ชี้ฆ่าสัตว์ล้างแค้นถือว่าทำเกินกว่าเหตุผิดกฎหมาย
เลขาธิการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์ฯ ชี้การทำร้ายสัตว์เพื่อล้างแค้นเข้าข่ายทำเกินกว่าเหตุ ผิดกฎหมาย ชี้สังคมตื่นตัวหลังมีพรบ.คุ้มครองสัตว์
เลขาธิการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์ฯ ชี้การทำร้ายสัตว์เพื่อล้างแค้นเข้าข่ายทำเกินกว่าเหตุ ผิดกฎหมาย ชี้สังคมตื่นตัวหลังมีพรบ.คุ้มครองสัตว์
นายชัยชาญ เลาหศิริปัญญา เลขาธิการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่นายทวี ไกรคุปต์ อดีตส.ส.จังหวัดราชบุรี ใช้อาวุธปืนยิงสุนัข ถือเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ เข้าข่ายทารุณกรรม ตามพ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ ซึ่งเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้ประชาชนทุกคนยับยั้งชั่งใจระงับอารมณ์โกรธของตัวเองให้ได้ ยิ่งเป็นบุคคลสาธารณะยิ่งต้องเป็นตัวอย่างที่ดีแก่สังคม
ทั้งนี้ บทลงโทษจะหนักหรือเบาแล้วแต่กรณี ซึ่งถ้าถูกสัตว์ทำร้ายก่อนแล้วไปตามล้างแค้นคืนจะเข้าข่ายทำเกินกว่าเหตุแน่นอน ขณะเดียวกันกฏหมายคุ้มครองผู้เสียหายด้วย คือสามารถทำร้ายสัตว์นั้นตามสมควรแก่เหตุ หากเห็นว่าสัตว์กำลังเข้ามาทำร้ายร่างกายอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
อนึ่ง ตั้งแต่มีการบังคับใช้กฏหมายคุ้มครองสัตว์ แม้จะมีสถิติการร้องเรียนพบเห็นการทำร้ายสัตว์เพิ่มมากขึ้น แต่ถือเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าสังคมไทยเริ่มตระหนักในเรื่องสิทธิของสัตว์มากยิ่งขึ้น แตกต่างจากในอดีตที่เหตุทำร้ายเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากแต่ไม่ได้พบเห็นตามสังคมออนไลน์ที่มีความรวดเร็วเหมือนในปัจจุบัน และบางครั้งเรื่องราวก็เงียบหายไป โดยก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์สุนัขแอบเข้ามากินไก่ เจ้าของฟาร์มจึงตามไปยิงสุนัขตาย กรณีนี้ศาลตัดสินลงโทษทั้งปรับและจำคุกมาแล้ว
ด้าน นายโรเจอร์ โลหะนันท์ เลขาธิการสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย กล่าวว่า กรณีนายทวี ใช้ปืนยิงสุนัข 6 นัด โดยอ้างว่าถูกสุนัขกัด นั้นได้ทำหนังสือถึงผู้กำกับการ สภ.สวนผึ้งแล้ว และชมเชยตำรวจในคดีนี้ พร้อมทั้งให้กำลังใจในการทำหน้าที่ของตำรวจ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ จ.ราชบุรี ซึ่งนายทวีเคยเป็นอดีต ส.ส.ที่อาจมีการวิ่งเต้นเพื่อล้มคดีได้ ทั้งนี้ที่ผ่านมามีตัวอย่างที่น่าสนใจว่าผู้ต้องหาหลายรายทำร้ายสัตว์ แต่พยายามอ้างว่าป้องกันตัวเองและทรัพย์สิน แต่ครั้งนี้ตำรวจไม่เห็นด้วยและกล้าดำเนินคดี แม้นายทวีเคยเป็นถึงอดีต สส. ส่วนนายทวีจะอ้างอย่างไรก็แล้วแต่สุดท้ายต้องรอดูนายทวีว่ายอมรับผิดหรือมีสปิริตหรือไม่
นายโรเจอร์ กล่าวว่า กฎหมายทารุณกรรมสัตว์ยกเว้นเรื่องการป้องกันตัวและป้องกันทรัพย์สินว่าไม่เป็นการทารุณกรรมสัตว์หรือการทำร้ายสัตว์ นายทวีอ้างว่าสัตว์ทำร้าย แต่กรณีนี้หมาไปจากบริเวณที่เกิดเหตุแล้ว แต่นายทวียังมีเวลาเดินตามหาเจ้าของและตามฆ่าหมา จึงไม่ได้ถือเป็นการป้องกันตัว แต่เป็นการล้างแค้น ซึ่งกฎหมายไม่อนุญาตให้ล้างแค้น ยิ่งพอเป็นสัตว์จรจัด คิดว่าไม่มีใครเอาโทษ คนส่วนใหญ่ก็จะคิดว่าไม่ถูกจับ แต่พอถูกจับก็อ้างการป้องกันตัว
ทั้งนี้มาตรา 68 ในกฎหมายอาญา ต้องคำนึง 2 เรื่อง คือ รุนแรงน้อยที่สุดไปมากที่สุด และเหมาะสมกับอัตราเหตุที่เกิด แต่การยิง 6 นัดจนหมดแม็กซ์ถือว่ามากที่สุด และไม่สมเหตุสมผลเพราะหมาไม่ได้ขย้ำคออยู่ จึงไม่เข้าข่ายสมควรกับอันตรายที่ได้รับ ฟังอย่างไรก็ไม่ขึ้น จึงเชื่อว่ากฎหมายจะไม่ตีความตามที่นายทวีอ้าง
นอกจากนี้ กรณีที่นายทวีอ้างว่าสูงอายุและไม่มีเรี่ยวแรงสู้กับสุนัข แต่ถือว่าอยู่ในสภาพร่างกายที่เหนี่ยวไกปืนได้ และยังไม่ได้ล้มลงหรือได้รับอันตราย ขณะที่หมากัดถ้าพกปืนอยู่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่นี่เดินไปตามหาหมาและเจ้าของได้ คำว่าอยู่ในวัยชราจึงอ้างไม่ได้ เป็นการฟังไม่ขึ้น
ภาพจาก https://www.facebook.com/photo.php?fbid=253897974942498&set=pcb.253897991609163&type=3&theater


