posttoday

พบเนื้อคู่

31 ตุลาคม 2558

การทำธุรกิจไม่ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก สิ่งที่เห็นอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิด มีหลายเรื่องต้องลงมือทำแล้วถึงจะรู้

โดย...ซิวซี แซ่ตั้ง

การทำธุรกิจไม่ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก สิ่งที่เห็นอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิด มีหลายเรื่องต้องลงมือทำแล้วถึงจะรู้ ดังสุภาษิตไทยโบราณว่า “จะรู้ว่าช้างม้าตัวไหนดีก็ต้องลองขี่”

การทำธุรกิจก็เช่นเดียวกัน ต้องลงมือทำจึงจะรู้ว่าเป็นอย่างไร เมื่อลงมือทำผมจึงได้เรียนรู้ถึงปัญหาและอุปสรรคที่ไม่เคยรู้ไม่เคยเห็น ตอนทำงานเป็นลูกจ้างว่าหนักและเหนื่อยแล้ว แต่แค่แรงกาย ส่วนสมองแทบไม่ต้องคิดอะไร มีหน้าที่ทำไปตามที่รับผิดชอบวันต่อวัน จบแล้วก็พักนอน หยุดคิดไปเลย แต่เมื่อโดดมาเป็นเจ้าของกิจการเอง นอกจากต้องทำงานใช้แรงกายแล้ว ยังต้องคอยคุมรายจ่าย วางแผนการผลิต และหาลูกค้าเบ็ดเสร็จในหนึ่งเดียว

การเป็นเถ้าแก่โรงงานทำงานหนักมาก สมองต้องขบคิดตลอด ไม่มีคำว่าหยุดคิด นอกจากเวลาที่น็อกด้วยความเหนื่อยเพลียจนหลับไปนั่นแหละจึงจะหยุดคิด

ผมกลายเป็นเถ้าแก่เจ้าของโรงงานด้วยวัยเพียง 22 ปี นับว่าเป็นเถ้าแก่ที่อายุน้อยและยังโสด คนวัยนี้ส่วนใหญ่มักจะมองสาว จีบสาว แต่ผมไม่เคยคิด คงเป็นเพราะรู้ตัวดีว่า ไม่อยู่ในฐานะที่จะรับผิดชอบใครได้ กลัวพาคนอื่นมาลำบากด้วย ทำให้ไม่มีเรื่องนี้อยู่ในสมองเลย

การที่ผมไม่สนใจผู้หญิง ใช่ว่าจะทำให้ผมไร้คู่ หรือขาดรัก เนื่องจากการเป็นเถ้าแก่ตั้งแต่อายุยังน้อย ถือเป็นจุดเด่นให้สาวๆ และบรรดาแม่สื่อแม่ชักสนใจค่อนข้างมาก เพราะการที่คนจีนโพ้นทะเลมาตั้งโรงงานและเป็นเจ้าของกิจการได้ท่ามกลางอุปสรรคนานัปการเป็นเรื่องน่าสนใจ แสดงให้เห็นว่า ต้องเป็นคนขยัน อดทน และมีความมุ่งมั่นเป็นพิเศษ

ว่ากันว่า ในกลุ่มคนที่เดินทางลงเรือใหญ่ออกจากเมืองจีนมุ่งหน้ามาเมืองไทยด้วยกัน แบบที่เรียกว่า “ลงเรือลำเดียวกันนั้น” ถือว่าผมเป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้เร็วเกินคาด แถมผมเองก็รูปร่างหน้าตาดี เป็นที่ถูกตาต้องใจของสาวๆ อันนี้ไม่ได้พูดเอง มีคนชมผมเสมอ

ตอนนั้นหากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัด ผมก็เหมือน “เดือน” ที่ถูกล้อมรอบด้วยดาว มีผู้หญิงหลายคนสนใจผม และผู้ใหญ่จำนวนไม่น้อยอยากได้ผมไปเป็นลูกเขย หากแต่ผมไม่ได้หวั่นไหว ยังคงก้มหน้าก้มตาทำงานไม่มองใคร เสียงพูดให้ผมหาคู่เริ่มหนาหูขึ้นทุกวัน

“อาซิวซี เมื่อไหร่จะมีเมียจะได้มาช่วยกันทำมาหากิน งานสำคัญ ครอบครัวก็สำคัญ”

บ้างก็พูดว่า “คนเรานั้นถ้าประสบความสำเร็จควรต้องมีความพร้อมในหลายๆ ด้าน เช่น เงินทอง และครอบครัว ซึ่งสองสิ่งนี้เป็นของคู่กันที่ช่วยสร้างฐานะของวงศ์ตระกูลได้”

ส่วนใหญ่ที่พูดกับผมในทำนองนี้จะเป็นผู้ใหญ่ที่รักและเมตตาผม ตอนแรกก็ไม่สนใจ ต่อมาเริ่มมีความคิดเห็นคล้อยตาม แต่ก็อยากจะสร้างหลักปักฐานให้มั่นคงเสียก่อน เพราะตอนที่ผมเป็นคนงาน ได้เห็นชีวิตคนงานที่มีครอบครัวโดยยังไม่พร้อม ต่างต้องแบกภาระอย่างหนัก ทั้งลูกทั้งเมียต้องลำบากไปตามๆ กัน

เมื่อผมมาเป็นเถ้าแก่ก็เห็นชีวิตคนงานของผมหลายคน ก่อนแต่งงานพออยู่พอกิน แต่พอแต่งงานแล้ว ชีวิตก็ลำบากยากจนกว่าเดิมมาก อดีตทำคนเดียวเลี้ยงตัวเอง พอมีครอบครัวทำคนเดียวเลี้ยง 3-4 คน โอกาสจะสร้างฐานะได้ลำบากมาก ข้อเสียอีกอย่างคือ คนที่ไม่พร้อมเรื่องฐานะแล้วมีครอบครัว ส่วนใหญ่อยู่ด้วยกันไม่ค่อยยืด มักมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำ ผมเห็นมาเยอะ ดังนั้นผมจึงขยาด แต่คนเราเมื่อถึงคราวจะมีคู่ก็หนีไม่พ้น

ผมถูกแม่สื่อ ซึ่งเป็นคนที่ผมรู้จักและเคารพชวนให้ไปรับประทานอาหารที่บ้านของครอบครัวจีนแคะครอบครัวหนึ่ง แม่สื่อบอกแต่ว่า “อาซิวซี อั๊วมีคนดีๆ อยากแนะนำให้ลื้อรู้จัก เขาอยากรู้จักลื้อมาก”

“เขาเป็นใคร ทำไมอยากรู้จักผม”

“เอาเถอะน่า...อั๊วไม่เอาลื้อไปต้มยำทำแกงหรอกน่า ไปรู้จักคนที่อั๊วอยากให้รู้จัก มีแต่เรื่องดีๆ วันข้างหน้าลื้อจะต้องขอบใจอั๊ว” แม่สื่อพูดยิ้มๆ

คำพูดของแม่สื่อยังดังก้องอยู่ในหูผมจนทุกวันนี้ เพราะสิ่งที่แม่สื่อพูดเป็นจริงในเวลาต่อมา เพราะหากไม่มีแม่สื่อ ผมคงไม่ได้พบเนื้อคู่ที่อยู่ด้วยกันแล้วทำให้ชีวิตรุ่งเรือง และชีวิตผมคงไม่มีผู้หญิงที่ชื่อ “ชิวบ๊วย” เธอเป็นภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก คู่บุญคู่บารมีของผม เป็นแม่ของลูกๆ ผม ซึ่งเปรียบประดุจของขวัญล้ำค่ามากกว่าทรัพย์สินใดๆ ที่มีอยู่

ถึงวันนี้ผมยังนึกขอบคุณแม่สื่อเสมอมา

 (อ่านต่อฉบับวันเสาร์หน้า)

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ