posttoday

ฎีกาจำคุกพันปี "อดีตบิ๊กบีบีซี"-ชดใช้กว่า1.8พันล้าน

30 ธันวาคม 2558

ศาลฎีกาพิพากษากลับจำคุก 1,024 ปี อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารบีบีซี ร่วม"เกริกเกียรติ" ยักยอกทรัพย์บีบีซี ให้ชดใช้กว่า 1,800 ล้านบาท

ศาลฎีกาพิพากษากลับจำคุก 1,024 ปี อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารบีบีซี  ร่วม"เกริกเกียรติ" ยักยอกทรัพย์บีบีซี  ให้ชดใช้กว่า 1,800 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญา ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดียักยอกทรัพย์ธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือ บีบีซี ตามที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจ และทรัพยากร 2 เป็นโจทก์ฟ้อง นายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่บีบีซี และนายเอกชัย อธิคมนันทะ อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ เป็นจำเลยที่ 1-2 ฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ และความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ จากกรณีเมื่อปี 2538 จำเลยกับพวกร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ อนุมัติวงเงินสินเชื่อผ่านระบบคอมพิวเตอร์กับบุคคล และนิติบุคคลต่างๆ ในวงเงินเกิน 30 ล้านบาท โดยไม่ผ่านการพิจารณากลั่นกรองของคณะกรรมการบริหารของบีบีซี ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมาย

โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 2 คน ต่อมาอัยการยื่นฎีกาและพิเคราะห์แล้วเห็นว่าคดีนี้ จำเลยที่ 1 เสียชีวิตไปแล้ว แต่ความผิดในทางแพ่งยังไม่ถูกกระงับ ซึ่งพยานหลักฐานโจกท์ฟังขึ้น ซึ่งรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 มีเจตนาทุจริตเบียดบังเอาทรัพย์สินของธนาคารไปโดยทุจริต ด้วยการใช้บัตรผ่านรายการ หรือบัตรอนุมัติสินเชื่อให้แก่บริษัทที่มาขอกู้เงิน ซึ่งเป็นบริษัทของ นายราเกซ สักเสนา ซึ่งไม่มีความน่าเชื่อถือว่าจะสามารถใช้เงินคืนกับธนาคารได้

ซึ่งการกระทำความผิดทั้งหมดรวม 204 รายการ จึงพิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลย ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยบทลงโทษสูงสุดจำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 204 กระทง รวมโทษจำคุก 1,024 ปี แต่ตามกฏหมายสามารถจำคุกจำเลยในความผิด ได้ไม่เกิน 20 ปี และให้ร่วมกันชดใช้เงินคืนจำนวน 1,854,201,794.75 บาท แก่ธนาคารบีบีซี

ส่วนจำเลยที่ 1 นายเกริกเกียรติที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น โดยให้ศาลอุทธรณ์สรุปคำสั่ง ความผิดทางแพ่งใหม่อีกครั้ง และส่งให้ศาลฎีกาพิจารณาตามกระบวนการ โดยศาลจะเรียกทายาทมารับฟังและชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่ง

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ