โรงรับจำนำตุนเงิน รับเปิดเทอมใหม่

โรงรับจำนำรัฐตุนเงิน 500 ล้าน รองรับผู้ปกครองแห่ใช้บริการต้อนรับเปิดเทอม

นายมานะ เกลี้ยงทอง ผู้อำนวยการสำนักงานธนานุเคราะห์ (โรงรับจำนำของรัฐ) เปิดเผยว่า ในช่วงเปิดเทอมได้เตรียมวงเงินประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อที่จะสำรองให้ประชาชนมาใช้บริการจำนำเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายค่าเล่าเรียนบุตรหลานในช่วงเปิดเทอม

ทั้งนี้ ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นผู้ปกครองหรือนิสิตนักศึกษาก็สามารถมาใช้บริการได้ โดยให้สิทธิประชาชนอย่างเท่าเทียม และไม่ต้องใช้เอกสารหลักฐานเกี่ยวกับค่าเล่าเรียนการศึกษามาเป็นหลักฐาน อีกทั้งยังคงนโยบายว่าเป็นโรงรับจำนำที่อัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุด

“ในช่วงเปิดเทอมจะมีลูกค้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นจากปกติประมาณ 20% โดยส่วนใหญ่ยังนำทองคำมาจำนำ ส่วนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ส่วนใหญ่ลูกค้าจะมาไถ่ถอนทองคำออกเพื่อนำกลับไปภูมิลำเนา และหลังจากกลับจากเทศกาลสงกรานต์แล้วก็จะนำมาจำนำไว้ ซึ่งจะเป็นอย่างนี้ทุกปี” นายมานะ กล่าว

ขณะเดียวกัน เตรียมเสนอคณะกรรมการควบคุมโรงรับจำนำ เพื่อที่จะขยายระยะเวลาการรับจำนำจาก 4 เดือน 30 วัน หรือ 5 เดือน เป็น 5 เดือน 30 วัน หรือ 6 เดือน หากผู้จำนำขาดส่งดอกเบี้ยหรือไม่ไถ่ถอนคืนภายในกำหนด ทรัพย์จำนำนั้นจะหลุดเป็นสิทธิของโรงรับจำนำ ซึ่งการขยายระยะเวลาการรับจำนำดังกล่าว เพื่อที่จะเป็นการแบ่งเบาความเดือดร้อนของประชาชน
ในช่วงเศรษฐกิจซบเซา

ปัจจุบันดอกเบี้ยของโรงรับจำนำรัฐ วงเงินไม่เกิน 5,000 บาท คิดดอกเบี้ย 0.25% ต่อเดือน วงเงินจำนำ 5,001-1 หมื่นบาท ดอกเบี้ย 0.75% ต่อเดือน วงเงิน 10,001-2 หมื่นบาท ดอกเบี้ย 1% ต่อเดือน วงเงิน 20,001-1 แสนบาท ดอกเบี้ย 1.25% ต่อเดือน ในขณะที่ดอกเบี้ยรับจำนำของโรงรับจำนำเอกชนจะอยู่ที่ 1.25-2% ต่อเดือน

ด้านสำนักงานสถานธนานุบาล หรือโรงรับจำนำ กทม. ได้จัดโครงการลดดอกเบี้ยช่วงเปิดเทอมผู้ที่มีความจำเป็นใช้เงินเพื่อเป็นค่าอุปกรณ์การเรียนและค่าเทอม โดยจะลดอัตราดอกเบี้ยรับจำนำเป็นกรณีพิเศษ เหลือ 0.50% ต่อเดือน วงเงินจำนำต่อบุคคลรวมไม่เกิน 7 หมื่นบาท โดยมีเงื่อนไขจะต้องนำเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการเป็นนักศึกษาและใบเสร็จค่าเล่าเรียน ค่าซื้ออุปกรณ์การศึกษา ฯลฯ มาแสดงด้วย โดยเริ่มรับจำนำตั้งแต่วันนี้-31 พ.ค. 2559

ทั้งนี้ เดิมการรับจำนำจะคิดดอกเบี้ยเงินต้น 5,001-1.5 หมื่นบาท ดอกเบี้ย 1% ต่อเดือน เงินต้นเกิน 1.5 หมื่นบาท คิดดอกเบี้ย 2,000 บาทแรก 2%