posttoday

บุกจับคลินิกเถื่อนย่านปทุมฯลอบขายยาลดความอ้วน

17 ธันวาคม 2558

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ลุยจับคลินิกเถื่อน ย่านปทุมฯใช้แพทย์ปลอมรักษา ขายยาลดอ้วนสุขภาพ ลวงเหยื่อกลุ่มนักศึกษา

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ลุยจับคลินิกเถื่อน ย่านปทุมฯใช้แพทย์ปลอมรักษา ขายยาลดอ้วนสุขภาพ ลวงเหยื่อกลุ่มนักศึกษา

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.นต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) พร้อม ตร.(บก.ปคบ.) จนท.(อย.) และ จนท.สสจ.ปทุมธานี เข้าตรวจสอบ คลินิกเมดิซีน ตั้งอยู่เลขที่ 99/111-2 ม.13 ถ.พหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังจากได้รับหนังสือร้องเรียน จากประชาชนว่า คลินิกแห่งนี้ ได้ทำการเปิดการรักษาโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีการลักลอบจำหน่ายยาลดน้ำหนัก ที่ได้เพิกถอนทะเบียนตำรับยาไปแล้ว ยี่ห้อฟิตโคลสลี (Fit Closely) โดยอ้างว่าทำจากสมุนไพร มีงานวิจัยรองรับ ด้วยวิธีการขาย จะชวนสมาชิก เข้ากลุ่มไลน์ คุยเรื่องสุขภาพ หลังจากนั้นจะชวนทดลองใช้ยา และสั่งซื้อยาดังกล่าวผ่านทางไลน์กลุ่มของคลินิก

นอกจากนี้ ยังขยายผลไปถึงกลุ่มอาจารย์มหาวิทยาลัย ใน จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ได้ชวนนักศึกษาเป็นตัวแทนจำหน่ายยาดังกล่าวทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ประชาชนที่อยู่ใน จ.ปทุมธานี นนทบุรี และ พระนครศรีอยุธยา หลงเชื่อ โดยซื้อยาไปกินทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ ท้องเสียอย่างรุนแรง ใจสั่น ปาก และลิ้นชา นอนไม่หลับ ท้องผูก จึงร้องเรียนไปที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข และ สสจ.ปทุมธานี

นต.นพ.บุญเรืองฯ กล่าวว่า จากการตรวจสอบสถานพยาบาลดังกล่าว พบว่าเป็นคลินิกเวชกรรม ซึ่งมี นายสมรัช เรียงเครือ อายุ 32 ปี เป็นเจ้าของสถานที่ เบื้องต้นพบการกระทำความผิด  6 ข้อหา ได้แก่ 1) ประกอบกิจการสถานพยาบาล โดยไม่ได้รับอนุญาต 2) ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต 3) ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต 4) จำหน่ายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต 5) จำหน่ายยาโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา และ 6) ผลิตอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต

สำหรับของกลางที่ตรวจพบมีมากกว่า 20 รายการ ทั้งผลิตภัณฑ์อาหาร เช่น กาแฟ เครื่องสำอาง สบู่ และ วิตามินซีชนิดฉีด พร้อมกับยาลดความอ้วนชนิดแคปซูล บรรจุแผงละ 10 แคปซูล ยี่ห้อฟิตโคลสลี (Fit Closely) โดยจะส่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ดำเนินการตรวจสอบส่วนประกอบหากพบว่ามีสารต้องห้าม จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นต.นพ.บุญเรืองฯ ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ กระแสสุขภาพกำลังมาแรง ประชาชนให้ความใส่ใจในกระแสสุขภาพกันมากขึ้นแต่ขณะเดียวกันขอย้ำเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง การโฆษณาชวนเชื่อทางสื่อทั้งทีวี หนังสือพิมพ์ นิตยสาร และอินเทอร์เน็ต ซึ่งขณะนี้มักจะแฝงในรูปแบบของเรื่องสุขภาพมากขึ้น และมีรูปแบบทั้งโฆษณาโดยใช้ดารา หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคม มาเป็นผู้แนะนำสินค้า ผลิตภัณฑ์ และนำผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ ออกมาพูดถึงผลต่อสุขภาพตนเองหลังใช้ เป็นเสมือนผู้ให้การรับรองสรรพคุณแทน รวมทั้งการตั้งกระทู้ถาม ทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งอาจจะทำให้ได้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง และอาจจะตกเป็นเหยื่อ หลงเชื่อได้ ดังนั้นประชาชนจะต้องรู้เท่าทัน และเลือกใช้ช่องทางที่ถูกต้องในการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันอันตรายจากการใช้บริการ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้คุณภาพ มาตรฐาน ซึ่งขณะนี้กรม สบส. ได้จัดทำระบบอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถตรวจสอบสถานพยาบาลภาคเอกชน คลินิกได้รับการรับรองมาตรฐาน จำนวน 14,330 แห่ง ในหน้าเว็บไซต์กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ซึ่งกว่า 94 เปอร์เซ็นต์ มีการระบุพิกัดที่ตั้งชัดเจน จะเร่งทำให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2559 นี้

ด้าน นพ.ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผช.อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ในการเลือกรับบริการจากสถานพยาบาล และคลินิกทุกประเภท ขอให้ประชาชนสังเกตหลักฐานต่างๆ ที่สถานพยาบาลจะต้องแสดงตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ดังนี้  1) มีการแสดงใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล และใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาลไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่าย 2) ด้านหน้าสถานพยาบาลต้องมีแผ่นป้ายขนาดใหญ่แสดงชื่อสถานพยาบาล ประเภทและลักษณะการให้บริการของสถานพยาบาล รวมทั้งเลขที่ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลซึ่งมีเลขจำนวน 11 หลัก และ 3) ในส่วนของแพทย์ที่ทำการรักษาจะต้องตรงตามป้าย   ที่แสดงรูปถ่ายของผู้ประกอบวิชาชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะ พร้อมชื่อ-สกุล และเลขที่ใบอนุญาตของแพทย์หรือผู้ประกอบวิชาชีพ โดยต้องตรวจสอบแพทย์ที่ทำการรักษาว่าตรงกับรูปถ่ายที่แสดงหรือไม่ และให้ตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์แพทยสภา (www.tmc.or.th) หากมีข้อสงสัยหรือพบสถานพยาบาลและหมอเถื่อนสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่เว็บไซต์สารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์ (http://www.mrd.go.th/mrdonline2014), เฟซบุ๊คสารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์ (สพรศ.), เฟซบุ๊คมือปราบสถานพยาบาลเถื่อน และสายด่วน สบส. 02-193-7999 ตลอด 24 ชั่วโมง