posttoday

พระมหามนัสจากสุพรรณสานปณิธานหลวงพ่อมงคล ในสหรัฐอเมริกา

08 สิงหาคม 2553

หลวงพ่อมงคล

เมื่อประมาณ 40 ปีที่แล้ว ในวงการพระสงฆ์ระดับเกจิอาจารย์ชั้นผู้ใหญ่ที่มีผู้ให้ความเคารพนับถือทุกระดับ ตั้งแต่ชั้นสูงลงมาถึงประชาชนหาเช้ากินค่ำ ไม่มีรูปใดเกินพระครูพุทธมนต์วราจารย์ (สุพจน์ โชติปาโล) คณะ 3 วัดสุทัศนเทพวราราม เพราะไม่ว่าการนั่งปรก ปลุกเสก การทำน้ำพระพุทธมนต์ กล่าวกันว่าศักดิ์สิทธิ์เป็นที่ศรัทธาของปวงชน หรือแม้กระทั่งการสวดขัดตำนาน หรือบทสวดมนต์ต่างๆ กังวานเสียงของท่านจับใจผู้ฟังและชาวพุทธยิ่งนัก

ด้วยบารมีแก่กล้าเช่นนี้ เมื่อได้รับการสถาปนาเป็นพระราชาคณะชั้นสูงขึ้นไปเป็นลำดับ ตั้งแต่ชั้นสามัญถึงพระราชาคณะชั้นเทพ (ซึ่งเป็นชั้นสุดท้าย) จะมีคำ วิ. (วิปัสสนาจารย์) อยู่ท้ายสมณศักดิ์เสมอ เช่นสมณศักดิ์ล่าสุดที่พระมงคลเทพโมลี วิ แต่ลูกศิษย์เรียกว่าหลวงพ่อมงคล (ปัจจุบันมรณภาพแล้ว)

ท่านเป็นพระเถระผู้หนึ่งที่เป็นผู้บุกเบิกการเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสหรัฐอเมริกาในยุคแรก เริ่มจากเป็นเลขาฯ พระธรรมทูตไทยไปประจำที่วัดไทยแอลเอ ต่อมาได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าพระธรรมทูตไปประจำที่วัดไทยลอสแองเจลิส รุ่นที่ 2 ต่อจากพระมหาโสบิน โสปาโก ที่เป็นหัวหน้ารุ่นที่ 1

ในปี 25202521 เมื่อเทอมการเป็นหัวหน้าสงฆ์วัดไทยแอลเอจะสิ้นสุดลง ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่พระมงคลราชมุนี จึงร่วมกับชาวพุทธหาที่สร้างวัดขึ้นมาใหม่ในซานฟรานซิสโก เบย์ อาเรีย เริ่มจากเช่าบ้านเป็นวัด ปี 2521 มีพระประจำ 2 รูป ปี 2522 เพิ่มอีก 2 รูป รวมทั้งพระมงคลราชมุนีในฐานะประธานอำนวยการสร้างวัดมงคลรัตนาราม ปีนั้นเองสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์) เสด็จมาเปิดป้ายสำนักสงฆ์วัดมงคลรัตนาราม เลขที่ 794 Grand Ave So, Sanfrancisco,California เป็นการเริ่มต้นวัดตระกูลมงคลนับแต่นั้นมา แต่วัดที่ว่าก็คับแคบในเวลาต่อมา จึงซื้อบ้านและอาคารเลขที่ 1911 Russell Street, Berkeley เป็นอาคารเก่าหลังใหญ่ มีหลายห้อง มีบริเวณกว้างขวาง แบ่งเป็นเขตพุทธาวาสและสังฆาวาสได้เป็นสัดส่วน เป็นที่ตั้งวัดถาวรนับแต่นั้นเป็นต้นมา

หลวงพ่อมงคล ในฐานะประธานจัดสร้างได้สร้างวัดในเครือเพิ่มอีกหลายวัด นอกจากวัดมงคลรัตนาราม เบอร์กเลย์ แล้วก็ได้แก่ วัดมงคลรัตนาราม เมืองเทมปา รัฐฟลอริดา วัดศรีรัตนาราม เมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี วัดพุทธจักรมงคลวราราม เพิร์ลซิตี รัฐฮาวาย วัดพุทธจักรมงคลรัตนาราม เมืองซานดิเอโก และวัดมงคลรัตนาราม เมืองฟอร์ทวอลตัน บีช ฟลอริดา

แต่ละวัดมีประธานสงฆ์ที่ได้รับมอบหมายให้บริหารจัดการร่วมกับคณะกรรมการฝ่ายอื่นๆ จึงดำเนินการไปด้วยดี

พระมหามนัสสานต่อปณิธาน

กล่าวเฉพาะวัดมงคลรัตนาราม เบอร์กเลย์ ที่เป็นวัดต้นแบบที่พระมงคลเทพโมลี (สุพจน์) สร้าง เมื่อท่านมรณภาพ ได้พระมหามนัส อพฺภาจารสมฺปนฺโน จากวัดสุวรรณภูมิ จ.สุพรรณบุรี มาเป็นเจ้าอาวาสแทน

การที่ พระมหามนัส ได้เป็นเจ้าอาวาส แทน จึงถือว่าไม่ธรรมดา เพราะเท่ากับว่าเข้ามาทำหน้าที่แทน หรือสานเจตนารมณ์พระมงคลเทพโมลี อดีตเจ้าอาวาส ทั้งๆ ที่เป็นพระที่มาจากเมืองสุพรรณบุรี ทำไมจึงได้โอกาสนี้ ท่านเล่าให้ฟังเมื่อผมสัมภาษณ์ท่านที่วัดในเบอร์กเลย์ ซานฟรานซิสโก ดังนี้

อยู่อเมริกาโดยไม่ตั้งใจ

ท่านเล่าถึงการที่มาอยู่สหรัฐอเมริกาจนกระทั่งได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดแห่งแรกในซานฟรานซิสโก ว่า เนื่องจากพระมงคลเทพโมลี เจ้าอาวาสไว้วางใจให้มาปฏิบัติงานหลังจากเรียนจบพุทธศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เมื่อ พ.ศ. 2530 โดยตั้งใจจะมาอยู่เพียง 5 ปีแล้วกลับไทยเพื่อไปเรียนต่อที่ประเทศอินเดีย หรือมิเช่นนั้นก็ลาสิกขา

ในช่วงที่มาช่วยงานที่สหรัฐนี้ หลวงพ่อเดินทางกลับไทยแต่ละครั้งไปอยู่นานมาก ทำให้ขาดคนดูแลและประสานงาน ในขณะที่ญาติโยมก็ต้องการพระ จึงต้องช่วยงานไปเรื่อยๆ หลังจากนั้นหลวงพ่อเกิดอาพาธ ท่านจึงต้องทำหน้าที่แทน พร้อมกับลงไปปฏิบัติและดูแลหลวงพ่อที่เมืองไทย จนกระทั่งหลวงพ่อมรณภาพปี 2551 จึงได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เจ้าอาวาส รวมเวลาที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาแบบไม่ตั้งใจเป็นเวลานานถึง 22 ปี

พระมหามนัส อพฺภาจารสมฺปนฺโน เป็นพระสังกัด สำนักวัดสุวรรณภูมิ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี แต่มารับใช้ใกล้ชิดพระมงคลเทพโมลี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามและเจ้าอาวาสวัดมงคลรัตนาราม เมื่อมาเป็นพระอาคันตุกะคณะ 3 วัดสุทัศน์ เพื่อเรียนต่อมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

การได้อยู่ด้วยกันนานๆ จึงได้รับความไว้วางใจให้ช่วยงานหลายอย่างตั้งแต่อยู่เมืองไทย รวมทั้งได้ซึมซับวัตรปฏิบัติหลายอย่างจากพระมงคลเทพโมลีมาบริหารงาน เช่น ดำเนินการต่างๆ ตามหลัก หรือคาถาที่หลวงพ่อมอบให้ ได้แก่ ความกตัญญูกตเวที คิดดี พูดดี และทำดีเสมอ

ท่านเกิดวันที่ 5 เม.ย. 2496 ที่หมู่บ้านบึงคา ต.สาลี อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เป็นเด็กวัดและบรรพชาอุปสมบทที่วัดสุวรรณภูมิ อ.เมืองสุพรรณบุรี จึงเรียนที่วัดนั้นตั้งแต่นักธรรมชั้นตรีถึงสอบบาลีได้ ป.ธ. 5 รวมเวลาที่อยู่สำนักนี้ 10 ปี โดยเป็นศิษย์ใกล้ชิดหลวงพี่ใหญ่ หรือเจ้าคุณพระสุวรรณโมลี (พระมหาพิมล) อดีตอาจารย์ใหญ่สำนักเรียนวัดสุวรรณภูมิ

เมื่อเข้ากรุงเทพฯ มาเรียน มจร. จบรุ่นที่ 32 พ.ศ. 2529 อันเป็นรุ่นสุดท้ายสำหรับหลักสูตรเก่าที่ต้องเรียน 200 หน่วยกิต จบก็มาอยู่สหรัฐอเมริกา เริ่มปี 2530 เป็นเวลา 22 ปี ถึงปัจจุบัน

สานปณิธาน

เมื่อได้รับมอบหมายให้บริหารวัดแทนพระมงคลเทพโมลี ได้สานต่อปณิธานของท่านหลายอย่าง เช่นรักษาที่ท่านสร้างไว้ดีแล้ว ได้แก่กิจกรรมของวัดที่หลวงพ่อเคยทำไว้ เช่น จัดงานวันเทศกาลสำคัญของไทยและของศาสนา ทุกรายการ นอกจากนั้นก็เป็นกิจกรรมอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือลูกหลานคนไทยมาเรียนเรื่องไทย วัฒนธรรมและดนตรีไทย เปิดโรงเรียนซัมเมอร์เพื่อสอนภาษาไทย ส่วนที่ขาดได้ทำเพิ่ม เช่น การพัฒนาวัดให้มีเสนาสนะเพียงพอ เป็นต้น

งานเผยแผ่พระศาสนา ได้จัดกิจกรรมหลายอย่าง เช่น จัดเทศน์มหาชาติ การแสดงธรรมโปรดญาติโยมทุกวันอาทิตย์ แนะนำญาติโยมนั่งวิปัสสนากรรมฐาน รวมทั้งอำนวยความสะดวกแก่ชาวอเมริกันที่สนใจมาเรียนและนั่งกรรมฐานในวัด เพราะทุกวันอาทิตย์จะมีญาติโยมเข้าวัดเฉลี่ยประมาณ 30 คน หากเป็นงานเทศกาลก็นับเป็นร้อยคน

ฟู้ดคอร์ต

กิจกรรมเด่นของวัด ซึ่งได้รับยกย่องและรับเชิญให้ไปร่วมกิจกรรมกับสังคมและชุมชนอเมริกันเสมอ คือการแสดงดนตรีและนาฏศิลป์ เพราะมีผู้แสดงที่มีความสามารถสูง ด้วยว่ามีครูอาชีพด้านดนตรี/นาฏศิลป์ไทยจากมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยามาสอนให้เป็นประจำทุกปี

เรื่องเด่นที่วัดส่งเสริมจนเป็นที่กล่าวถึงในเบอร์กเลย์คือการทำอาหาร หรือฟู้ดคอร์ตที่จัดทุกวันอาทิตย์ จนกระทั่งกลายเป็นวันที่รอคอยของหลายๆ คน

ท่านบอกว่าการทำฟู้ดคอร์ตเริ่มจากจุดที่ไม่ได้ตั้งใจที่จะเปิดบริการเป็นกิจจะลักษณะ แต่ทำเพื่อการเรียนรู้และสนองตอบกับคนกลุ่มเล็กๆ แต่กลายเป็นที่นิยมชมชอบของประชาชนในระยะต่อมา เจ้าหน้าที่รัฐและซิตีก็สนับสนุนส่งเสริมให้ขอใบอนุญาตประกอบการอย่างเป็นทางการ เพื่อป้องกันการร้องเรียนของประชาชนคนอเมริกัน ที่มักอ้างว่าไปทำลายความเป็นส่วนตัวของพวกเขา เมื่อทำ Public Hearing หรือประชาพิจารณ์ จึงได้รับการสนับสนุน แม้กระทั่งอดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ เมื่อยังมีชีวิตอยู่ยังโหวตสนับสนุนทำความปลื้มใจให้ชาววัดมงคลรัตนารามมาก แม้ว่าจะผ่านประชาพิจารณ์ ยังมีประชาชนชาวบ้านข้างเคียงร้องเรียนบ้าง เพราะคนมากันมาก จนกระทั่งหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal มาขอสัมภาษณ์

ท่านยังกล่าวว่ากิจกรรมด้านอาหารที่วัดสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลไทยโดยบังเอิญ เมื่อรัฐบาลสมัยหนึ่งส่งเสริมครัวไทยสู่ครัวโลก กิจกรรมของวัดเท่ากับส่งเสริมนโยบายรัฐบาลไทยโดยไม่ได้ตั้งใจ

บทบาทพระธรรมทูต

เมื่อพูดถึงบทบาทพระธรรมทูต ท่านบอกว่าที่วัดนี้มีพระธรรมทูตประจำ 5 รูป แต่ละรูปช่วยงานวัดหลายอย่าง และเป็นไปตามที่ได้รับมอบหมาย พระธรรมทูตบางรูปอยู่นาน 78 ปีก็มี แต่บางรูปอยู่ไม่นาน กลับไทยไปลาสิกขาแล้วกลับมาใหม่ ไม่เข้าวัด เพราะได้ใบเขียวสามารถหางานทำในอเมริกาได้ กรณีแบบนี้วัดเสียหายเพราะก่อนจะมาตกลงกันแน่นอน วัดจ่ายค่าดำเนินการด้านเอกสารขอวีซ่า รวมทั้งจ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน พร้อมทั้งออกหนังสือรับรองรับประกันให้ แต่มาอยู่ไม่นานญาติโยมวัดบ่นว่าเอาผ้าเหลืองมาแลกใบเขียวก็มี และวัดก็เสียความรู้สึก

เรื่องนี้เกิดล่าสุดเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ท่านที่ว่านี้เป็นพระธรรมทูตได้ใบเขียวหลังจากมาอยู่ได้ 2 ปี กลับไทยไปลาสิกขาโดยไม่แจ้งให้ทราบอีกด้วย ลาสิกขากลับมาก็อยู่ไม่ไกลวัด ทำอาชีพที่คนเริ่มอาชีพที่นี่ทำ คือทำงานร้านอาหาร ท่านจึงไม่อยากเห็นเรื่องนี้เกิดขึ้นในอนาคต

ตัวท่านนั้นนอกจากทำตามปณิธานหลวงพ่อพระมงคลเทพโมลีแล้ว ต้องการเห็นพระธรรมทูตที่มาประจำในสหรัฐอเมริกามีศักยภาพด้านภาษา ถ่ายทอดคำสอนและเทศนาเป็นภาษาที่ฝรั่งเข้าใจได้ดี หากทำได้จะเป็นประโยชน์ในการเผยแผ่มากๆ

พระที่ผ่านการอบรมพระธรรมทูตรู้ตัวว่ามีความสามารถดังกล่าวติดต่อมาได้เลย ยินดีต้อนรับ เพราะพระธรรมทูตที่มารักษาศรัทธาญาติโยมนั้นมีมากแล้ว

ข่าวล่าสุด

ALATi “สยาม เคมปินสกี้” เมดิเตอร์เรเนียนโมเมนต์ สำหรับวันธรรมดาที่สุดพิเศษ