10อุทยานยอดฮิตบ้านพักถูกจองเต็มยาวยันปี59

กรมอุทยานแห่งชาติฯ เผย 10 อุทยานฯยอดนิยม คนแห่เที่ยว บ้านพักถูกจองเต็มยาวถึงปีหน้า เผยปี58 เก็บเงินรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึงกว่า 886 ล้านบาท

นายสมหมาย กิตยากุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า กรมอุทยานได้จัดอันดับความนิยมของสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวไปพักแรมเป็นจำนวนมาก 10 อันดับ ประกอบด้วย 1.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา 2.อุทยานฯ ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ 3.อุทยานฯห้วยน้ำดัง จ.เชียงใหม่ 4.อุทยานฯ น้ำตกเอราวัณ จ.กาญจนบุรี 5.อุทยานฯ ภูหินร่องกล้า จ.เพชรบูรณ์  6.อุทยานฯหมู่เกาะช้าง จ.ตราด 7.อุทยานฯ ภูแลนคา จ.ชัยภูมิ 8.อุทยานฯ ผาแต้ม จ.อุบลราชธานี 9. อุทยานฯ ถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ จ.แม่ฮ่องสอน และ 10. อุทยานฯ ดอยผ้าห่มปก จ.เชียงใหม่ ขณะอุทยานฯที่มีนักท่องเที่ยวนิยมรองลงมา อาทิ อุท ยานฯ ดอยสุเทพ-ปุย จ.เชียงใหม่  อุทยานฯ ภูเรือ จ.เลย อุทยานฯ ภูกระดึง จ.เลย  อุทยานฯ เขาสก จ.สุราษฎร์ธานี  อุทยานฯ อ่าวพังงา จ.พังงา อุทยานฯ ดอยภูคา จ.น่าน อุทยานฯ แจ้ซ้อน จ.ลำปาง อุทยานฯ ศรีน่าน จ.น่าน อุทยานฯ ภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก อุทยานฯ เขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ เป็นต้น 

ทั้งนี้ บ้านพักในอุทยานฯ เหล่านี้ ส่วนใหญ่ถูกจองเต็มยาวไปถึงต้นปี 2559 แล้ว จะมีเหลือก็เพียงลานกางเต็นท์ เนื่องจากต้องจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว เพื่อไม่ให้กระทบกับธรรมชาติ ดังนั้น จึงอยากให้นักท่องเที่ยวตรวจสอบการจองบ้านพักและลานกางเต็นท์ว่าถูก จองเต็มแล้วหรือไม่ ซึ่งหากเต็มแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวในอุทยานฯ ใกล้เคียงแทนได้ โดยสามารถตรวจสอบและจองบ้านพักอุทยานแห่งชาติแบบออนไลน์ได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.dnp.go.th ตลอด 24 ชั่วโมง ได้ทางโทรศัพท์หมายเลข 0-2562--0760, 0-2561-0777 ต่อ 1743 และ 1744 ได้ในวันเวลาราชการหรือสายด่วนกรมอุทยานฯ 1362 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นายสมหมายกล่าวว่า สำหรับอุทยานฯ ที่มีความสวยงามและมีอากาศหนาวเย็นไม่แพ้อุทยานฯ ยอดนิยม ที่ควรไปเที่ยวและพักผ่อนในช่วงเทศกาลท่องเที่ยว เพื่อไม่ให้เกิดการแออัดทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและปัญหาการจราจรติดขัด ได้แก่

ภาคตะวันตก อุทยานฯ เฉลิมพระเกียรติไทยประจัน จ.ราชบุรี อุทยานฯลำคลองงู จ.กาญจนบุรี อุทยานฯ ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี อุทยานฯ เขาสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น

ภาคตะวันออก อุทยานฯ น้ำตกสามหลั่น จ.สระบุรี อุทยานฯ เขาสิบห้าชั้น จ.จันทบุรี อุทยานฯ ทับลาน จ.ปราจีนบุรี และอุทยานฯ ปางสีดา จ.สระแก้ว เป็นต้น

ภาคเหนือ อุทยานฯ แม่จริม จ.น่าน อุทยานฯ ศรีลานนา จ.เชียงใหม่ อุทยานฯ ภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์ อุทยานฯ ต้นสักใหญ่ จ.อุตรดิตถ์ อุทยานฯ ทุ่งแสลงหลวง จ.พิษณุโลก  อุทยานฯ คลองลาน จ.กำแพงเพชร อุทยานฯ คลองวังเจ้า จ.กำแพงเพชร อุทยานฯ แม่เมย จ.ตาก อุทยานฯ แม่ยม จ.แพร่ อุทยานฯ เป็นต้น

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุทยานฯ ภูจองนายอย จ.อุบลราชธานี อุทยานฯ ภูสระดอกบัว จ.มุกดาหาร อุทยานฯ ภูผาเทิบ จ.มุกดาหาร อุทยานฯ ไทรทอง จ.ชัยภูมิ เป็นต้น

ภาคใต้  อุทยานฯ ธารโบกขรณี  จ.กระบี่ อุทยานฯ หมู่เกาะระนอง จ.ระนอง อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว จ.ระนอง  อุทยานฯคลองพนม จ.สุราษฎร์ธานี อุทยานฯ เขาปู่-เขาย่า จ.พัทลุง อุทยานฯ น้ำตกสี่ขีด จ.นครศรีธรรมราช เป็นต้น

นอกจากนี้ ส่วนอุทยานฯ ที่ยังมีนักท่องเที่ยวไม่มากเพราะส่วนใหญ่มักจะเดินทางไปแล้วกลับเลย แต่น่าไปสัมผัส เช่น อุทยานฯ น้ำตกพลิ้ว จ.จันทบุรี อุทยานฯ ภูผาเทิบ จ.มุกดาหาร อุทยานฯ ตาดโตน จ.ชัยภูมิ เป็นต้น ทั้งนี้ การท่องเที่ยวอุทยานฯ ห้ามไม่ให้นำเข้าไปหรือจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการส่งเสียงดัง สร้างความเดือดร้อน รำคาญแก่นักท่องเที่ยวและรบกวนสัตว์ป่า นอกจากนี้ ขอเตือนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะทางภาคเหนือให้หยุดนำเตาไฟเข้าไปผิงภายใน เต็นท์ เพื่อบรรเทาความหนาวเย็น เพราะมีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตทุกปี ขณะที่อุทยานฯ เขาใหญ่ ได้สั่งห้ามรถจักรยานยนต์คันใหญ่ หรือบิ๊กไบค์ ขับขึ้นอุทยานโดยเด็ดขาดเพราะขับเร็ว ส่งเสียงดัง และขับชนสัตว์ป่าตายจำนวนมาก 

นอกจากนั้น สำหรับอุทยานฯ บางแห่งที่มีกิจกรรมนันทนาการ เช่น เดินป่าระยะไกล จักรยานเสือภูเขา ล่องแก่ง ปีนหน้าผา ดำน้ำลึก ซึ่งบางกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายหรือพลัดหลงออกนอกเส้นทาง และหลายกรณีนักท่องเที่ยวไม่ทำตามกฎของอุทยานฯ จะต้องมีการลงทะเบียนข้อมูลนักท่องเที่ยวที่ประสงค์จะประกอบกิจกรรมเหล่านี้ กับทางเจ้าหน้าที่ประจำอุทยานฯด้วย และหากนักท่องเที่ยวพบเห็นเหตุฉุกเฉินหรือต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า หน้าที่ สามารถแจ้งสายด่วนกรมอุทยานฯ หมายเลข 1362 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นายสมหมาย กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดเก็บเงินรายได้อุทยานฯ ประจำปี 2558 ตั้งแต่เดือน ต.ค.2557 - ก.ย.2558 ได้จัดเก็บเงินรายได้อุทยานฯ ทั้งหมดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึงกว่า 886 ล้านบาท โดย อุทยานฯ ที่จัดเก็บเงินรายได้สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.อุทยานฯ เอราวัณ จ.กาญจนบุรีประมาณ 90ล้านบาท 2.อุทยานฯ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา 87ล้านบาท 3.อุทยานฯ หาดนพรัตน์ธาราฯ จ.กระบี่ 83ล้านบาท