กฎหมาย ศักดิ์สิทธิ์น้อยกว่าต้นไม้?
เมื่อมีคนถามยายคนหนึ่ง ที่กำลังนั่งยองๆ ข้างต้นไม้ใหญ่ที่พันผ้าหลากสี พนมมือพร้อมธูปไหว้ปลกๆ ว่ามาไหว้ต้นไม้ทำไม?
โดย...ปณิฏา สุวรรณปาล
เมื่อมีคนถามยายคนหนึ่ง ที่กำลังนั่งยองๆ ข้างต้นไม้ใหญ่ที่พันผ้าหลากสี พนมมือพร้อมธูปไหว้ปลกๆ ว่ามาไหว้ต้นไม้ทำไม? ยายหันมาตอบแบบให้คนถามหงายท้องผลึ่ง “ก็กฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ ข้าเลยมาไหว้ต้นไม้แทนไงล่ะ”
แน่นอนว่า นี่เป็นเพียงมุขขำๆ ที่แชร์กันเล่นในเฟซบุ๊ก แต่ก็สะท้อนความคิดความรู้สึกของคนในสังคม ที่แสดงออกผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กได้เป็นอย่างดี...
เหตุผลหนึ่งที่บ้านเรายังมีคนทำไม่ดี ทั้งในระดับที่ไม่ส่งผลกระทบต่อคนอื่น หรือกระทั่งละเมิดสิทธิ ก่อให้เกิดความเสียหายของชีวิต จิตใจ และทรัพย์สิน ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะกฎหมายของบ้านเรายังไม่ค่อยศักดิ์สิทธิ์ กฎหมายบางอย่างนั้นบทลงโทษยังไม่หนักพอ จึงไม่มีประสิทธิภาพในการทำให้ผู้จ้องจะกระทำผิดเกรงกลัว
นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่าผู้บังคับใช้กฎหมายเองก็ยังคงหละหลวม หลายต่อหลายครั้งมีข่าวคราวออกมาในเรื่องของการเลือกปฏิบัติ ซึ่งทำให้คนกระทำผิด แต่มีเส้นมีสาย มีเงินมีทอง หลุดรอดลอยนวลไปได้
ยกตัวอย่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการขับรถยนต์ขณะมึนเมา อันเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของการเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย ไม่ว่าจะออกมาตรการอะไรมา ตั้งแต่ห้ามขายสุราตามท้องถนน ห้ามนั่งดื่มสุราริมทาง รวมทั้งบนรถส่วนตัวและสาธารณะ
มาตรการที่ดูดีขึ้นมาหน่อย ทำเอาคนไม่ขับรถไปดื่มสุราชั่วขณะหนึ่ง อย่างเมาแล้วขับโดนยึดรถ แต่ไปๆ มาๆ ด้วยความไม่สะดวกด้วยประการทั้งปวง ขาดื่มก็ยังคงเลือก “เสี่ยงเป็นเสี่ยงกัน” ขอขับรถไปเมาเหมือนเดิม โดยจะพยายามหาทางเลี่ยงด่านตรวจเอา
ยิ่งล่าสุดที่เกิดเป็นข่าวคราวอุบัติเหตุรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ ชนรถฟอร์ดจนไฟลุกไหม้ มีผู้เสียชีวิต 2 คน และผู้ก่อเหตุที่ขับรถแหกด่านทางด่วนด้วยความเร็ว ลักษณะคล้ายอาการของคนเมาสุรา แต่ไม่ต้องถูกจับเป่าเพื่อเช็กระดับแอลกอฮอล์ เพราะเจ้าหน้าที่อ้างว่าไม่ได้กลิ่น ทว่า หลังอุบัติเหตุก็ปฏิเสธการเจาะเลือดเพื่อตรวจหาอีก ยิ่งทำให้เกิดกระแส “ไม่เป่า” ที่แต่ละคนทำท่าเหมือนออกมาแค่เกรียน แต่ล้วนตั้งใจจะเอาจริงทั้งสิ้น
บ้านอื่นเมืองอื่น กฎหมายเอาผิดเรื่องเมาแล้วขับล้วนแล้วแต่เข้มงวด โดยเฉพาะคนดังไม่ว่าจะมีเงินมากแค่ไหน ก็ไม่อาจจะหนีคุกไปได้ เพราะในเรื่องนี้นอกจากที่จะเกี่ยวพันถึงอันตรายต่อชีวิตแล้ว คนดังยังเป็นผู้กำหนดค่านิยมในสังคมได้ด้วย ดังนั้นค่านิยมที่ไม่ดี ไม่รับผิดชอบต่อสังคมแบบนี้ต้องลงโทษหนักๆ ให้เห็นเป็นเยี่ยงอย่างทั้ง ลินด์เซย์ โลฮาน, นิโคล ริชชี่, นิค โนลตี, โจล ออสเมนท์, ไชอา ลาบัฟ หรือปารีส ฮิลตัน ล้วนเคยนอนคุกด้วยข้อหาเมาแล้วขับกันทั้งนั้น
ในสหรัฐเคยห้ามขายสุราอย่างเด็ดขาด ซึ่งก็ได้ผลดี แม้จะมีคลับลับแบบ “สปีคอีซี่” ที่แอบขายเหล้าอยู่ตามซอกหลืบบ้าง แต่ก็นับว่าปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากการดื่มสุราได้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด จนเมื่อกลับมาเปิดขายสุราอีกครั้ง กฎหมายของเขาก็ข้นเข้ม ไม่ว่าหน้าอินทร์หน้าพรหม ก็สามารถนอนจมคุกได้เหมือนชาวบ้านร้านถิ่นถ้าเมาแล้วริอ่านขับรถ นอกจากนี้ยังมีการเอาผิดกับร้านค้าหรือผู้จำหน่ายสุราด้วย หากเห็นคนที่มีพฤติกรรมเมามาย แล้วยังเสิร์ฟหรือขายเหล้าต่อเพราะเห็นแก่เงินนั้น ก็เตรียมเสียค่าปรับจำนวนมหาศาล หรือเดินตามลูกค้าขี้เมาเข้าคุกได้เลย
นั่นคือตัวอย่างของการที่มีกฎหมายที่ศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งผู้บังคับใช้กฎหมายก็ไม่เลือกปฏิบัติ หรือแอบมองอีกมุมหนึ่งว่า ยิ่งเลือกปฏิบัติต่อคนมีชื่อเสียง เพื่อให้เกิดเป็นเยี่ยงอย่างก็ไม่รู้สินะ (น่าจะเป็นกรณีไม่เลือกปฏิบัติมากกว่า -- เมาน้ำลายเลยแอบเว่อร์ไปนิดหน่อย)
ย้อนกลับมาบ้านเรา ถ้ากฎหมายศักดิ์สิทธิ์ มีผู้บังคับใช้กฎหมายปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด คงไม่เกิดกรณีมากมายให้มานั่งวิพากษ์วิจารณ์กัน ไม่ว่าจะกรณีสาวซีวิค หรือหนุ่มกระทิงแดง จนกระทั่งถึงหนุ่มเบนซ์กลัวเข็ม (ฉีดยา) ฯลฯ คงไม่เกิดมุขตลกที่อ่านแล้วสุดขมขื่น แชร์ต่อๆ กันไปในโซเชียลเน็ตเวิร์ก
ขอปิดท้ายขำๆ กับเรื่องเล่าบนรถแท็กซี่...
“ขับรถให้ลื่นไหลต้องใช้วิชามารครับ” คุณพี่แท็กซี่เริ่มเล่า “วันก่อนครับ ผมไปแถวแยกลำสาลี โอ๊ย รถมันติดจริงๆ ผมก็ตบซ้ายไปเรื่อยๆ เพราะเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด ผู้โดยสารก็บอก พี่ๆ จะเลี้ยวขวาได้หรือ? ผมบอกไม่ต้องเป็นห่วง สบายมาก” เล่าไปหัวเราะไป คงตลกมาก
“ผมตบซ้ายไปจอดตรงที่พักรถด้านซ้าย ตำรวจตรงแยกก็ชี้หน้า ผู้โดยสารก็บอก พี่ๆ ตำรวจชี้หน้า ผมบอก-ชี้ดีกว่ากวักมือเรียกนะครับ” หัวเราะร่วน “พอไฟเขียวผมก็ตบขวา แล้วก็เบียดๆ เลี้ยวขวาเลยครับ ตำรวจคนเดิมก็ชี้หน้าผมอีก ผู้โดยสารก็บอก-ตำรวจยังชี้อยู่เลยพี่ เอ้า ดีกว่าโบกให้จอดแล้วกัน ผู้โดยสารบอก ถ้าตำรวจโบกทำไงล่ะพี่ ก็ไม่จอดสิ” หัวเราะหนักกว่าเดิม...
“ผมไม่ได้ทำผิดกฎหมายนะครับ ผมจอดในที่พักรถ ซึ่งไม่ใช่ถนน ตำรวจจับผมไม่ได้ แล้วผมตบขวาก็ไม่ใช่เส้นทึบ ผมไม่ผิด” คุณพี่แท็กซี่สรุปอย่างภาคภูมิใจ
นี่ล่ะค่ะ บ้านนี้เมืองนี้ที่กฎหมายศักดิ์สิทธิ์น้อยกว่าต้นไม้?


