมีลูกค้าอยู่ประมาณ 6-7 คน มีคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อค เสื้อลายสก็อตสีดำแดง เดินเข้ามาหาตน พร้อมถือปืนสั้นไม่ทราบขนาดชี้กวาดไปให้ทุกคนหมอบลงกับพื้น จากนั้นคนร้ายได้เข้ามาค้นอาวุธที่ร่างกายของตน แต่ตนไม่ได้พกอาวุธ ซึ่งขณะนั้นเจ้าหน้าที่ประจำเคาน์เตอร์ธนาคาร ได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในห้องด้านข้างแล้ว
"จากนั้นคนร้ายได้กระโดดเข้าไปบนเคาน์เตอร์รับฝากถอนเงิน และค้นลิ้นชักเก็บเงิน กวาดเอาเงินใส่กระเป๋าสะพายข้าง ก่อนจะกระโดดออกมาจากเคาน์เตอร์ และวิ่งหลบหนีออกไปจากห้าง โดยมีคนร้ายอีกคนสวมหมวกกันน็อคติดเครื่องรถจักรยานยนต์จอดรอ และได้ขี่หลบหนีออกไป ทางด้านหน้าถนนรอบเมือง ที่มุ่งหน้าไปยัง จ.หนองบัวลำภู"เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภับระบุ
ต่อมาตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดอุดรธานี ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของธนาคาร พบว่า คนร้ายเป็นชาย สูงประมาณ 165-170 ซม. สวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบ ใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 2.30 นาที ได้เงินสดไป 384,000 บาท และเงินสกุลยูโร 1,000 ยูโร คิดเป็นเงินไทย 39,400 บาท
พ.ต.อ.ธวัชชัย กล่าวว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดย้อนหลังก่อนเกิดเหตุที่คาดว่าคนร้ายจะต้องเข้ามาดูลาดเลาก่อนลงมือ รวมทั้งให้เก็บภาพกล้องวงจรปิดทุดจุดภายในธนาคาร ภายในห้าง และตามร้านค้าต่าง ๆ ที่มีภาพคนร้าย รวมทั้งกล้องวงจรปิดด้านนอกถนนรอบเมือง เพื่อหาเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจทุกชุดกำลังเร่งติดตามตัวคนร้าย และวันที่ 23 พ.ค.จะรีบประชุมชุดสืบสวน เพื่อหาแนวทางติดตามจับกุมคนร้าย รวมถึงการตรวจว่าอาวุธปืนเป็นปืนชนิดใด พร้อมกับประสานไปยังธนาคารต่าง ๆ ที่คนร้ายอาจจะนำเงินยูโรไปแลก หากสถาบันการเงินใด ที่มีผู้นำเงินสกุลยูโรไปแลก ขอให้แจ้งทางตำรวจทราบ เพื่อจะเข้าไปทำการตรวจสอบทันที


