ทร.ซื้อเรือตรวจการณ์5.4พันล.
กองทัพเรือเดินหน้าจัดหาเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ลำที่ 2 ตั้งงบสูงลิ่ว 5,400 ล้าน
กองทัพเรือเดินหน้าจัดหาเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ลำที่ 2 ตั้งงบสูงลิ่ว 5,400 ล้าน
พล.ร.ท.จุมพล ลุมพิกานนท์ รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงโครงการจัดหาเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ลำที่ 2 ว่า จะใช้งบประมาณปี 2559-2561 เป็นเงิน 5,400 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนการพัฒนากำลังรบตามยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ ที่ก่อนหน้านี้ได้จัดหาเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งลำแรกคือ เรือหลวงกระบี่ ซึ่งใช้งบประมาณปี 2551-2554 เป็นเงิน 2,900 ล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อรองรับกับบทบาทหน้าที่ของกองทัพเรือในด้านการปฏิบัติการทางทหารในการป้องกันประเทศ การรักษากฎหมาย และการช่วยเหลือประชาชน อีกทั้งเพื่อให้มีขีดความสามารถในการลาดตระเวนตรวจการณ์รักษาฝั่ง ป้องกันการแทรกซึมทางทะเล คุ้มครองเรือประมง ป้องกันและคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล
พล.ร.ท.จุมพล กล่าวอีกว่า กองทัพเรือได้ลงนามในสัญญาซื้อขายแบบเรือและพัสดุ กับ บริษัท อู่กรุงเทพ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงกลาโหม โดยใช้แบบเรือของ “เรือหลวงกระบี่” เป็นแบบพื้นฐานในการปรับปรุงแบบเรือและการส่งมอบพัสดุ โดยแบบเรือดังกล่าวมีต้นแบบมาจากแบบเรือของบริษัท BAE Systems Ships จากประเทศอังกฤษ
อย่างไรก็ตาม กองทัพเรือได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง โดยมี พล.ร.อ.พลเดช เจริญพูล ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพเรือ เป็นประธานกรรมการ ส่วนงบการจัดสร้างลำที่ 2 ที่มีราคาสูงกว่าลำแรกนั้น เนื่องมาจากระบบอาวุธที่ทันสมัยกว่า โดยได้ติดตั้งระบบอาวุธปล่อยนำวิถี พื้นสู่พื้นแบบ Harpoon ซึ่งเป็นอาวุธปล่อยนำวิถีที่มีสมรรถนะและความแม่นยำสูงกว่าลำแรก
“กองทัพเรือขอยืนยันว่าการดำเนินการทุกขั้นตอน ดำเนินการด้วยความรอบคอบ โปร่งใส และเหมาะสมกับสภาพและสภาวะของประเทศ” พล.ร.ท.จุมพล กล่าว


