รู้จักคำว่า 'เจ๊ง'
อาจเป็นเพราะผมโชคดีในการทำธุรกิจมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจฟอกหนัง หรือธุรกิจรับเหมางานประตูหน้าต่างไม้
โดย...ซิวซี แซ่ตั้ง
อาจเป็นเพราะผมโชคดีในการทำธุรกิจมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจฟอกหนัง หรือธุรกิจรับเหมางานประตูหน้าต่างไม้ แม้จะไม่ใช่ธุรกิจที่ทำให้ผมร่ำรวยมากมายก็ตาม แต่ก็ไม่เคยพบกับคำว่าขาดทุน หรือ “เจ๊ง” เลย กู้หนี้ยืมสินก็สามารถหมุนไปมาได้ ธุรกิจก็ยังพอมีกำไรอยู่ การประหยัดของผมก็ทำให้ผมอยู่รอดปลอดภัยมาตลอด แต่ครั้งนี้ ผมชักเสียววาบขึ้นมาเพราะผมกู้ไปกู้มา ผมมีหนี้สินเกินหลักแสนไปมากทีเดียว
ผมชะล่าใจ และคิดว่า การทำธุรกิจนำเข้าส่งออกจะต้องดี ไม่ได้คิดเลยว่า ถ้าไม่ดีแล้วผมจะทำอย่างไร ผมมองด้านบวกเท่านั้น แล้วผมก็ได้รับบทเรียนสำคัญในชีวิต ธุรกิจนำเข้าส่งออกเจ๊งไม่เป็นท่าหลังจากเปิดกิจการได้แค่ 2 ปี ทั้งที่ตอนแรกทำท่าว่าจะดี เพราะหุ้นส่วนช่วยกันใช้เทคนิคต่างๆ สารพัดในการติดต่อธนาคาร และบริษัทส่งออกของญี่ปุ่น เพื่อนำเข้าสินค้าต่างๆ ส่วนผมมีหน้าที่หาทุนเปิดกิจการ ลงทุนตกแต่งสำนักงาน ซื้อข้าวของอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน และรับผิดชอบเรื่องการจ่ายเงินเดือน รวมถึงการหาเงินทุนมาหมุนเวียน ยุ่งเกี่ยวแต่เรื่องการหาเงินเท่านั้น ส่วนด้านอื่นผมไม่ได้รู้เห็นด้วยเลย
แต่ปัญหามาเกิดขึ้นเพราะเกิดการฉ้อโกงและหักหลัง จนทำให้ธุรกิจไปไม่รอด หุ้นส่วนของผมแต่ละคนต่างหลบลี้หนีหน้ากันไปหมด โดยไม่มีใครพูดถึงเรื่องเงินทุนหรือความเสียหายที่เกิดขึ้น หลังเลิกธุรกิจนำเข้าส่งออก ผมต้องแบกภาระหนี้หลายแสนบาท เรื่องยังไม่จบแค่นั้น ยังมีปัญหาเรื่องเช็คของบริษัทที่ตีออกไปแล้วเด้ง เพราะหุ้นส่วนนำเช็คออกไปขายแล้วเซ็นกันเอง มีปัญหาขึ้นโรงขึ้นศาล โชคยังดีที่ผมไม่ได้มีส่วนในการเซ็นเช็คเหล่านั้น ไม่มีชื่อร่วมรับผิด เรื่องจึงไม่ถึงผม ไม่อย่างนั้นผมคงตกเป็นจำเลยไปด้วย
บทเรียนราคาแพงของการทำธุรกิจนำเข้าส่งออก ทำให้ผมได้พบความจริงว่า “อย่าไปทำธุรกิจอะไรที่ตัวเราไม่ได้เรียนรู้เอง และไม่รู้จักมันดีพอ อย่าคิดว่าจะพึ่งจมูกคนอื่นหายใจ ท้ายที่สุดมันจะพังไม่เป็นท่า”
จากการทำธุรกิจนำเข้าส่งออกครั้งนั้นทำให้ผมได้ข้อสรุปที่ชัดขึ้นคือ หนึ่ง...อย่าทำธุรกิจที่ไม่มีความรู้และไม่ถนัด สอง...การทำธุรกิจไม่ควรใช้เงินที่เป็นเงินกู้ล้วนๆ และเป็นเงินกู้ที่เสียดอกเบี้ยนอกระบบ ซึ่งแม้เป็นเงินในระบบอย่างธนาคาร หากเป็นเงินกู้ล้วนๆ ก็ไม่ควรเสี่ยงทำ สาม...เวลาลงทุน อย่าคิดแต่จะได้ ต้องคิดเผื่อด้วยว่า ถ้าไม่ได้หรือเจ๊งแล้วจะเอาเงินทุนที่ไหนมาจ่าย
ซึ่งในข้อหลังนี้ ผมไม่เคยคิด มันจึงเป็นวิกฤตของชีวิต ผมอยู่เฉยไม่ได้ แน่นอนว่า ทางเลือกในการแก้ภาระหนี้มีอยู่ไม่มากนัก ธุรกิจประตูหน้าต่างไม้มีกำไรพอเลี้ยงตัวเองไปวันๆ คำสั่งซื้อจำนวนมากๆ ไม่มี ผมมองหาลู่ทางต่างๆ ที่จะทำให้มีกำไรเป็นกอบเป็นกำ เพื่อนำไปชำระหนี้สินที่ล้นพ้นตัวซึ่งผมก่อไว้อย่างมากมาย แต่ก็มองไม่เห็นลู่ทางเลย ในช่วงนั้นจ๊องชุนซู่ หรือที่ลูกๆ ผมเรียกว่า “ลุงซู่” หุ้นส่วนคนหนึ่งของผม ที่มาชักชวนให้ทำธุรกิจนำเข้าส่งออกนี่แหละ เข้ามาบอกกับผมว่า ตัวแกรู้สึกผิดมากที่มาชวนผมทำธุรกิจแล้วไม่ดีอย่างที่คิด ทำให้ผมเป็นหนี้มากมาย
ก่อนแกจะเผ่นหนีไปต่างจังหวัด แกนำ “สูตรลับ” มาให้ สูตรลับของลุงซู่เป็นแผ่นกระดาษเขียนภาษาจีน ที่บอกสูตรในการทำยางเอาไว้ เนื่องจากแกเคยเป็นเจ้าของโรงงานทำพื้นรองเท้ายางมาก่อน
แกบอกกับผมว่า “ต้องขอโทษด้วยที่อั๊วทำให้ซิวซีต้องลำบาก ไม่คิดเลยว่าธุรกิจนำเข้าส่งออกจะไม่ดี อั๊วไม่มีอะไรจะให้ซิวซีนอกจากสูตรลับสูตรนี้ ซิวซีลองอ่านแล้วทำตามสูตรดู มันอาจจะมีประโยชน์ทำให้ซิวซีรวยขึ้นได้”
ผมรับสูตรนั้นมาจากลุงซู่ ตอนที่รับก็ไม่ได้คิดอะไรมาก กำลังมองหาธุรกิจใหม่ก็จริง แต่ยอมรับว่าไม่ได้สนใจ เพราะยังบาดเจ็บสาหัสจากธุรกิจนำเข้าส่งออก พูดง่ายๆ ว่ายังเข็ดกับลุงซู่ กระดาษจดสูตรแผ่นนั้นถูกพับเก็บเอาไว้โดยไม่ได้รับการเหลียวแล
สรุปว่าความใฝ่ฝันที่จะร่ำรวยจากธุรกิจนำเข้าส่งออก ก็พังครืนอย่างไม่เป็นท่า แม้ไม่ต้องตกเป็นจำเลยในคดีเซ็นเช็คร่วมกับหุ้นส่วน แต่ก็ยังต้องแบกภาระหนี้ไว้หลายแสนบาทพร้อมดอกเบี้ย กว่าจะชดใช้หนี้ได้หมดก็กินเวลานานนับสิบปี และต้องผ่านวิกฤตชีวิตมากมาย ซึ่งผมจะได้เล่าความหลังที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนในบทต่อไป
ขณะที่ผมกับชิวบ๊วยและลูกๆ โดยเฉพาะลูกคนโตตกอยู่ในภาวะแห่งความยากลำบาก เพราะถูกไล่ล่าจากเจ้าหนี้ ผมจำได้ดีว่ายามนั้น ผมต้องเล่นซ่อนหากับเจ้าหนี้อยู่บ่อยๆ ต้องคอยหลบซ่อน อยู่ในบ้านก็ไม่มีความสุข เพราะคอยระแวงอยู่ตลอดเวลาว่า เจ้าหนี้จะโผล่มาทวงเงิน
ช่วงนั้นผมเครียดมาก เพราะถูกทวงหนี้แทบทุกวัน เวลามีคนโผล่หน้าเข้ามาในบ้าน ผมตกใจทุกครั้ง ผวาทุกที เป็นความรู้สึกที่แย่มากๆ แต่ผมไม่ย่อท้อยังต้องต่อสู้ต่อไป
(อ่านต่อฉบับวันเสาร์หน้า)


