ทุนรับเหมาจีนซุ่มผุดคอนโดอ่อนนุช2พันล้าน
ซีทีซีซี ซุ่มซื้อที่ดินแกรนด์ยูนิตี้ฯ ย่านอ่อนนุช ผุดคอนโดระดับกลาง มูลค่า 2,000 ล.
ซีทีซีซี ซุ่มซื้อที่ดินแกรนด์ยูนิตี้ฯ ย่านอ่อนนุช ผุดคอนโดระดับกลาง มูลค่า 2,000 ล.
นายชนะ นันทจันทูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซ็นจูรี่ 21 เรียลตี้ แอฟฟิลิเอทส์ ประเทศไทย ที่ปรึกษาด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า บริษัท ซีทีซีซี เอ็นจิเนียริ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มรัฐวิสาหกิจรับเหมาก่อสร้างจากประเทศจีน ได้ซื้อที่ดินกว่า 3 ไร่ ย่านอ่อนนุช หรือสุขุมวิท 77 ติดกับโครงการยู ดีไลท์ @ อ่อนนุช สเตชั่น ซึ่งเดิมเป็นที่ดินของบริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ ในเครือยูนิเวนเจอร์ เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับกลางมูลค่าโครงการรวม 2,000 ล้านบาท
สำหรับโครงการดังกล่าว พัฒนาภายใต้ชื่อ อาร์ทีมิส สุขุมวิท 77 ความสูง 30 ชั้น จำนวน 673 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท หรือประมาณ 7 หมื่นบาท/ตารางเมตร (ตร.ม.) เตรียมเปิดตัวเป็นทางการเดือน พ.ย.นี้ และนับเป็นการเข้ามาพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นโครงการแรกของกลุ่มซีทีซีซี หลังจากศึกษาตลาดในไทยมากว่า 2 ปี พร้อมกับชิมลางรับงานรับเหมาก่อสร้างอาคารจี พระราม 9 ให้กับกลุ่มจีแลนด์
ทั้งนี้ กลุ่มซีทีซีซีมองตลาดไทยเป็นตลาดที่มีแนวโน้มที่ดี มีโอกาสในการลงทุนระยะยาว แม้ว่าปัจจุบันภาวะเศรษฐกิจและอสังหาริมทรัพย์ไทยจะชะลอตัว แต่ด้วยต้นทุนที่ดินและราคาอสังหาริมทรัพย์ในไทยยังไม่สูงมาก จึงมีโอกาสในการขยับขึ้นได้ในอนาคต
นอกจากนี้ ยังนำกลยุทธ์สร้างเสร็จก่อนขายมาใช้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคคนไทย โดยปัจจุบันงานก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 80% แล้ว และได้ว่าจ้างให้เซ็นจูรี่ 21 เป็นที่ปรึกษาด้านงานขาย ตั้งเป้าเจาะกลุ่มคนไทยเพราะมองว่าการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยต้องมองความต้องการท้องถิ่นของประเทศนั้นๆ เป็นหลัก
“แม้ว่าชาวจีนจะนิยมมาท่องเที่ยวในไทยมาก แต่ยังไม่ได้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยมากนัก จึงไม่เน้นเจาะกลุ่มคนจีน โดยต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ปี จึงจะเห็นภาพนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเที่ยวในไทยบ่อยขึ้นตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยมากอย่างชัดเจน” นายชนะ กล่าว
ขณะเดียวกัน เชื่อว่า กลุ่มซีทีซีซีจะลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทยต่อเนื่อง แต่อาจจะรอดูผลตอบรับจากโครงการนี้ก่อน ส่วนภาพรวมการลงทุนของกลุ่มทุนจีนในไทยจะมีเข้ามาต่อเนื่อง เพราะรัฐบาลจีนคุมกำเนิดการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในจีนเพื่อป้องกันภาวะฟองสบู่ ทำให้นักลงทุนที่มีศักยภาพสนใจลงทุนนอกประเทศจีนมากขึ้น โดยไทยถือว่าเป็นประเทศที่มีความเหมาะสมในการลงทุนมากที่สุด


