"มีชัย"มีแนวคิดปรับบทเฉพาะกาลร่างรธน.ให้เลือกตั้งเร็วขึ้น
"มีชัย" เล็งปรับปรุงเนื้อหาบทเฉพาะกาลในร่างรัฐธรรมนูญ ให้เร่งพิจารณากฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพื่อให้มีการเลือกตั้งเร็วขึ้น
"มีชัย" เล็งปรับปรุงเนื้อหาบทเฉพาะกาลในร่างรัฐธรรมนูญ ให้เร่งพิจารณากฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพื่อให้มีการเลือกตั้งเร็วขึ้น
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า กรธ.มีแนวความคิดปรับปรุงเนื้อหาของบทเฉพาะกาลในร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการเลือกตั้งเร็วขึ้นในปี 2560 ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งอาจจะกำหนดให้มีการเร่งพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้งประมาณ 5-6 ฉบับให้เสร็จและมีผลบังคับใช้ก่อนเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง โดยไม่จำเป็นต้องให้กฎหมายลูกต้องมีผลบังคับใช้ทั้ง 10 ฉบับตามที่บัญญัติไว้ในบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญ
"กำลังคิดกันอยู่ เพราะเมื่อนายกฯออกมาพูดในเรื่องของการเริ่มกระบวนการเลือกตั้ง นายกฯไม่ได้บอกว่าต้องให้มีการเลือกตั้งในวันที่เท่าไหร่ในเดือนก.ค. แต่บอกว่าให้เข้าสู่โหมดของการเลือกตั้ง ดังนั้น เดือนก.ค.หรือส.ค.ก็น่าจะไปได้ เราก็จะมาดูว่าที่เรากำหนดทำกฎหมายลูกเวลา 8 เดือนมันก็หืดขึ้นคอ แต่ว่าเราจะบริหารจัดการอย่างไรที่จะทำให้กฎหมายที่จำเป็นในการเลือกตั้งสามารถออกมาให้ได้ภายในระยะเวลาตามโรดแมปของนายกฯ หรือจะล่าช้าไป10-20 วันก็ค่อยมาว่ากันอีกที ก็กำลังไปดูอยู่" นายมีชัย กล่าว
เมื่อถามว่า การเข้าสู่โหมดของการเลือกตั้ง หมายความว่าเดือนก.ค.หรือส.ค.ปี 2560 จะมีการเลือกตั้งใช่หรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า "คงจะอยู่ราวๆนั้น หากพล.อ.ประยุทธ์ยืนยันอย่างนั้น แต่ว่าคณะกรธ.ต้องมาปรับดูว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความเป็นไปได้ตามนั้น"
"อย่างน้อยต้องให้กฎหมายลูกเสร็จ 5-6ฉบับ ถ้าทำฉบับละเดือนก็น่าจะเสร็จ และก็น่าอยู่ในวิสัยที่จะจัดการเลือกตั้งช่วงนั้นได้" นายมีชัย กล่าว
เมื่อถามว่า แล้วกฎหมายลูกฉบับที่เหลือที่ไม่ได้เกี่ยวกับการเลือกตั้งจะดำเนินการอย่างไร นายมีชัย กล่าวว่า ในระหว่างการดำเนินการเลือกตั้งอาจต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งก็น่าจะใช้ช่วงเวลานั้นดำเนินการให้เสร็จ เพราะถ้าไม่ทำเอาไว้จะส่งผลให้เกิดปัญหาเหมือนในอดีตอีก จนกลไกต่างๆที่วางเอาไว้ไม่สมบูรณ์
"คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญรับรู้ถึงความกังวลของนายกฯแล้วและก็กำลังพยายามมาดูว่าจะปรับและเขียนให้เกิดความมั่นใจได้อย่างไร"นายมีชัย กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ห้ามสถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ห้ามจัดเวทีวิชาการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ นายมีชัย กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้ทราบปัญหาเรื่องดังกล่าว แต่เวลาที่คณะกรธ.ไปจัดเวทีในต่างจังหวัดได้มีการขออนุญาตคสช.ทุกครั้ง
สำหรับข้อท้วงติงของนายเทียนฉาย กีระนันทน์ อดีตประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่แสดงความคิดเห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้อำนาจองค์กรอิสระมากเกินไป นายมีชัย กล่าวว่า ยืนยันไม่ได้มีการให้อำนาจเพิ่มเติม อย่างกรณีของศาลรัฐธรรมนูญก๊มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญพ.ศ.2540 และ 2550 เพียงแต่ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจเพิ่มตรงที่การทำหน้าที่วินิจฉัยกรณีที่องค์กรอิสระกระทำการทีเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ ซึ่งเป็นหลักการที่ต้องการให้องค์กรอิสระถูกตรวจสอบถ่วงดุล
"มันก็น่ากังวลนะครับเพราะว่าระดับท่านเนี่ยท่านฟังจากคนวิพากษ์วิจารณ์และก็ไปวิจารณ์ต่อ ถ้าท่านจะกรุณาอ่านสักนิดก็จะพบว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้มีอำนาจมากขึ้นไปจากที่เคยมีอยู่" นายมีชัย กล่าว
ประธานกรธ. กล่าวว่า เวลานี้มีความน่ากังวล คือ การฟังมาและกระโดดจับและนำไปวิจารณ์ต่อ ถ้าสิ่งที่ฟังมาผิด ข้อวิจารณ์จะผิดไปเรื่อยๆ ดังนั้น คณะกรธ.กำลังหาหนทางว่าจะทำอย่างไรเอาข้อมูลที่แท้จริงออกไปให้ประชาชนได้รับรู้อย่างทั่วถึง เพื่อให้ประชาชนได้รู้ของจริง


