ฝากขัง"ดีเจเก่ง"โดน3ข้อหา ขนส่งยึดใบขับขี่1ปี
ตำรวจสน.ดินแดงยื่นผัดฟ้องฝากขังดีเจเก่งต่อศาลแขวงพระนครเหนือหลังพนักงานอัยการให้สอบสวนเพิ่มเติม ด้าน "ขนส่ง" ทำหนังสือเรียกตัวคู่กรณีมาพบภายใน 7 วัน เบื้องต้นยึดใบขับขี่ "ดีเจดัง" 1 ปี หลังรับสารภาพ
ตำรวจสน.ดินแดงยื่นผัดฟ้องฝากขังดีเจเก่งต่อศาลแขวงพระนครเหนือหลังพนักงานอัยการให้สอบสวนเพิ่มเติม ด้าน "ขนส่ง" ทำหนังสือเรียกตัวคู่กรณีมาพบภายใน 7 วัน เบื้องต้นยึดใบขับขี่ "ดีเจดัง" 1 ปี หลังรับสารภาพ
เวลา 10.00 น. วันที่ 11 ม.ค. ร.ต.ท.สุภกร แสงจันทร์ พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ได้นำตัวนายภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ อายุ 35 ปี หรือดีเจเก่ง พร้อมสรุปสำนวนโดยมีความเห็นสมควรฟ้องนายภัทรศักดิ์ ผู้ต้องหา รวม 3 ข้อหา คือ ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น, ข้อหาทำร้ายร่างกายไม่เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายทางร่างกายและจิตใจ และข้อหาทำให้ผู้อื่นตกเกิดความกลัวหรือตกใจ ส่งให้พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 2 ซึ่งพนักงานอัยการพิจารณาแล้วเห็นว่า สำนวนคดียังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์เพียงพอ จึงยังไม่รับสำนวน พร้อมสั่งให้พนักงานสอบสวนไปดำเนินการสอบ สวนเพิ่มเติมในบางประเด็น
ต่อมาเวลา 13.30 น. ร.ต.ท.สุภกร แสง จันทร์ พนักงานสอบสวน ได้ยื่นผัดฟ้องครั้งแรกต่อศาลแขวงพระนครเหนือ เป็นเวลา 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-16 ม.ค.2559 ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ผัดฟ้อง โดยศาลให้ปล่อยชั่วคราวโดยไปไม่มีหลักทรัพย์ และศาลนัดให้มารายงานตัวอีกครั้งในวันที่ 15 ม.ค.นี้
ภายหลัง นายภัทรศักดิ์ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวพร้อมยกมือไหว้ว่า วันนี้ตนมารับโทษที่ได้กระ ทำผิดไป และอยากจะบอกกับทุกคนว่าตนสำนึกผิดแล้ว ต่อไปถ้ามีโอกาสได้ขับรถก็จะระมัดระวัง จะไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ทั้งนี้ ไม่อยากให้มีการพาดพิงไปถึงครอบครัว เพราะว่าตนยังมีลูกที่ยังเล็กอยู่ ส่วนประเด็นของโลกโซเชียลนั้น ตนเล่นเพียงเฟซบุ๊กอย่างเดียว ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้น ตนก็ไม่ได้เข้าไปเปิดใช้เฟซบุ๊กได้อีก ดังนั้นตนจึงไม่ได้เล่นเฟซบุ๊ก ส่วนไลน์หรืออินสตาแกรมก็ไม่มี ขอเตือนหากมีการทำเฟซบุ๊กปลอมขึ้นมาจะมีความผิด โดยตนได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสืบหาผู้ที่ทำเฟซบุ๊กปลอมอยู่
ด้าน พ.ต.อ.สมคิด สมบูรณ์ พนักงานสอบ สวนผู้ทรงคุณวุฒิ สน.ดินแดง กล่าวว่า วันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้นำสำนวน พยานหลักฐาน และผู้ต้องหา มาส่งมอบให้กับพนักงานอัยการ ซึ่งในวันนี้อัยการยังไม่ได้มีความเห็นใดๆ ในทางสำนวนคดี ดังนั้นพนักงานสอบสวนจึงได้นำตัวผู้ต้องหาไปยื่นคำร้องผัดฟ้องฝากขังที่ศาลแขวงพระนครเหนือก่อนเป็นเวลา 6 วัน ซึ่งวันที่ครบกำหนดผัดฟ้องครั้งแรกตรงกับวันหยุดทำการ หากยังไม่สามารถสั่งฟ้องคดีได้ตามกระบวนการ พนักงานสอบสวนก็จะต้องยื่นคำร้องผัดฟ้องครั้งที่ 2 ในวันศุกร์ที่ 15 ม.ค.นี้ หลังจากนั้นก็จะต้องรอดูว่าอัยการจะมีความเห็นเกี่ยวกับสำนวนอย่างไร จะให้สอบสวนเพิ่มเติมประเด็นใดอีกหรือไม่ โดยคดีนี้พนักงานสอบสวนสามารถยื่นคำร้องผัดฟ้องผู้ต้องหาได้รวม 5 ครั้ง
ขณะที่ นายณันทพงศ์ เชิดชู ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 กรมการขนส่งทางบกเปิดเผยว่า กรมฯ ได้ทำหนังสือเรียกตัวนายภัทรศักดิ์ หรือ ดีเจเก่งและนาย กวินกาญจน์ คู่กรณีเหตุถอยรถกระบะชนรถเก๋งโตโยต้า ยาริส ให้มาพบเจ้าหน้าที่เพื่อสอบสวน รับฟังข้อเท็จจริงจากทั้ง 2 ฝ่าย ภายใน 7 วัน นับจากวันได้รับหนังสือ ซึ่งเบื้องต้นกรมการขนส่งทางบกใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.รถยนต์ ลงโทษยึดใบอนุญาตขับขี่รถยนต์นายภัทรศักดิ์เป็นเวลา 1 ปี เนื่องจากผู้กระทำผิดได้รับสารภาพแล้วอีกทั้งยังเป็นการกระทำที่จงใจและเป็นเหตุที่มีความรุนแรง ส่วนการลงโทษนายกวินกาญจน์จะต้องรอการรับฟังข้อมูลก่อนหากกระทำผิดก็อาจลงโทษ เพิ่มได้
"นอกจากนี้กรมการขนส่งทางบกยังได้ประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอข้อมูลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมถึงประวัติการขับรถของทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อมาประกอบการพิจารณาหากมีความผิดมากกว่านี้ก็อาจลงโทษเพิ่มเติม แต่ยังระบุไม่ได้ว่าจะถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตหรือไม่แต่หากไม่พบพฤติกรรมใด ๆ ก็เห็นว่าการลงโทษเท่านี้มีความเหมาะสมแล้ว" นายณันทพงศ์กล่าว
ภาพ เฟซบุ๊ก Namsifa Nam


