ยธ.เสนอโอนคดี4โจ๋พัทลุงฆ่าโหดไปศาลธรรมดา
รองปลัดยธ.ชี้พฤติการณ์4โจ๋พัทลุงลวงอริฆ่า"แก่เกินวัยใจอาชญากร"โอนคดีจากศาลเยาวชนไปพิจารณาเป็นคดีธรรมดาได้ ขณะกรมพินิจเตรียมให้นักจิตวิทยาประเมินสภาพจิตใจ
รองปลัดยธ.ชี้พฤติการณ์4โจ๋พัทลุงลวงอริฆ่า"แก่เกินวัยใจอาชญากร"โอนคดีจากศาลเยาวชนไปพิจารณาเป็นคดีธรรมดาได้ ขณะกรมพินิจเตรียมให้นักจิตวิทยาประเมินสภาพจิตใจ
นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีเยาวชนลวงฆ่าฝังดินคู่อริพร้อมจับแฟนสาวข่มขืน ทำร้ายร่างกายก่อนจับโยนลงเหวว่า มีพฤติการณ์แก่เกินวัยใจอาชญากร สามารถโอนคดีจากศาลเยาวชนและครอบครัวไปพิจารณาเป็นคดีธรรมดาได้ โดยหลักเกณฑ์ที่ประกอบการสังเกตคือ
1.มีการวางแผนเตรียมการมาก่อน
2.มีลักษณะอุกอาจ โหดร้าย ทารุณ
3. ผลที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดความเสียหาย ร้ายแรง หรือเกิดความเสียหายแก่สังคมโดยรวม
4. กระทำโดยขาดความเห็นอกเห็นใจเหยื่อ
5. เคยมีประวัติการกระทำผิดในทำนองเดียวกันมาก่อนไม่ว่าจะถูกจับกุมหรือไม่
นอกจากนี้เมื่อสุขภาพร่างกาย แข็งแรง สมบูรณ์ และขณะกระทำความผิดมีระดับสติปัญญาไม่บกพร่อง คือไม่ต่ำกว่า 70 เมื่อทดสอบโดยใช้แบบทดสอบเชาวน์ปัญญา รวมทั้งพิจารณาภาวะแห่งจิตและนิสัย โดยการตรวจสภาพจิตโดยจิตแพทย์ และผลการทดสอบทางจิตวิทยา พบว่า ไม่มีอาการของโรคจิต (วิกลจริต) หรือพยาธิสภาพทางสมอง แต่มีแนวโน้มว่าอาจมีปัญหาบุคลิกภาพในอนาคต เช่น ต่อต้านสังคม หรือมีความเป็นผู้ร้ายโดยสันดาน
"ตามพ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว มาตรา 97 วรรคสอง ระบุว่า คดีอาญาที่อยู่ในอำนาจศาลเยาวชนและครอบครัว ถ้าศาลเยาวชนและครอบครัวพิจารณาโดยคำนึงถึงร่างกาย สติปัญญา สุขภาพ ภาวะแห่งจิตและนิสัยแล้ว เห็นว่าในขณะกระทำความผิดหรือในระหว่างการพิจารณาเด็กหรือเยาวชนที่ต้องหาว่ากระทำความผิดมีสภาพเช่นเดียวกับบุคคลที่มีอายุตั้งแต่สิบแปดปีบริบูรณ์ขึ้นไป ก็ให้มีอำนาจสั่งให้โอนคดีไปพิจารณาในศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีธรรมดาได้"รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าว
ขณะที่ นายวิศิษฎ์ วิศิษฎ์สรอรรถ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการส่งตัวผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว แต่กรมพินิจฯได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว หากได้รับการประสานส่งตัวจะส่งต่อไปยังสถานพินิจ จ.ตรัง หรือศูนย์ฝึกอบรมเยาวชนชาย จ.สงขลา ซึ่งตามหลักกฎหมาย หากผู้กระทำผิดอายุต่ำกว่า 18 ปี บริบูรณ์จะถือว่ายังเป็นเยาวชนและตำรวจต้องส่งตัวให้กรมพินิจฯภายใน 24 ชม.
เบื้องต้นหากได้รับตัวจะให้นักจิตวิทยาประเมินผลสภาพจิต เพื่อนำเสนอผลการประเมินสภาพจิตต่อศาลเพื่อให้ศาลเป็นผู้พิจารณาว่าจะต้องอยู่ในการดูแลแบบผู้ใหญ่หรือเด็ก


